คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลไม่รับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 121 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3029-3030/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การเพิ่มเติมในคดีแรงงาน ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด หากไม่ถูกต้อง ศาลไม่รับคำให้การ
กระบวนพิจารณาคดีแรงงานนั้น หากจำเลยประสงค์จะยื่นคำให้การเป็นหนังสือก็ชอบที่จะยื่นก่อนวันนัดพิจารณา ถ้ามิได้ยื่นไว้ในวันพิจารณาจำเลยจะให้การต่อศาลแรงงานด้วยวาจา ให้ศาลแรงงานจดบันทึกก็ได้ คำให้การดังกล่าวต่างก็เป็นคำให้การที่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนั้นหากจำเลยประสงค์จะให้การในเรื่องหนึ่งเรื่องใดอีก ก็ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179, 180 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 โดยจะต้องทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลแรงงานเพื่อพิจารณาสั่งตามบทกฎหมายดังกล่าว การที่จำเลยให้การด้วยวาจาในวันนัดพิจารณาซึ่งศาลแรงงานจดบันทึกไว้แล้ว ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกจำเลยทำคำให้การเป็นหนังสือยื่นต่อศาลแรงงานอีก โดยมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามบทกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบศาลแรงงานย่อมไม่รับคำให้การที่ยื่นนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4052/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ต้องวางค่าธรรมเนียมพร้อมกัน หากไม่วางศาลไม่รับอุทธรณ์ การวางภายหลังอายุความมิชอบ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 บัญญัติ ให้ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้ นำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ย่อมเป็นการไม่ชอบ
ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไปแล้วการที่จำเลย นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาลภายหลังเมื่อเกินกำหนด อายุอุทธรณ์แล้ว จะถือว่าศาลได้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม ให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 หาได้ไม่ และกรณีไม่ใช่เรื่องของการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาล โดยถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18ซึ่งศาลจะต้องสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วน เสียก่อนที่จะสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3012/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งและเรียกจำเลยร่วมต้องไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับคำฟ้องแย้งและคำขอเรียกจำเลยร่วมได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับคำฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 และมีคำสั่งให้เรียกบริษัทร.ส.พ.ประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามคำร้องขอของจำเลยที่ 1 ต่อมาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งต้องกันให้จำเลยที่ 1 ไปฟ้องโจทก์และจำเลยร่วมเป็นคดีใหม่ โดยอาศัยเหตุที่ว่าคำฟ้องแย้งและคำร้องขอให้เรียกบริษัทร.ส.พ.ประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วมไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ย่อมมีผลเป็นการเพิกถอนคำสั่งเดิมที่รับฟ้องแย้งและที่ให้เรียกบริษัทร.ส.พ.ประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วม
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายอ้างว่า จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถบรรทุกของโจทก์นำไปให้ อ. ลูกจ้างขับในทางการที่จ้างชนกับรถคันอื่นโดยประมาท เป็นเหตุให้รถของโจทก์พลิกคว่ำไฟไหม้เสียหาย จำเลยที่ 1 ฟ้องแย้งเรียกร้องเงินค่ารถบรรทุกของจำเลยที่ 1ที่ขายให้โจทก์ ค่าตัวถังรถค่าเช่าซื้อรถที่จำเลยที่ 1 ชำระให้แก่โจทก์ไปแล้ว ค่าขายซากรถที่คาดว่าจะขายได้และค่าสินไหมทดแทนซึ่งโจทก์ได้รับจากผู้รับประกันภัย ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1ดังกล่าวเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม จึงไม่มีเหตุที่จะรับคำฟ้องแย้งไว้พิจารณา
