พบผลลัพธ์ทั้งหมด 94 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้แปรรูปในโครงสร้างอาคาร: ไม่อยู่ในข่ายต้องริบตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ไม้ของกลางซึ่งประกอบเป็นโครงเรือนที่กำลังปลูกสร้างอยู่เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างจึงไม่เป็นไม้แปรรูปตามความหมายของพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 4(4) จึงริบไม่ได้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักทำเป็นสิ่งปลูกสร้างไม่ต้องริบตามพ.ร.บ.ป่าไม้ หากไม่ใช่ไม้แปรรูป
ไม้สักที่ได้ทำเป็นบานประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปแล้ว เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้าง หาใช่เป็นไม้แปรรูปอันจะต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักทำเป็นสิ่งปลูกสร้างไม่ต้องริบตามพ.ร.บ.ป่าไม้
ไม้สักที่ได้ทำเป็นบานประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปแล้วเป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้าง หาใช่เป็นไม้แปรรูปอันจะต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปรรูปไม้เพื่อสะดวกการชักลาก ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ หากเป็นการตกแต่งจำเป็น
ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ให้ความหมายการแปรรูปไม้ว่าการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่ไม้ คือเลื่อย ผ่า ถาก ขุดหรือกระทำด้วยประการอื่นใดแก่ไม้ให้เปลี่ยนรูปหรือขนาดไปจากเดิมนอกจากการลอกเปลือกหรือตบแต่งอันจำเป็นแก่การชักลากฉะนั้น การที่จำเลยถากไม้ของกลางเป็นเหลี่ยมเพื่อสะดวกแก่การชักลาก และเป็นไม้ที่จำเลยซื้อไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงถือได้ว่าจำเลยได้ตบแต่งอันจำเป็นโดยมิได้มีเจตนาที่จะกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายแต่ประการใดจำเลยจึงไม่ควรมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และการพิพากษาริบไม้ของกลาง
คดีฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าได้มีการปิดประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกำหนดไว้ในมาตรา 5 พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 แต่ประการใด (ฎีกาที่ 1146/2502)
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน 0.53 เมตรลูกบาศก์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่3) พ.ศ. 2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งหมด
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน 0.53 เมตรลูกบาศก์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่3) พ.ศ. 2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักแปรรูป: การตีความคำว่า 'แปรรูป' ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ กรณีไม้สำเร็จรูป
จำเลยมีไม้สักที่ทำเป็นโครงและบานหน้าต่างแล้ว มิใช่ไม้ที่เพียงแต่เปลี่ยนรูปหรือขนาดหรือเปลี่ยนสภาพตามความหมายของคำว่า "แปรรูป" ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) มาตรา 3 จำเลยจึงไม่มีผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักแปรรูป: การตีความ 'แปรรูป' ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ กรณีไม้ที่ทำเป็นโครงสร้างสำเร็จรูป
จำเลยมีไม้สักที่ทำเป็นโครงและบานหน้าต่างแล้วมิใช่ไม้ที่เพียงแต่เปลี่ยนรูปหรือขนาดหรือเปลี่ยนสภาพตามความหมายของคำว่า'แปรรูป' ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) มาตรา 3 จำเลยจึงไม่มีผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปโดยเจ้าของ แม้ไม่ได้ดูแลรักษาเอง ก็ยังถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
การที่ลูกจ้างของเจ้าของไม้สักแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตเคลื่อนย้ายไม้ของกลางไปตามคำสั่งของเจ้าของ ก็แสดงว่าเจ้าของยังยึดถือเป็นเจ้าของไม้นั้นอยู่ เจ้าของไม้จะไปอยู่ที่ใด จึงไม่ทำให้การครอบครองตามความหมายพระราชบัญญัติป่าไม้ในฐานะเป็นเจ้าของสิ้นสุดไป และตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ก็มิได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เจ้าของไม้จำต้องดูแลรักษาด้วยตนเองแต่อย่างไรเจ้าของไม้ต้องมีความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการครอบครองไม้หวงห้าม: ครอบครองเพื่อตนเองหรือแทนผู้อื่น? ฎีกาวินิจฉัยว่าการครอบครองแทนผู้อื่นก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
คำว่าครอบครองตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3)พ.ศ.2494มาตรา 69 มีความหมายกว้างขวางกล่าวคือไม่เฉพาะครอบครองเพื่อตนเองเท่านั้นแต่รวมทั้งครอบครองแทนผู้อื่นด้วยเพราะไม่มีกฎหมายบทใดจำกัดไว้ว่าการครอบครองของที่มีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น จะเป็นความผิดต่อเมื่อครอบครองเพื่อตนเองตรงข้ามกฎหมายว่าด้วยการสมคบกันกระทำผิดก็ยังมีอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้ที่ได้มาโดยมิชอบ ก.ม. ไม่ต้องมีใบเบิกทาง การฟ้องผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้จึงไม่สำเร็จ
บทบัญญัติแห่ง ม. 38,39 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ไม่ใช้บังคับแก่ไม้ที่ได้มาโดยมิชอบด้วย ก.ม. การนำไม้ที่ได้มาโดยผิด ก.ม. เคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางกำกับไปจึงไม่เป็นผิดตามมาตราทั้งสองนี้