คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สินเดิม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 98 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินก่อนและหลังสมรส สินเดิม สินส่วนตัว สินสมรส และผลกระทบต่อการแบ่งมรดก
โจทก์เป็นบุตรผู้ตาย จำเลยเป็นภรรยาผู้ตาย โจทก์,จำเลยแถลงรับกันว่าทรัพย์หมาย ก. 1 เดิมเป็นของผู้ตายมาแต่ก่อนที่ได้ทำการสมรสกับจำเลย เมื่อผู้ตายกับจำเลยสมรสกันแล้ว ผู้ตายได้โอนทรัพย์แปลงนั้นให้แก่บิดาจำเลย ต่อมาบิดาจำเลยจึงได้โอนให้จำเลยในระหว่างสมรสนั้น ฟ้องโจทก์ก็กล่าวความท้าวถึงข้อเท็จจริงเช่นว่านี้ แล้วอ้างว่าทรัพย์หมาย ก. 1 จึงกลับคืนเป็นสินเดิมอีกวาระหนึ่ง หรือมิฉะนั้นก็เป็นทรัพย์ที่ทดแทนสินเดิมที่ขาดไป ฉะนั้นที่โจทก์แถลงรับในรายงานพิจารณาว่าเป็นสินสมรส จึงมิได้หมายความว่าสินสมรสนั้นจะไม่ต้องเอามาใช้สินเดิมที่ขาดไปของผู้ตาย.
จำเลยได้แถลงต่อศาลว่าจะขอสืบว่าที่ดินตามหมาย ก.1 เป็นสินสอด โดยผู้ตายสัญญาว่าจะโอนให้บิดาจำเลยก่อนแต่งงาน แล้วต่อมาจึงได้โอนให้ไป ซึ่งข้อเท็จจริงที่จำเลยจะขอสืบนี้ ถ้าเป็นความจริง อาจถือได้ว่า ผู้ตายจำหน่ายสินเดิมของตนเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ยินยอมด้วย กรณีอาจต้องตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1514 ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานจึงไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดก: ทรัพย์สินเดิมที่โอนระหว่างสมรส อาจต้องนำมาใช้ทดแทนสินเดิมที่ขาดไปได้
โจทก์เป็นบุตรผู้ตาย จำเลยเป็นภรรยาผู้ตาย โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่าทรัพย์หมาย ก.1 เดิมเป็นของผู้ตายมาแต่ก่อนที่ได้ทำการสมรสกับจำเลย เมื่อผู้ตายกับจำเลยสมรสกันแล้ว ผู้ตายได้โอนทรัพย์แปลงนั้นให้แก่บิดาจำเลย ต่อมาบิดาจำเลยจึงได้โอนให้จำเลยในระหว่างสมรสนั้นฟ้องโจทก์ก็กล่าวความท้าวถึงข้อเท็จจริงเช่นว่านี้ แล้วอ้างว่าทรัพย์หมาย ก.1 จึงกลับคืนเป็นสินเดิมอีกวาระหนึ่ง หรือมิฉะนั้นก็เป็นทรัพย์ที่ทดแทนสินเดิมที่ขาดไป ฉะนั้นที่โจทก์แถลงรับในรายงานพิจารณาว่าเป็นสินสมรสจึงมิได้หมายความว่าสินสมรสนั้นจะไม่ต้องเอามาใช้สินเดิมที่ขาดไปของผู้ตาย
จำเลยได้แถลงต่อศาลว่าจะขอสืบว่าที่ดินตามหมาย ก.1 เป็นสินสอด โดยผู้ตายสัญญาว่าจะโอนให้บิดาจำเลยก่อนแต่งงานแล้วต่อมาจึงได้โอนให้ไป ซึ่งข้อเท็จจริงที่จำเลยจะขอสืบนี้ ถ้าเป็นความจริงอาจถือได้ว่า ผู้ตายจำหน่ายสินเดิมของตนเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ยินยอมด้วย กรณีอาจต้องตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1514ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์มรดกก่อนสมรสเป็นสินเดิม แม้มีการแบ่งปันระหว่างสมรส
ทรัพย์ซึ่งเป็นมฤดกตกทอดแก่สามีก่อนสมรสกับภรรยาและทายาทตกลงแบ่งปันกันในระหว่างสมรส ทรัพย์นั้นเป็นสินเดิมของสามี หาใช่เป็นสินสมรสไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินเดิมก่อนสมรส: ทรัพย์มรดกที่แบ่งร่วมกันระหว่างสมรส ไม่ถือเป็นสินสมรส
ทรัพย์ซึ่งเป็นมรดกตกทอดแก่สามีก่อนสมรสกับภรรยาและทายาทตกลงแบ่งปันกันในระหว่างสมรส ทรัพย์นั้นเป็นสินเดิมของสามี หาใช่เป็นสินสมรสไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแบ่งสินสมรสต้องระบุรายละเอียดสินเดิม หากไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสโดยกล่าวว่ามีสินเดิม แต่ไม่ได้ระบุว่ามีสินเดิมอะไรบ้างนั้น ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแบ่งสินสมรสต้องระบุสินเดิมชัดเจน หากไม่ระบุถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสโดยกล่าวว่ามีสินเดิม แต่ไม่ได้ระบุว่ามีสินเดิมอะไรบ้างนั้น ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
