คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับรองบุตร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 91 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องรับรองบุตรต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด มิเช่นนั้นศาลยกฟ้อง
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรนั้นจะมีได้แต่ในกรณีที่แจ้งไว้ตาม ป.พ.พ. ม.1529
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า "ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ" ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตาม ม.1529(4).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขอรับรองบุตรต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขฟ้องไม่รับ
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรนั้นจะมีได้แต่ในกรณีที่แจ้งไว้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1529
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องใจความว่า 'ข้าพเจ้ากับจำเลยได้เสียเป็นสามีภรรยากันเอง ฯลฯ 'ดังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ตามมาตรา1529(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร และความเกี่ยวเนื่องกับการรับรองบุตร
การฟ้องขอให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กรวมเข้ามาในคดีเดียวกันกับขอให้รับรองบุตรนั้นย่อมทำได้ ไม่มีกฎหมายห้ามโดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน
ส่วนที่โจทก์ฟ้องขอให้จ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กนั้นไม่ได้ฟ้องในนามของบุตรหรือในฐานะเป็นผู้แทนบุตร แต่ฟ้องในฐานะโจทก์เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพื่อให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรรวมกับโจทก์จึงไม่เป็นอุทลุม (ป.พ.พ. ม.1534)
ข้อเถียงของจำเลยเรื่องอำนาจปกครองบุตรนั้นมิได้ยกขึ้นคัดค้านเสียแต่แรกจึงไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขอค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรควบคู่กับการรับรองบุตร และอำนาจฟ้องในฐานะมารดาผู้ใช้อำนาจปกครอง
การฟ้องขอให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กรวมเข้ามาในคดีเดียวกันกับขอให้รับรองบุตรนั้น ย่อมทำได้ไม่มีกฎหมายห้ามโดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน
ส่วนที่โจทก์ฟ้องขอให้จ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กนั้นไม่ได้ฟ้องในนามของบุตรหรือในฐานะเป็นผู้แทนบุตร แต่ฟ้องในฐานะโจทก์เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพื่อให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรร่วมกับโจทก์จึงไม่เป็นอุทลุม(ป.พ.พ. ม.1534)
ข้อเถียงของจำเลยเรื่องอำนาจปกครองบุตรนั้นมิได้ยกขึ้นคัดค้านเสียแต่แรก จึงไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมายและการบังคับใช้สัญญาประนีประนอม แม้ขาดอายุความมรดก
ประนีประนอม,การรับรองบุตรมฤดก,อายุความ
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้ไปแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวว่า เป็นบุตรและใช้นามสกุลของบิดา และบิดาได้อุปการะบุตรมาอันเป็นพฤติการณ์ที่รู้อยู่กันทั่วไป ดังนี้ได้ชื่อว่าบิดาได้รับรองแล้ว และถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานของบิดาและมีสิทธิรับมรดกแทนที่บิดาได้
แม้คดีจะขาดอายุความมฤดกแล้วแต่ทายาททำสัญญาประนีประนอมแบ่งทรัพย์มฤดกแก่กัน สัญญานั้นย่อมใช้บังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมายและสิทธิมรดก สัญญาประนีประนอมมีผลผูกพัน
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้ไปแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวว่าเป็นบุตรและใช้นามสกุลของบิดา และบิดาได้อุปการะบุตรมาอันเป็นพฤติการณ์ที่รู้อยู่กันทั่วไปดังนี้ได้ชื่อว่าบิดาได้รับรองแล้ว และถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานของบิดาและมีสิทธิรับมรดกแทนที่บิดาได้
