คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนังสือรับรอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 95 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดิน: แม้ที่ดินอยู่ในหนังสือรับรอง แต่โจทก์มีสิทธิขอเพิกถอนเฉพาะส่วนที่เป็นของตนได้
แม้ศาลจะพิพากษาแล้วว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ และเป็นที่ดินที่รวมอยู่ในที่ดินตามหนังสือรังรองการทำประโยชน์ของจำเลยก็ตาม จำเลยก็ไม่มีหน้าที่อย่างใดที่จะต้องไปจัดการโอนที่พิพาทให้เป็นของโจทก์ หากที่พิพาทยังมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของในหนังสือรับรองการทำประโยชน์อยู่ โจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยเฉพาะส่วนที่ออกทับที่พิพาท ซึ่งเป็นของโจทก์เท่านั้น
การที่โจทก์ขอให้จำเลยจดทะเบียนแบ่งแยกให้ก็พอจะแปลความหมายได้ว่าโจทก์ต้องการที่ดินกลับคืนมาเป็นของโจทก์ แต่เมื่อศาลเห็นว่าไม่สามารถจะบังคับให้ได้ตามคำขอ คงบังคับได้แต่เพียงให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์เฉพาะส่วน ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาเช่นนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินก่อนประมวลกฎหมายที่ดิน แม้ไม่แจ้ง ก็ไม่เสียสิทธิ ฟ้องขอหนังสือรับรองได้
ผู้ที่ครอบครองที่ดินมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน แม้จะมิได้แจ้งการครอบครองไว้ ก็หาทำให้เสียสิทธิครอบครองไปไม่ เป็นแต่เพียงจะยกขึ้นยันรัฐในการที่รัฐจะจัดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน หรือยันบุคคลผู้ได้สิทธิมาจากรัฐในการจัดที่ดินไม่ได้เท่านั้น ตราบใดที่รัฐมิได้เข้าจัดที่ดินนั้น ผู้นั้นยังมีสิทธิครอบครอง
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ และมาตรา 59 ทวิ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ผู้ครอบครองที่ดินมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน แต่มิได้แจ้งการครอบครองไว้รวมทั้งผู้ครอบครองต่อเนื่องจากบุคคลดังกล่าวมีสิทธิขอให้ทางราชการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ เมื่อมีการเดินสำรวจรังวัดในท้องที่นั้นหรือเมื่อมีความจำเป็นอาจจะขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะรายก็ได้
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ได้ครอบครองตลอดมาแต่มิได้แจ้งการครอบครองไว้ ได้ขอให้จำเลยออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้ จำเลยโต้แย้งว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์ให้งดการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้โจทก์ เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินเดิมของผู้ครอบครอง vs. สิทธิจากหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ได้มาโดยปกปิด
ที่พิพาทเป็นสินเดิมของโจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 1 ยังครอบครองอยู่ส. ซึ่งเป็นสามีได้แจ้งการครอบครองและรับหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยปกปิดมิให้โจทก์ที่ 1 ทราบ การกระทำของ ส. ย่อมไม่ก่อให้เกิดสิทธิครอบครองในที่พิพาทดีกว่าโจทก์ที่ 1 และไม่มีอำนาจนำที่พิพาทไปขายให้แก่จำเลยที่ 1 โดยพลการเมื่อ ส. ไม่มีอำนาจขาย จำเลยที่ 1 ผู้ซื้อย่อมไม่ได้สิทธิอันเกิดจากสัญญาซื้อขายนั้น ฉะนั้น แม้จำเลยที่ 2 จะรับซื้อไว้จากจำเลยที่ 1 โดยสุจริตและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจำเลยที่ 2 ก็ย่อมไม่ได้รับสิทธิในที่พิพาทเพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2312/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะ: การคัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์