(อ้างฎีกาที่ 587/2487)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกตามกฎหมาย โดยคำนึงถึงทายาทโดยธรรมและสินเดิม
ผู้ตายมีสามีและมีบุตร ต้องแบ่งมฤดกให้คนละเท่าๆกัน
ผู้ตายมีบิดาและมีภรรยาต้องแบ่งให้คนละครึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดจากการเป็นสามีภริยาต้องด้วยกฎหมาย การแบ่งสินสมรส และการพิสูจน์สินเดิม
ในกฎหมายลักษณะผัวเมีย ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่า เมื่อชายไม่พอใจหญิงก็ทิ้งหญิงได้ โดยหญิงไม่ต้องยินยอม และขาดจาการเป็นสามีภรรยากันได้ การที่สามีไม่พอใจภรรยาแล้วเขียนหนังสือเก็บไว้ และไม่ไปมาหาสู่ภริยา ไม่ว่าจะเขียนหนังสือนั้น และเลิกติดต่อกับภริยาเมื่อใดก็ตาม ไม่ทำให้ขาดจากการเป็นสามีภริยากันได้
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม. 177 วรรค 2
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มี ก.ม.จำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยา จะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิมก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏ แต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวนส่วนแบ่งใน+อันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยา+ได้รับ ศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นสามีภริยา,สินสมรส,สินเดิม,การขาดจากการเป็นสามีภริยา,ภริยาร้าง
ในกฎหมายลักษณะผัวเมีย ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่า เมื่อชายไม่พอใจหญิง ก็ทิ้งหญิงได้ โดยหญิงไม่ต้องยินยอม และขาดจากการเป็นสามีภรรยากันได้ การที่สามีไม่พอใจภรรยาแล้วเขียนหนังสือเก็บไว้และไม่ไปมาหาสู่ภริยา ไม่ว่าจะเขียนหนังสือนั้น และเลิกติดต่อกับภริยาเมื่อใดก็ตาม ไม่ทำให้ขาดจากการเป็นสามีภริยากันได้
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มีกฎหมายจำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยาจะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิม ก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏแต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวณส่วนแบ่งในสินสมรสอันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยาคนหนึ่งจะได้รับศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนในสินสมรสด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกกรณีไม่มีสินเดิม และการครอบครองแทนโจทก์
ในกรณีที่เป็นผัวเมียตามกฎหมายเก่า เมื่อไม่ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายมีสินเดิม ก็ต้องแบ่งสินสมรสให้แก่สามี 2 ส่วน ภรรยา 1 ส่วน
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยปกครองมฤดกแทนโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์ยกฟ้องในข้อที่ไม่มีทรัพย์มฤดก โจทก์ฎีกาฝ่ายจำเลยเถียงในชั้นฎีกาในข้ออื่น มิได้เถียงในข้อปกครองแทน ดังนี้ศาลฎีกาคงถือว่าจำเลยปกครองมฤดกแทนโจทก์
โจทก์ฟ้องแบ่งมฤดกและตีราคามาในคำขอท้ายฟ้องด้วยนั้นศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์ตามส่วนที่โจทก์ขอโดยไม่ต้องจำกัดให้ได้รับเกินราคาท้ายฟ้องได้เพราะการตีราคามานั้น เพื่อเรียกค่าธรรมเนียมศาล
ผู้ร้องขอส่วนแบ่งมฤดกมาในศาลชั้นต้น เมื่อคดีสู่ศาลสูง ผู้ร้องก็ยื่นคำร้องขอส่วนแบ่งในชั้นศาลสูงอีกได้โดยไม่ต้องทำเป็นอุทธรณ์ฎีกา
of 10