เมื่อศาลไม่รับพิจารณาคำฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 จึงไม่มีคำฟ้องแย้งที่จะบังคับเอาแก่จำเลยร่วมเหลืออยู่ต่อไปไม่มีเหตุที่จำเลยที่ 1 จะร้องขอให้เรียกบริษัทร.ส.พ.ประกันภัย จำกัดเข้ามาเป็นจำเลยร่วม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3012/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องแย้งและคำขอเรียกจำเลยร่วมต้องไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับพิจารณาหากไม่มีความเชื่อมโยง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับคำฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 และมีคำสั่งให้เรียกบริษัทร.ส.พ.ประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามคำร้องขอของจำเลยที่ 1 ต่อมาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งต้องกันให้จำเลยที่ 1 ไปฟ้องโจทก์และจำเลยร่วมเป็นคดีใหม่ โดยอาศัยเหตุที่ว่าคำฟ้องแย้งและคำร้องขอให้เรียกบริษัทร.ส.พ.ประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วมไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ย่อมมีผลเป็นการเพิกถอนคำสั่งเดิมที่รับฟ้องแย้งและที่ให้เรียกบริษัทร.ส.พ.ประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วม โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายอ้างว่า จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถบรรทุกของโจทก์นำไปให้ อ. ลูกจ้างขับในทางการที่จ้างชนกับรถคันอื่นโดยประมาท เป็นเหตุให้รถของโจทก์พลิกคว่ำไฟไหม้เสียหาย จำเลยที่ 1 ฟ้องแย้งเรียกร้องเงินค่ารถบรรทุกของจำเลยที่ 1 ที่ขายให้โจทก์ ค่าตัวถังรถค่าเช่าซื้อรถที่จำเลยที่ 1 ชำระให้แก่โจทก์ไปแล้วค่าขายซากรถที่คาดว่าจะขายได้ และค่าสินไหมทดแทนซึ่งโจทก์ได้รับจากผู้รับประกันภัย ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1ดังกล่าวเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม จึงไม่มีเหตุที่จะรับคำฟ้องแย้งไว้พิจารณา
เมื่อศาลไม่รับพิจารณาคำฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 จึงไม่มีคำฟ้องแย้งที่จะบังคับเอาแก่จำเลยร่วมเหลืออยู่ต่อไปไม่มีเหตุที่จำเลยที่ 1 จะร้องขอให้เรียกบริษัทร.ส.พ.ประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับพิจารณารวมกัน
โจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสองมีที่ดินติดต่อกันต่างฝ่ายต่างฟ้อง อ้างว่าที่ดินของอีกฝ่ายหนึ่งตกอยู่ในภารจำยอมโดยอายุความ จึงเป็น ที่เห็นได้ว่าที่ดินที่ตกเป็นภารจำยอมตามฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสอง เป็นที่ดินคนละแปลงกับภารจำยอมตามฟ้องของโจทก์ทั้งสอง จึงเป็น ฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมจะรับไว้พิจารณารวมกับฟ้องเดิมหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3601/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยวเนื่อง ศาลไม่รับฟ้อง
ฟ้องกล่าวอ้างว่า เดิมจำเลยเป็นผู้เช่าที่ดินของโจทก์ปลูกเรือนอยู่อาศัย สัญญาเช่าครบกำหนดแล้ว จึงบอกเลิกสัญญาเช่า และให้จำเลยรื้อถอนโรงเรือนออกไป แต่จำเลยเพิกเฉยคงอยู่ในที่ดินโดยละเมิด ส่วนฟ้องแย้งเป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างว่าโจทก์แจ้งว่าจะปรับปรุงการจัดผลประโยชน์ในที่ดินใหม่ เสร็จแล้วจะให้จำเลยเช่าต่อไปเป็นทำนองให้คำมั่นว่าจะให้จำเลยเช่า ดังนี้ หาใช่เรื่องเกี่ยวกันไม่ เพราะคำมั่นไม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าที่หมดอายุไปแล้ว หรือมูลละเมิดที่โจทก์ฟ้อง ฟ้องแย้งจึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2410/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งต้องแสดงข้อหาชัดเจนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มิเช่นนั้นศาลไม่รับพิจารณา
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 79 ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ดังนั้น คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งจึงต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสองด้วย เมื่อเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม ศาลก็ไม่อาจรับไว้พิจารณาได้