จำเลยคัดค้านการที่โจทก์ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของหนองน้ำสาธารณะซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านจำเลยใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนี้ หากเป็นดังจำเลยต่อสู้ จำเลยย่อมมีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่พิพาทได้ จำเลยจึงมีสิทธิคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ดังกล่าว ตลอดจนต่อสู้คดีกับโจทก์ในชั้นศาลได้ และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2) สาธารณสมบัติของแผ่นดินได้แก่ทรัพย์สินของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ฯลฯ มิได้มีบทบัญญัติว่าต้องมีหลักฐานทางทะเบียนของทางราชการ เพื่อแสดงว่าเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือหนองน้ำสาธารณะจึงอาศัยเหตุแห่งเพียงว่า หนองน้ำดังกล่าวไม่มีหลักฐานทางทะเบียนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2312/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิคัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทที่เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณสมบัติ
จำเลยคัดค้านการที่โจทก์ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของหนองน้ำสาธารณะซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านจำเลยใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนี้ หากเป็นดังจำเลยต่อสู้จำเลยย่อมมีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่พิพาทได้ จำเลยจึงมีสิทธิคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ดังกล่าว ตลอดจนต่อสู้คดีกับโจทก์ในชั้นศาลได้ และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2)สาธารณสมบัติของแผ่นดินได้แก่ทรัพย์สินของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นต้นว่าที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ฯลฯ มิได้มีบทบัญญัติว่าต้องมีหลักฐานทางทะเบียนของทางราชการ เพื่อแสดงว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือหนองน้ำสาธารณะจึงอาศัยเหตุแต่เพียงว่าหนองน้ำดังกล่าวไม่มีหลักฐานทางทะเบียนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตป่าคุ้มครองตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาสำคัญกว่าชื่อตำบล หนังสือรับรองการทำประโยชน์หลังมีกฎหมายไม่มีผลยันแผ่นดิน
มาตรา 3 แห่งพระราชกฤฎีกากำหนดป่าไสโป๊ะ ๆ ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ.2496 บัญญัติว่า "ให้ป่าไสโป๊ะในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นป่าคุ้มครอง" ดังนี้ การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทอยู่ในเขตป่าคุ้มครองหรือไม่ จะต้องพิจารณาจากแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาประกอบด้วย แม้ได้ความว่าที่พิพาทอยู่ในท้องที่ตำบลกระบี่ใหญ่ มิใช่ตำบลกระบี่น้อยก็ตามแต่เมื่อปรากฏว่าอยู่ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา ก็ต้องถือว่าที่พิพาทอยู่ในเขตป่าคุ้มครองตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
แม้ที่พิพาทจะมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แต่เมื่อได้มาหลังจากที่ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ที่พิพาทเป็นป่าคุ้มครองแล้ว จึงหามีผลให้ได้สิทธิอย่างใดยันต่อแผ่นดินได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตป่าคุ้มครองตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาสำคัญกว่าชื่อตำบล หนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกหลังมีผลบังคับใช้ของกฎหมายไม่ผูกพันแผ่นดิน
มาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดป่าไสโป๊ะ ฯ ให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ.2496 บัญญัติว่า "ให้ป่าไสโป๊ะในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นป่าคุ้มครอง" ดังนี้การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทอยู่ในเขตป่าคุ้มครองหรือไม่จะต้องพิจารณาจากแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาประกอบด้วย แม้ได้ความว่าที่พิพาทอยู่ในท้องที่ตำบลกระบี่ใหญ่ มิใช่ตำบลกระบี่น้อยก็ตามแต่เมื่อปรากฏว่าอยู่ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา ก็ต้องถือว่าที่พิพาทอยู่ในเขตป่าคุ้มครองตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
