พบผลลัพธ์ทั้งหมด 82 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าหลังมติคณะกรรมการฯ และการรับมรดกความในคดีเช่า - การไม่จำเป็นต้องสอบสวนผู้เช่า
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าตลอดจนกฎกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกตามความแห่ง พ.ร.บ.นี้มิได้บังคับให้ต้องสอบสวนผู้เช่าในกรณีที่ผู้ให้เช่าขอเข้าอยู่ในห้องเช่าการสอบสวนในที่นี้ก็คือสอบสวนความจำเป็นของผู้ให้เช่าที่จะต้องเข้าอยู่ในห้องของตนที่ให้เช่า โดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับความจำเป็นของผู้เช่าฉนั้นเมื่อคณะกรรมการสอบสวนผู้ให้เช่าแล้วลงมติไปโดยมิได้สอบสวนผู้เช่าเลยเช่นนี้จึงเป็นการชอบด้วย ก.ม. แล้ว
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการ ฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯอย่างใด เมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วย ก.ม.แล้ว ผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการ ฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้ว ผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิความมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่ จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการ ฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตายไปก็ตาม ผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไปไม่ได้ ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯใหม่ มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตาม ก.ม. ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องต่อศาล
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการ ฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯอย่างใด เมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วย ก.ม.แล้ว ผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการ ฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้ว ผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิความมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่ จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการ ฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตายไปก็ตาม ผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ต่อไปไม่ได้ ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯใหม่ มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตาม ก.ม. ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 642/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฎีกาและการรับมรดกความ: ผู้รับมรดกไม่สามารถฎีกาแทนโจทก์ได้หากเกินอายุความ
เมื่ออ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว โจทก์ตาย ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับมรดกความแทนโจทก์ แต่เป็นเวลาล่วงพ้นอายุความฎีกาแล้วดังนี้ผู้ร้องฎีกาไม่ได้ ได้แต่เป็นผู้รับมรดกความแทนโจทก์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม: การอ้างเหตุรับมรดกสองประการ และสิทธิครอบครองปรปักษ์
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิที่ดิน โดยบรรยายฟ้องใจความว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกเจ้าของกรรมสิทธิที่ดิน จำเลยไม่ใช่ทายาทไม่มิสิทธิรับมรดกแต่แม้จะฟังว่าจำเลยเป็นทายาท โจทก์ก็ได้ครอบครองเป็นเจ้าของที่เกิน 10 ปีแล้ว ฟ้องของโจทก์เช่นนี้เป็นการแสดงสิทธิโดยอ้างเหตุ 2 ประการ ซึ่งจำเลยเข้าใจและสามารถต่อสู้คดีได้ดี ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่เมื่ออ้างเหตุรับมรดกและครอบครองปรปักษ์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยบรรยายฟ้องใจความว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินจำเลยไม่ใช่ทายาทไม่มีสิทธิรับมรดกแต่แม้จะฟังว่าจำเลยเป็นทายาทโจทก์ก็ได้ครอบครองเป็นเจ้าของเกิน 10 ปีแล้วฟ้องของโจทก์เช่นนี้เป็นการแสดงสิทธิโดยอ้างเหตุ 