พบผลลัพธ์ทั้งหมด 107 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2990/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่เกิดความผิดฐานออกเช็คเด้ง คือสถานที่ตั้งธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน ไม่ใช่สถานที่ออกเช็ค
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น ความผิดเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค สถานที่ตั้งของธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินจึงเป็นสถานที่ที่ความผิดเกิดขึ้น เมื่อธนาคารซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินตั้งอยู่ที่อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรี จึงต้องถือว่าความผิดเกิดขึ้นในท้องที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี หาใช่เกิดขึ้น ณ สถานที่เขียนเช็คสั่งจ่ายเงินไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานออกเช็คไร้เงิน การกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 20,000 บาทและลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 แต่ละกระทงไม่เกิน 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกาขอให้ลดค่าปรับให้แก่จำเลยที่ 1 และลงโทษจำเลยที่ 2 ในสถานเบาและรอการลงโทษจำเลยที่ 2 ไว้ด้วยนั้น เป็นการฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาล ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
จำเลยออกเช็คพิพาทรวม 4 ฉบับ เพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์ในวันเดียวกันและสั่งจ่ายเงินวันเดียวกัน ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินไปในวันเดียวกันทั้งหมดทุกฉบับ แต่การออกเช็คดังกล่าวเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ การที่จำเลยทั้งสองออกเช็คหลายฉบับ และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าวจึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 31/2518)
จำเลยออกเช็คพิพาทรวม 4 ฉบับ เพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์ในวันเดียวกันและสั่งจ่ายเงินวันเดียวกัน ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินไปในวันเดียวกันทั้งหมดทุกฉบับ แต่การออกเช็คดังกล่าวเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ การที่จำเลยทั้งสองออกเช็คหลายฉบับ และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าวจึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 31/2518)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2719/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่ไม่สามารถใช้ได้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เช็คพิพาทนอกจากมีข้อความตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 (1) (2) (3) (5) (6) และ (7) แล้วยังมีข้อความตามแบบพิมพ์ว่า "จ่าย....หรือผู้ถือ" จึงเป็นเช็คที่มีรายการตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 988 (4) อีกด้วย เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์
การที่จำเลยได้ขีดฆ่าคำว่า "ผู้ถือ" ออกและเขียนข้อความว่าจ่ายเงินสดลงไป จำเลยย่อมทราบแล้วว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คที่ตนสั่งจ่ายเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1)
การที่จำเลยได้ขีดฆ่าคำว่า "ผู้ถือ" ออกและเขียนข้อความว่าจ่ายเงินสดลงไป จำเลยย่อมทราบแล้วว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คที่ตนสั่งจ่ายเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2719/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คเพื่อไม่ให้ใช้เงินได้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เช็คพิพาทนอกจากมีข้อความตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988(1)(2)(3)(5)(6) และ(7) แล้วยังมีข้อความตามแบบพิมพ์ว่า'จ่าย....หรือผู้ถือ' จึงเป็นเช็คที่มีรายการตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988(4) อีกด้วย เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์
การที่จำเลยได้ขีดฆ่าคำว่า 'ผู้ถือ' ออกและเขียนข้อความว่าจ่ายเงินสดลงไป จำเลยย่อมทราบแล้วว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คที่ตนสั่งจ่ายเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3(1)
การที่จำเลยได้ขีดฆ่าคำว่า 'ผู้ถือ' ออกและเขียนข้อความว่าจ่ายเงินสดลงไป จำเลยย่อมทราบแล้วว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เห็นได้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คที่ตนสั่งจ่ายเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหรือไม่? ยักยอกทรัพย์กับออกเช็คโดยเจตนาไม่ใช้เงินเป็นคนละกรรม
คดีแรกเป็นคดีฟ้องว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ แล้วยอมความกัน จำเลยออกเช็คใช้หนี้ในคดีนั้น เช็คนั้นธนาคารไม่จ่ายเงิน เป็นความผิดคนละกรรมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คไม่มีเงินรองรับ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