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 73 ได้บัญญัติถึงบัตรเลือกตั้งที่ถือว่าเป็นบัตรเสียไว้ถึง 6 ประเภท หรือชนิด เมื่อผู้ร้องอ้างเหตุคัดค้านคลุม ๆ มาว่าคณะกรรมการตรวจคะแนนของหน่วยเลือกตั้งหลายหน่วยของอำเภอชุมพวงได้จงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ได้อ่านบัตรเลือกตั้งผิดไปจากความจริง โดยอ่านบัตรดีของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสีย อ่านบัตรเสียของผู้อื่นเป็นบัตรดี มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่ากรรมการตรวจคะแนนอ่านบัตรดีให้เป็นบัตรเสียชนิดไหน และอ่านบัตรเสียชนิดไหนให้เป็นบัตรดี จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง
คำร้องอ้างว่าคณะกรรมการตรวจคะแนนทำรายงานการเลือกตั้งไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยมิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่ากรรมการคนใดกระทำการอย่างไรและไม่ตรงกับความเป็นจริงอย่างไร เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง
คำร้องอ้างเหตุว่า คณะกรรมการอ่านบัตรเลือกตั้งผิดไปจากความจริงโดยมิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาว่ากรรมการผู้ใด ที่หน่วยเลือกตั้งใด และการอ่านเช่นนั้นเป็นเหตุให้คะแนนของผู้ร้องน้อยกว่าความจริงประมาณเท่าใด หากน้อยกว่าความจริงเพียงเล็กน้อยก็ไม่เป็นเหตุที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ คำร้องข้อนี้จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3357/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต่างเรื่องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับพิจารณาพร้อมกันได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องเช่ากับเรียกค่าเสียหายจำเลยรับว่าได้เช่าห้องโจทก์จริง แต่ได้ตกลงกับโจทก์ให้โจทก์ปรับปรุงห้องเช่าใหม่ โจทก์บิดพลิ้วจำเลยจึงฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ก่อสร้างตึกแถวใหม่แล้วให้โจทก์จดทะเบียนให้จำเลยเช่ามีกำหนด 30 ปีในอัตราค่าเช่าตามที่โจทก์จำเลยได้ตกลงกันไว้ ฟ้องแย้งของจำเลยดังกล่าวต่างเรื่องต่างประเด็นกับฟ้องเดิม เป็นฟ้องเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จึงพิจารณาฟ้องแย้งของจำเลยไปพร้อมกับข้อต่อสู้ในคำให้การไม่ได้ ศาลไม่รับฟ้องแย้งของจำเลยชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3079/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่ – ฟ้องแย้งค่าเสียหาย – ประเด็นไม่เกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม ศาลไม่รับพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาทจำเลยให้การว่าได้เช่าบ้านจาก ช. จำเลยมีสิทธิอยู่ต่อไปจนครบสัญญาเช่า ประเด็นตามคำฟ้องเดิมจึงมีว่าโจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยหรือไม่
ที่จำเลยฟ้องแย้งว่า การที่โจทก์บังคับให้จำเลยออกจากบ้านพิพาทเป็นการรอนสิทธิ เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหาย เพราะจำเลยได้เสียเงินซ่อมบ้านพิพาทเงินกินเปล่าและค่าเช่าล่วงหน้าให้ ช. ผู้ให้เช่าไปนั้น สิทธิของจำเลยหากถูกรบกวนผู้ที่ต้องรับผิดในการรอนสิทธิคือ ช.ซึ่งเป็นคู่สัญญากับจำเลยฟ้องแย้งจึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งว่า การดำเนินคดีทางศาลเป็นเหตุให้จำเลยไม่มีเวลาและกำลังใจประกอบการค้าขายทำให้ขาดประโยชน์นั้น ค่าขาดประโยชน์ในการค้าขายไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับพิจารณา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลย จำเลยให้การว่านายประสิทธิ์สามีจำเลยเคยกู้เงินโจทก์ นายประสิทธิ์ถึงแก่กรรม โจทก์มายึดรถยนต์ของจำเลยไปและให้จำเลยออกเงินค่าซ่อมรถยนต์อีก 10,000 บาท เพื่อนำมาชำระหนี้ให้โจทก์ แต่โจทก์ไม่ซ่อมรถ จำเลยจึงตีราคารถยนต์เป็นเงิน 60,000 บาท หักที่เอาไปแล้ว 10,000 บาท เหลือค่ารถยนต์อีก 50,000 บาท จึงฟ้องแย้งเรียกเงินจำนวนดังกล่าวคืน จำเลยไม่ได้รับว่าจำเลยกู้เงินโจทก์แม้จำเลยจะกล่าวถึงหนี้เงินกู้ด้วย ก็เป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างขึ้นมาใหม่ไม่เกี่ยวกับสัญญากู้เดิมจึงรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณาในคดีนี้ไม่ได้
of 13