คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วิธีพิจารณาความอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 90 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีอาญา: การใช้บทบัญญัติวิธีพิจารณาความแพ่งโดยอนุมาติตามกฎหมายอาญา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่ได้บัญญัติเรื่องการขอเลื่อนคดีไว้โดยเฉพาะ จึงนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 40 มาใช้บังคับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำคุกในคดีฆ่าผู้อื่น: ศาลฎีกาพิจารณาการขอเพิ่มโทษตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 เช่นนี้ ถือได้ว่าโจทก์ฎีกาขอให้วางโทษจำเลยให้หนักขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 212 ประกอบกับมาตรา 225 แล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีซ้ำซ้อนในความผิดเดียวกัน สิทธิฟ้องระงับตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ผู้ว่าคดีได้ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวง ฯ ศาลแขวงลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา299 ผู้เสียหายได้มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 อีก ดังนี้ เมื่อกรณีเป็นเรื่องเดียวกัน และวาระเดียวกันสิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 29 (4)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 299 แม้ มาตรา 297 ศาลแขวงจะไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา แต่ก็มีอำนาจไต่สวนมูลฟ้องอยู่ เมื่อปรากฏว่าโจทก์นำคดีที่ศาลพิพากษาแล้วมาฟ้องใหม่ ศาลก็ย่อมรับฟ้องของโจทก์ไว้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีอาญา แม้ศาลชั้นต้นเป็นศาลแขวง และการใช้กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ แม้ศาลชั้นต้นนั้นจะเป็นศาลแขวงคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก็หาถึงที่สุดไม่ ยังชอบที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ต่อมาได้ตามกระบวนความ
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยหลบหนีและฎีกาไม่เป็นไปตามเงื่อนไข พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมวิธีพิจารณาความอาญา
ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย เพราะจำเลยหลบหนี เป็นกรณีไม่เข้าข่าย มาตรา 201 ตามที่ได้แก้ไขโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2499 เพราะมิใช่กรณีส่งสำเนาฎีกาแก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ศาลฎีกาจึงต้องจำหน่ายคดีเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพกับการฟังพยานโจทก์ในคดีอัตราโทษสูงกว่า 10 ปี ศาลต้องฟังพยานเสมอ
ในคดีที่กฎหมายบัญญัติลงโทษจำเลย มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี นั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาล ก็ต้องฟังพยานโจทก์ต่อไป เพียงแต่โจทก์ส่งคำรับสารภาพชั้นสอบสวนแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ และพิพากษาคดีนั้นยังไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 176.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ชัดเจนจำเลยไม่เข้าใจข้อกล่าวหา ศาลยกฟ้องตามวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า จำเลยทั้ง 3 บังอาจใช้กำลังกายและศาตราวุธทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จำเลยที่ 1บาดเจ็บสาหัส จำเลยที่ 2 ไม่บาดเจ็บ จำเลยที่ 3 บาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254,256 ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยคนใดย่อมไม่อาจเข้าใจว่า ต้องหาว่าทำร้ายจำเลยคนใดอย่างไร ถึงบาดเจ็บสาหัสหรือไม่และจะลงโทษตาม มาตรา 258 ก็ไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หากศาลดำเนินกระบวนการสืบพยานไปแล้ว ต้องยกฟ้อง
ฟ้องที่มิได้ลงชื่อโจทก์นั้นเป็นฟ้องไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7)
ศาลชั้นต้นได้สั่งประทับฟ้องที่ไม่ถูกต้องไว้ และดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปแล้ว คงเหลือแต่พนักงานสอบสวนอีกปากเดียว ความจึงปรากฏจากคำร้องของจำเลยว่าโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในฟ้องดังนี้จึงมีวิธีที่ศาลจะปฏิบัติตามมาตรา 161 ได้อีกทางเดียวคือให้ยกฟ้องเสีย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/92)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งออกยาสูบโดยไม่ได้รับอนุญาต และประเด็นการตรวจค้นที่ไม่เป็นไปตามวิธีพิจารณาความอาญา
กรนีที่ถือว่าฟ้องโจทไม่เคลือบคลุมพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสุลกากรเปนผู้ตรวดค้นของกลาง และมิได้ทำการบันทึกการตรวดค้นตามวิธีการแห่งประมวนกดหมายวิธีพิจารนาความอาญาดังนี้ โจทนำพยานบุคคลที่รู้เห็นเข้าสืบได้เพราะการตรวดค้นได้กะทำโดยอำนาดของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสุลกากรตามกดหมายสุลกากร
ตามฟ้องกล่าวว่าเหตุเกิดเวลา 18.00 น. เสสทางพิจารนาปรากตว่าเหตุเกิดเวลา 17.00น. เสสดั่งนี้ เปนการประมานเวลาไกล้เคียงกัน เรียกไม่ได้ว่าข้อเท็ดจิงต่างกัน
จำเลยนำยาสูบออกไปยังสถานีปะดังเบซานอกราชอานาจักรโดยมิได้รับอนุญาตจากรัถมนตรีกะซวงพานิชหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายซึ่งเปนเจ้าพนักงาน ดั่งนี้ ย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปและนำเข้ามาไนราชอานาจักรซึ่งสินค้าบางหย่าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นอุทธรณ์: ข้อจำกัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
กฎหมายที่ยกขึ้นฏีกาต้องปรากฏว่าได้ยกขึ้นกันมาแล้วในศาลชั้นต้น+ศาลอุทธรณ์
of 9