คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สลักหลัง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3147/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมกู้ยืมเงินและการสลักหลังเช็ค/ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อประกันการเล่นหุ้น ไม่เป็นนิติกรรมอำพราง
จำเลยต้องการตั๋วสัญญาใช้เงินมาวางเป็นหลักทรัพย์ประกันในการเล่นหุ้นต่อโจทก์จึงได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์ โจทก์ได้ออกเช็คตามจำนวนเงินที่กู้แก่จำเลยแล้ว จำเลยมิได้นำเช็คไปรับเงินจากธนาคาร แต่สลักหลังให้โจทก์เพื่อฝากเงินไว้แก่โจทก์ โจทก์จึงได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินแก่จำเลยเพื่อนำไปวางเป็นหลักทรัพย์ประกันในการเล่นหุ้นต่อโจทก์ดังนี้ การที่จำเลยกู้เงินจากโจทก์แล้วฝากเงินไว้แก่โจทก์ แม้จะมีผลทำให้จำเลยเป็นทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้โจทก์ในขณะเดียวกันก็เป็นความสมัครใจของจำเลยเองวัตถุที่ประสงค์ของนิติกรรมไม่เป็นการต้องห้ามโดยกฎหมายเพื่อเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดีของประชาชนเมื่อสัญญากู้ที่จำเลยทำขึ้นกับโจทก์เป็นนิติกรรมที่ทำขึ้นโดยตั้งใจจะให้มีผลผูกพันมิได้มีการอำพรางนิติกรรมอื่นใดจึงมิใช่นิติกรรมอำพราง จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญากู้ จะอ้างว่าไม่ได้รับเงินตามสัญญากู้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกเงินจากเช็ค: การโอนเช็คโดยไม่ลงลายมือชื่อทำให้มีฐานะเป็นผู้ทรงเช็ค
โจทก์โอนเช็คพิพาทไปโดยมิได้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาท โจทก์จึงมิใช่ผู้สลักหลังลอยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 919 เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์จึงมีฐานะเป็นผู้ทรงเช็คพิพาท มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่ตั๋วเงินถึงกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1752/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คผู้ถือ สลักหลังเป็นประกัน (อาวัล) ผู้ถือมีสิทธิฟ้องภายใน 1 ปี
เช็คพิพาทจำเลยสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ย่อมโอนไปเพียงด้วยการส่งมอบให้กันโดยไม่จำต้องสลักหลัง การที่โจทก์สลักหลังเช็คพิพาทขายลดให้แก่ธนาคาร ย่อมเป็นเพียงประกัน (อาวัล) จำเลยผู้สั่งจ่าย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921, 989 เมื่อเช็คพิพาทเรียกเก็บเงินไม่ได้ ธนาคารผู้รับซื้อเช็คจึงหักเงินจากบัญชีโจทก์และส่งเช็คกลับคืนมาให้โจทก์ครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ถือ ย่อมเป็นผู้ทรงตาม มาตรา 904 จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายภายในอายุความ 1 ปีตามมาตรา 1002 กรณีไม่เข้ามาตรา 1003 ซึ่งมีอายุความ 6 เดือน นับแต่วันที่ผู้สลักหลังเข้าถือเอาตั๋วเงินและใช้เงิน เพราะโจทก์มิใช่ผู้สลักหลังตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1752/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนเช็คผู้ถือ การสลักหลังเป็นประกัน และสิทธิของผู้ทรง
เช็คพิพาทจำเลยสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ย่อมโอนไปเพียงด้วยการส่งมอบ ให้กันโดยไม่จำต้องสลักหลัง การที่โจทก์สลักหลังเช็คพิพาทขายลดให้แก่ธนาคาร ย่อมเป็นเพียงประกัน(อาวัล) จำเลยผู้สั่งจ่าย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921,989 เมื่อเช็คพิพาท เรียกเก็บเงินไม่ได้ ธนาคารผู้รับซื้อเช็คจึงหักเงินจากบัญชีโจทก์และส่งเช็คกลับคืนมาให้โจทก์ครอบครองโจทก์จึงเป็นผู้ถือ ย่อมเป็นผู้ทรงตามมาตรา 904จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายภายในอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 1002. กรณีไม่เข้ามาตรา 1003 ซึ่งมีอายุความ 6 เดือน นับแต่วันที่ผู้สลักหลังเข้าถือเอาตั๋วเงินและใช้เงิน เพราะโจทก์ มิใช่ผู้สลักหลังตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินในเช็คหลังการสลักหลัง ผู้สลักหลังรับผิดชอบเฉพาะจำนวนเงินเดิมที่สลักหลัง
หลังจากสลักหลังเช็คพิพาทแล้วได้มีการกรอกตัวหนังสือและตัวเลข เพิ่มเข้าไป การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ประจักษ์ ผู้สลักหลังย่อมมีความรับผิด เพียงเท่าจำนวนเงินเดิมขณะสลักหลังเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขจำนวนเงินในเช็คหลังสลักหลัง ผู้สลักหลังรับผิดชอบเฉพาะจำนวนเงินเดิมที่สลักหลังเท่านั้น
เช็คพิพาทได้ถูกแก้ไขตัวเลขและตัวหนังสือที่เขียนไว้ในช่องระบุจำนวนเงินให้มีจำนวนเงินสูงขึ้นหลังจากที่จำเลยได้ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คแล้ว โดยจำเลยมิได้ยินยอมด้วยแต่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ไม่ประจักษ์ จำเลยในฐานะผู้สลักหลังย่อมมีความรับผิดเพียงจำนวนเงินเดิมในขณะที่จำเลยสลักหลังเช็คเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3567/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คสลักหลัง-สัญญาซื้อขายลดเช็ค: การรับผิดของผู้อ้างสลักหลังและผู้สลักหลังต่อผู้ทรง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คที่จำเลยที่ 1 นำมาทำสัญญาขายลดรับเงินสดจากโจทก์ จำเลยทั้งสองไม่ได้ให้การปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ในข้อนี้จึงต้องฟังข้อเท็จจริงว่าเช็คดังกล่าวจำเลยที่ 2 ได้ลงลายมือชื่อสลักหลังไว้ดังโจทก์ฟ้อง
จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีเพียงว่ามีเหตุไม่ต้องรับผิดเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์ หาได้ต่อสู้ในข้อไม่ต้องรับผิดในต้นเงินด้วยไม่ ฉะนั้นปัญหาว่าจำเลยจะต้องรับผิดในต้นเงินหรือไม่ จึงไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้