แม้คดีจะขาดอายุความมรดกแล้วแต่ทายาททำสัญญาประนีประนอมแบ่งทรัพย์มรดกแก่กัน สัญญานั้นย่อมใช้บังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมายมีสิทธิในมรดก หากบิดาเลี้ยงดูและจดทะเบียนรับรอง
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้เลี้ยงดูในฐานะบิดากับบุตรโดยลงทะเบียนสำมะโนครัวว่าเป็นบุตรของตนและใช้นามสกุลของตน ดังนี้พอฟังได้ว่าบิดาได้รับรองบุตรนอกกฎหมายนั้นเป็นบุตรของตนตาม ป.พ.พ.มาตรา 1627 บุตรนั้นย่อมมีสิทธิได้รับมรดกของบิดาตามมาตรา 1629 ( 1 )
ศาลจดรายงานพิจารณาตามคำแถลงของจำเลยในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรเพื่อขอรับส่วนแบ่งมรดกด้วย โจทก์แถลงไม่คัดค้านแล้ว ดังนี้โจทก์จักกลับมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่าคำแถลงของจำเลยมิใช่เป็นคำร้องสอดตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 57 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมายมีสิทธิได้รับมรดก หากมีการเลี้ยงดูและจดทะเบียนรับรอง
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้เลี้ยงดูในฐานะบิดากับบุตรโดยลงทะเบียนสำมะโนครัวว่าเป็นบุตรของตนและใช้นามสกุลของตนดังนี้พอฟังได้ว่าบิดาได้รับรองบุตรนอกกฎหมายนั้นเป็นบุตรของตนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 บุตรนั้นย่อมมีสิทธิได้รับมรดกของบิดาตามมาตรา 1629(1)
ศาลจดรายงานพิจารณาตามคำแถลงของจำเลยในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรเพื่อขอรับส่วนแบ่งมรดกด้วยโจทก์แถลงไม่คัดค้านแล้ว ดังนี้โจทก์จักกลับมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่าคำแถลงของจำเลยมิใช่เป็นคำร้องสอดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีมรดก: การที่โจทก์ไม่ยกเหตุรับรองบุตรขึ้นต่อสู้ในคดีเดิม ทำให้ไม่สามารถฟ้องเรียกมรดกโดยอ้างเหตุเดียวกันอีกได้
คดีเดิมจำเลยฟ้องเรียกมรดกผู้ตายจากโจทก์ จึงเป็นกรณีที่พิพาทกันเรื่องมรดกโดยตรงและมีประเด็นชัดแจ้งว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายได้อย่างไร แต่โจทก์ให้การสู้คดีเฉพาะเรื่องพินัยกรรมอย่างเดียว มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เลยว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตรดังนี้ เมื่อศาลพิพากษาชี้ขาดว่าพินัยกรรมนั้นใช้ไม่ได้ คดีถึงที่สุดฉนั้นโจทก์จะรื้อฟื้นกล่าวหาเรียกมรดกรายเดียวกันขึ้นมาอีกโดยกล่าวอ้างว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตรไว้แล้วโจทก์จึงมีสิทธิได้รับมรดกเช่นนี้หาได้ไม่เพราะมิใช่คนละประเด็นกับคดีก่อน ย่อมถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำเรื่องมรดก: การที่โจทก์ไม่ยกเหตุรับรองบุตรเป็นข้อต่อสู้ในคดีก่อน ทำให้ไม่สามารถฟ้องเรียกมรดกโดยอ้างเหตุเดียวกันอีกได้
คดีเดิมจำเลยฟ้องเรียกมรดกผู้ตายจากโจทก์ จึงเป็นกรณีที่พิพาทกันเรื่องมรดกโดยตรงและมีประเด็นชัดแจ้งว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายได้อย่างไร แต่โจทก์ให้การสู้คดีเฉพาะเรื่องพินัยกรรมอย่างเดียว มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เลยว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตร ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาชี้ขาดว่าพินัยกรรมนั้นใช้ไม่ได้ คดีถึงที่สุด ฉะนั้นโจทก์จะรื้อฟื้นกล่าวหาเรียกมรดกรายเดียวกันขึ้นมาอีกโดยกล่าวอ้างว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตรไว้แล้วโจทก์จึงมีสิทธิได้รับมรดกเช่นนี้หาได้ไม่ เพราะมิใช่คนละประเด็นกับคดีก่อน ย่อมถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2498)
of 10