แม้ที่พิพาทจะมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แต่เมื่อได้มาหลังจากที่ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ที่พิพาทเป็นป่าคุ้มครองแล้ว จึงหามีผลให้ได้สิทธิอย่างใดยันต่อแผ่นดินได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนองน้ำสาธารณสมบัติ เจ้าพนักงานเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้
หนองน้ำที่ประชาชนใช้น้ำเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกบางส่วนทับหนองนี้ เจ้าพนักงานเพิกถอนได้ทั้งฉบับ
คดีพิพาทว่าที่ดินเป็นของโจทก์หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งจำเลยมีคำสั่งเพิกถอนได้ เป็นคดีมีทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับรองเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาเช่าซื้อ แม้จำเลยไม่ได้ลงนาม ก็มีผลผูกพันโจทก์
โจทก์ทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อมาสด้าแบบเก๋งจากบริษัทจำเลย และยังได้ทำหนังสือรับรองให้จำเลยยึดถือไว้มีความตอนแรกว่า"...นอกจากข้าพเจ้าจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขแห่งสัญญาเช่าซื้อดังกล่าวแล้วข้าพเจ้าขอรับรองต่อบริษัทฯ ตามเงื่อนไขแห่งข้อความต่อไปนี้อีกด้วยคือ..."และข้อ 2 แห่งหนังสือรับรองก็ว่า "เนื่องจากราคาค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่เช่าซื้อนี้บริษัทฯ ได้คิดให้ข้าพเจ้าในราคาต่ำกว่าราคาที่ขายทั่วไป ดังนั้นในระหว่างอายุแห่งสัญญาเช่าซื้อยังไม่ครบกำหนด ข้าพเจ้าจะไม่นำรถคันที่เช่าซื้อนี้โอนให้แก่บุคคลภายนอกไม่ว่าโดยนิตินัยหรือพฤตินัยเป็นอันขาด และหากข้าพเจ้าจะต้องออกจากงานของบริษัทไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ข้าพเจ้าจะต้องจัดการชำระค่าเช่าซื้อที่ติดค้างทั้งหมดแก่บริษัทฯ ทันที หรือจะต้องเพิ่มราคาค่าเช่าซื้อตามจำนวนที่บริษัทฯ ได้ลดให้และจัดหาหลักประกันให้แก่บริษัทฯ จนเป็นที่พอใจแล้วแต่กรณี" และในข้อ 3มีข้อความว่า "ให้ถือเอาเงื่อนไขแห่งหนังสือนี้ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งแห่งสัญญาเช่าซื้อฉบับลงวันที่ 11 เดือยเมษายน พ.ศ. 2512 โดยเป็นสารสำคัญอันเป็นเหตุให้บริษัทฯ บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ เดือนเมษายนพ.ศ. 2512 โดยเป็นสารสำคัญอันเป็นเหตุให้บริษัทฯ บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ ในกรณีที่ข้าพเจ้าปฏิบัติผิดสัญญานี้" จากข้อความในหนังสือรับรองดังกล่าวแล้วนี้ ล้วนแต่เป็นเงื่อนไขที่โจทก์สมัครใจยินยอมผูกพันตนกับจำเลยเองและยอมรับเอาผลที่จะเกิดจากการแสดงเจตนาตามข้อความในหนังสือรับรองนั้น ดังนั้นโจทก์จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามหนังสือรับรองดังกล่าว แม้จำเลยจะมิได้เซ็นชื่อในหนังสือนั้นก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยตกลงกับโจทก์ตามนั้น เพราะจำเลยเป็นฝ่ายยึดถือหนังสือรับรองนี้ไว้ และยังถือได้อีกว่าหนังสือรับรองดังกล่าวเป็นเงื่อนไขอันหนึ่งของสัญญาเช่าซื้อด้วยเมื่อสัญญาเช่าซื้อสมบูรณ์ ข้อความตามหนังสือรับรองก็ใช้บังคับได้ไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับรองการชำระหนี้ไม่ถือเป็นสัญญาค้ำประกันหากไม่มีข้อตกลงชำระแทน
หนังสือขอผ่อนชำระหนี้ของลูกหนี้มีข้อความในตอนท้ายว่า'ข้าพเจ้า (ระบุชื่อ) ขอรับรองการชำระเงินของ ช. (ลูกหนี้) ตามข้อความข้างต้นทุกประการ' แล้วลงชื่อกำกับไว้ในช่อง 'ผู้รับรอง'ท้ายข้อความดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นสัญญาค้ำประกันเพราะไม่มีข้อความที่จะให้มีความหมายไปได้ว่าเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้แล้ว ตนจะยอมชำระแทน
of 10