2 ประการซึ่งจำเลยเข้าใจและสามารถต่อสู้คดีได้ดี ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1687/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งสิทธิครอบครองโดยการขอรับมรดก ถือเป็นการฟ้องร้องได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขายที่ดินมีโฉนดแต่มีชื่อบุตรจำเลยเป็นเจ้าของให้แก่โจทก์ด้วยปากเปล่าโจทก์ได้ครอบครองเป็นเจ้าของมา 16 ปี บุตรจำเลยคนหนึ่งถึงแก่ความตาย จำเลยจึงไปประกาศขอรับมรดก แม้จำเลยจะต่อสู้ว่าที่ดินเป็นของบุตรจำเลยก็ตาม ก็ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดทายาทออกจากกองมรดกต้องแสดงเจตนาชัดเจน การรับมรดกบางส่วนไม่ถือเป็นการถูกตัดสิทธิ
ตาม ป.พ.พ.ม. 1608 ถ้าเจ้ามรดกจะตัดทายาทไม่ให้รับมรดกจะต้องแสดงเจตนาโดยแจ้งชัด ถ้าไม่มีการระบุเช่นนั้นและปรากฎว่าทายาทนั้นได้รับมรดกจากพินัยกรรม คือเงินจำนวนหนึ่งจึงถือไม่ได้ว่า ทายาทผู้นั้นถูกตัดมิให้รับมรดกตามมาตรา 1608 วรรคท้าย
พินัยกรรมได้ระบุที่ดิน 3 โฉนดให้แก่ทายาทคนหนึ่ง แต่ทายาทคนนั้นตายเสียก่อนเจ้ามรดกที่ดินเหล่านั้นจึงตกเป็นกองมรดกของผู้ตาย ซึ่งจำต้องแบ่งปันแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ตายตามส่วน
พินัยกรรมได้ระบุที่ดิน 3 โฉนดให้แก่ทายาทคนหนึ่ง แต่ทายาทคนนั้นตายเสียก่อนเจ้ามรดกที่ดินเหล่านั้นจึงตกเป็นกองมรดกของผู้ตาย ซึ่งจำต้องแบ่งปันแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ตายตามส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399-1400/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกของผู้คบหากันฉันสามีภริยา - การโอนสิทธิให้บุคคลภายนอกโดยสุจริต
เป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อยู่กินฉันสามีภริยากันกว่า10 กว่าปี และมีบุตรด้วยกันหลายคน เมื่อชายตายหญิงเชื่อโดยสุจริตว่าตนมีสิทธิรับมรดกของชาย จึงได้ขอรับมรดกที่ดินมีโฉนดของผู้ตาย เมื่อไม่มีทายาทคนใดมาคัดค้านจนหญิงได้รับโฉนดมาและโอนขายให้แก่บุคคลภายนอก บุคคลภายนอกได้เสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโดยสุจริตแล้ว บุคคลภายนอกย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 วรรคท้าย ทายาทจะขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเสียไม่ได้
ส่วนที่ดินที่ยังมิได้รับโอนมาทายาทย่อมขอให้เพิกถอนประกาศขอรับมรดกของหญิงนั้นได้
ส่วนที่ดินที่ยังมิได้รับโอนมาทายาทย่อมขอให้เพิกถอนประกาศขอรับมรดกของหญิงนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก: การรับมรดกความดำเนินคดีและการครอบครองทรัพย์สินหลังมีคำพิพากษา
บิดาเป็นความพิพาทเรื่องกรรมสิทธิที่ดินอยู่กับผู้อื่น แล้วบิดาตายในระหว่างคดี บุตรคนหนึ่งเข้ารับมรดกความดำเนินคดีต่อมาอีกราว 2 ปี คดีถึงที่สุดบิดาชนะคดี ที่ดินพิพาทจึงตกเป็นมรดกตกได้แก่ทายาท และปรากฎด้วยว่าทายาทของบิดาต่างก็มิได้ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทนี้ ดังนี้ ทายาทอื่นฟ้องทายาทผู้รับมรดกความ ขอแบงมรดกที่ดินแปลงนี้ เมื่อภายหลังที่ศาลชี้ขาดกรรมสิทธิในที่ดินพิพาทราว 1 เดือนได้ แม้จะเป็นเวลาที่เจ้ามรดกตายแล้วเกิน 1 ปีก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 870/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทายาทอันดับ 6 และการรับมรดกแทนที่
ย่าของโจทก์เป็นป้าผู้ตายเมื่อผู้ตายไม่มีทายาทในอันดับ 1 ถึง 5และไม่มีผู้รับมรดกแทนที่แล้วย่าของโจทก์ผู้เป็นป้าผู้ตายก็ย่อมเป็นทายาท(อันดับ 6)มีสิทธิได้รับมรดกผู้ตาย และเมื่อย่าของโจทก์และบิดาของโจทก์ตายแล้ว โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกแทนที่ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1639
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกของบุตรของบุตรบุญธรรม: การรับมรดกแทนที่กันได้ตามกฎหมาย
บุตรบุญธรรมตายก่อนผู้รับบุตรบุญธรรม บุตรของบุตรบุญธรรมย่อมมีสิทธิรับมรดกแทนที่กันได้ตามสิทธิที่ ก.ม.ให้ไว้ตามประมวลแพ่ง ฯ มาตรา 1639