จำเลยที่ 1 นำเช็คซึ่งมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังมาทำสัญญาขายลดรับเงินสดจากโจทก์ โดยสัญญาว่าหากเช็คดังกล่าวถึงกำหนดชำระเงิน โจทก์ไม่ได้รับชำระเงินตามเช็ค จำเลยที่ 1 ยอมชำระเงินตามเช็คพร้อมทั้งดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีแก่โจทก์เมื่อได้ความว่าโจทก์ไม่ได้รับชำระหนี้ตามเช็ค จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีส่วนจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคหนึ่ง
เช็คคือหนังสือตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งหรือให้ใช้ ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งอันเรียกว่าผู้รับเงิน จึงเป็นทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 99 ซึ่งอาจโอนกรรมสิทธิ์กันได้ตามมาตรา 904, 917 และ 989 โจทก์จึงทำสัญญาซื้อขายลดเช็คอันเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่งซึ่งมีมูลหนี้อยู่ และนำสัญญาดังกล่าวมาฟ้องบังคับได้ และปัญหาว่าโจทก์จะใช้สิทธิฟ้องบังคับตามสัญญาขายลดเช็คได้หรือไม่ เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่า ภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้องจะมีต้นฉบับอยู่หรือไม่โจทก์ได้รับเงินตามเช็คจากผู้สั่งจ่ายแล้วหรือไม่จำเลยไม่ทราบ และตามภาพถ่ายเช็คท้ายฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยลงลายมือชื่อสลักหลังไว้โจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ทั้งโจทก์ไม่เคยบอกกล่าวให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์โจทก์ยังไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องนั้นไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยอำนาจฟ้องของโจทก์ เพราะไม่มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิเป็นคู่ความได้หรือไม่เมื่อจำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้นจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3421/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: สิทธิผู้ทรงเช็ค, ความรับผิดของผู้สลักหลัง, และการคิดดอกเบี้ยเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
เช็คพิพาทเป็นเช็คอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ย่อมโอนให้แก่กันได้โดยการส่งมอบ เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทไว้ในครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ถึงแม้โจทก์จะสลักหลังโอนเช็คให้ ป. และ ป. นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ ซึ่งถือว่า ป. เป็นผู้เสียหายในขณะที่เช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ทรงในการที่จะบังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่แล้วก่อนตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 ประกอบกับมาตรา 989
การที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแพ่งไปด้วยไม่
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ที่ด้านหลังเช็ค ย่อมเป็นผู้สลักหลังเมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังอยู่ก่อนโจทก์ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
หนี้เงินตามเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จะคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ลงในเช็คหาได้ไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3421/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: สิทธิผู้ทรงเช็ค การโอนสิทธิ และความรับผิดของผู้สลักหลัง
เช็คพิพาทเป็นเช็คอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ย่อมโอนให้แก่กันได้โดยการส่งมอบ เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทไว้ในครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ถึงแม้โจทก์จะสลักหลังโอนเช็คให้ ป. และ ป. นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ ซึ่งถือว่า ป. เป็นผู้เสียหายในขณะที่เช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ทรงในการที่จะบังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่แล้วก่อนตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967ประกอบกับมาตรา 989
การที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแพ่งไปด้วยไม่
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ที่ด้านหลังเช็ค ย่อมเป็นผู้สลักหลังเมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังอยู่ก่อนโจทก์ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
หนี้เงินตามเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จะคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ลงในเช็คหาได้ไม่(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3343/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดของธนาคารต่อเช็คที่สลักหลังโดยผู้ไม่มีอำนาจ แต่ธนาคารรู้เห็นและยินยอม
จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชีธนาคารจำเลยที่ 2 สาขาราชวงศ์ และเป็นเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจลงชื่อแทนธนาคารจำเลยที่ 2 ได้ลงชื่อและประทับตราสลักหลังเช็คพิพาทซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายให้โจทก์อันแสดงว่า กระทำแทนธนาคารจำเลยที่ 2 สาขาราชวงศ์ โดย ส. ผู้จัดการธนาคารจำเลยที่ 2 สาขาราชวงศ์รู้เห็นและยินยอมด้วยเช่นนี้แม้การกระทำของจำเลยที่ 3 จะเกินอำนาจที่ได้รับมอบหมายจากธนาคารจำเลยที่ 2 ก็ตามแต่การปฏิบัติของ ส. ผู้มีอำนาจกระทำแทนธนาคารจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตมีมูลเหตุอันควรเชื่อว่าการกระทำของจำเลยที่ 3 อยู่ภายในขอบอำนาจที่จะสลักหลังเช็คแทนธนาคารจำเลยที่ 2 สาขาราชวงศ์ ธนาคารจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์ด้วย
of 12