จำเลยยืมเงินผู้เสียหาย แล้วออกเช็ครายพิพาทให้ ตกลงกันว่าเมื่อเช็คถึงกำหนดให้ผู้เสียหายไปขึ้นเงินเป็นการชำระหนี้ทั้งที่จำเลยทราบอยู่แล้วว่าไม่มีเงินอยู่ในบัญชีพอที่จะจ่ายเงินตามเช็คถือได้ว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คโดยไม่ลงวันออก และการระงับการจ่ายเช็คไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค หากไม่ได้เจตนาทุจริต
จำเลยกู้เงินโดยออกเช็คให้โจทก์ เช็คไม่ได้ลงวันก่อนถึงวันที่ตกลงให้เอาเช็คไปขึ้นเงิน จำเลยสั่งธนาคารงดจ่ายเงิน และไม่มีเงินในธนาคารพอจ่ายตามเช็คดังนี้ วันที่ไม่ได้ลงในเช็ค ผู้ทรงจดลงได้และอาจเปลี่ยนแปลงได้ จำเลยไม่มีความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตออกเช็คชำระหนี้แล้วระงับการจ่ายเงิน ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
ช.ค้างชำระค่าที่ดินโจทก์อยู่30,000บาทช.ตกลงยืมเงินจำเลยตามจำนวนดังกล่าวโดยให้จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงิน 30,000 บาทให้โจทก์ไปเมื่อเช็คถึงกำหนดจำเลยสั่งธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คนั้นดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตในการที่ห้ามมิให้ธนาคารใช้เงินตามเช็คเพราะจำเลยออกเช็คไปก็เพื่อเป็นการชำระหนี้แทน ช.นั่นเองจะอ้างว่าเหตุที่สั่งธนาคารระงับการจ่ายเงินเพราะ ช.ไม่นำเงินมาชำระแก่จำเลยก่อนเช็คถึงกำหนดตามที่ ช.ตกลงไว้กับจำเลยมิได้เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างจำเลยกับ ช.เท่านั้นไม่ผูกพันโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1295/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตออกเช็ค – การฟ้องคดีอาญาฐานออกเช็คโดยไม่มีเจตนาจะให้ใช้ได้ แม้ผู้รับเช็คไม่ขอให้ประทับตรา
การที่จำเลยออกเช็คลงวันที่ล่วงหน้าไปแล้ว ต่อมาจำเลยไปตกลงกับธนาคารว่า เช็คของจำเลยต้องประทับตราด้วยจึงจะจ่ายเงินได้ เมื่อเช็คที่จำเลยออกไปก่อนที่จะมีการตกลงกับธนาคารดังกล่าวถึงกำหนด โจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยให้ประทับตราผู้สั่งจ่าย ทั้งจำเลยก็สั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คประกอบกับจำเลยมีหนี้ตามเช็คเป็นยอดเงินอีกจำนวนมาก ซึ่งธนาคารไม่ยอมผ่านเช็คให้พฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ข้อที่โจทก์มิได้ให้จำเลยประทับตราก่อน จึงไม่เป็นข้ออ้างตามกฎหมายที่จะให้จำเลยพ้นความรับผิด
โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค ครั้นเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คเข้าบัญชี เพื่อเรียกเก็บเงิน เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คไม่ว่าด้วยเหตุใด โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายได้
จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสองฉบับ เป็นความผิดสองกระทง
ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษรวมกันมาเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลฎีกาเรียงกระทงลงโทษ แต่กำหนดโทษให้เป็นไปตามเดิมได้แม้โจทก์จะมิได้ฎีกา
โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค ครั้นเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คเข้าบัญชี เพื่อเรียกเก็บเงิน เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คไม่ว่าด้วยเหตุใด โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายได้
จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสองฉบับ เป็นความผิดสองกระทง
ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษรวมกันมาเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลฎีกาเรียงกระทงลงโทษ แต่กำหนดโทษให้เป็นไปตามเดิมได้แม้โจทก์จะมิได้ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1295/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตออกเช็ค – การกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน – อำนาจฟ้อง
จำเลยออกเช็คลงวันที่ล่วงหน้าไปแล้ว ต่อมาไปตกลงกับธนาคารว่า เช็คของจำเลยต้องประทับตราด้วย.จึงจะจ่ายเงินได้ เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำไปขึ้นเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยให้ประทับตราผู้สั่งจ่าย ทั้งจำเลยก็สั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค ประกอบกับจำเลยมีหนี้ตามเช็คเป็นยอดเงินอีกจำนวนมาก ซึ่งธนาคารไม่ยอมผ่านเช็คให้ พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ข้อที่โจทก์มิได้ให้จำเลยประทับตราก่อนจึงไม่เป็นข้ออ้างตามกฎหมายที่จะให้จำเลยพ้นผิด
จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสองฉบับ เป็นความผิดสองกระทง
ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษรวมกันมาเป็นการไม่ชอบด้วย ป.อ. มาตรา 91 ศาลฎีกาเรียงกระทงลงโทษ แต่กำหนดโทษให้เป็นไปตามเดิมได้ แม้โจทก์จะมิได้ฎีกา
จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสองฉบับ เป็นความผิดสองกระทง
ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษรวมกันมาเป็นการไม่ชอบด้วย ป.อ. มาตรา 91 ศาลฎีกาเรียงกระทงลงโทษ แต่กำหนดโทษให้เป็นไปตามเดิมได้ แม้โจทก์จะมิได้ฎีกา