พบผลลัพธ์ทั้งหมด 89 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเกินกว่าเหตุ: ศาลพิจารณาจากสถานการณ์ถูกทำร้ายรุมทำร้าย ไม่มีทางหลบหนี
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251, 53 โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์แต่อย่างใด จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยเห็นว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ดังนี้โจทก์จะฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันเลยไม่ได้ คงฎีกาได้แต่เพียงว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุเท่านั้น
จำเลยถูกคน 2 คนใช้ไม้กลุ้มรุมทำร้าย และคนหนึ่งกอดจำเลยไว้ อีกคนหนึ่งใช้ไม้ตีเช่นนี้จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบคืบที่แย่งมาได้จากคน 2 คนนั้นแทงคนทั้ง 2 ไป ย่อมเป็นการแสดงว่าจำเลยจะแทงเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกระทำร้ายเท่านั้น จึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ
จำเลยถูกคน 2 คนใช้ไม้กลุ้มรุมทำร้าย และคนหนึ่งกอดจำเลยไว้ อีกคนหนึ่งใช้ไม้ตีเช่นนี้จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบคืบที่แย่งมาได้จากคน 2 คนนั้นแทงคนทั้ง 2 ไป ย่อมเป็นการแสดงว่าจำเลยจะแทงเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกระทำร้ายเท่านั้น จึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ การใช้กำลังทำร้ายถึงแก่ชีวิต
ผู้ตายเมาสุราขึ้นไปก่อเหตุบนเรือนของจำเลยและใช้ขวดเหล้าใช้ไม้รุกไล่ตีจำเลย ๆ จึงเอามีดที่ใช้สับเปลือกไม้กินหมากอยู่ในมือแทงตอบไป ย่อมฟังได้ว่าจำเลยทำากรป้องกันตาม ก.ม.แต่ปรากฎว่าไม้ที่ผู้ตายใช้ตีเป็นเพียงไม้ไผ่ ถึงตีถูกก็ปรากฎว่าเพียงแต่ทำให้ฟกช้ำเท่านั้น การที่จำเลยใช้มีดมีคมปลายแหลมยาคืบเศษแทงผู้ตายตรงหน้าอกโดยแรง มีดเข้าเนื้อทะลุในและแทงปักเข้าที่ซอกคออีกทีหนึ่ง จนลึกทลุในเป็นผลให้ผู้ตายล้มลงขาดใจตายโดยทันทีหรือเกือบจะทันทีเช่นนี้ ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุต้องมีโทษตามมาตรา 249, 53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเกินกว่าเหตุ: การใช้กำลังป้องกันต้องสมส่วนกับภัยอันตรายที่ถูกคุกคาม
ผู้ตายเมาสุราขึ้นไปก่อเหตุบนเรือนของจำเลย และใช้ขวดเหล้าใช้ไม้รุกไล่ตีจำเลย จำเลยจึงเอามีดที่ใช้สับเปลือกไม้กินหมากอยู่ในมือแทงตอบไป ย่อมฟังได้ว่าจำเลยทำการป้องกันตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าไม้ที่ผู้ตายใช้ตี เป็นเพียงไม้ไผ่ ถึงตีถูกก็ปรากฏว่าเพียงแต่ทำให้ฟกช้ำเท่านั้น การที่จำเลยใช้มีดมีคมปลายแหลมยาวคืบเศษแทงผู้ตายตรงหน้าอกโดยแรง มีดเข้าเนื้อทะลุในและแทงปักเข้าที่ซอกคออีกทีหนึ่ง จนลึกทะลุใน เป็นผลให้ผู้ตายล้มลงขาดใจตายโดยทันทีหรือเกือบจะทันทีเช่นนี้ ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุต้องมีโทษตามมาตรา 249,53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์เกินกว่าเหตุและการทำร้ายร่างกาย แม้ตกลงค่าสินสอดก่อนหน้า
ผู้เสียหายกับพวกมาเอาโคของจำเลย ซึ่งผู้เสียหายถือว่าจำเลยตกลงให้เป็นค่าสินสอดแก่ผู้เสียหาย จำเลยไม่ยอมให้ผู้เสียหายจึงเข้าไปจับโคในคอกของจำเลย ๆ จึงไ้ดใช้ดาบฟันผู้เสียหาย 3 ที จำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นบุตรจำเลยคนแรกเข้ามาใช้มีดโต้ฟันผู้เสียหายอีก 1 ที ผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัสดังนี้ แม้ผุ้เสียหายจะไม่มีสิทธิจะมาเอาโคนั้นไปโดยพละการแต่มูลกรณีที่ว่า จำเลยตกลงให้โคเป็นค่าสินสอดก็มีอยู่จริงจำเลยใช้มีดดาบฟันผู้เสียหายถึง 3 ทีติด ๆ กัน แล้วจำเลยผู้เป็นบุตรยังมาช่วยฟันอีก 1 ที จนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงสาหัส การกระทำของจำเลยนับว่าเป็นการรุนแรงและเกินควรแก่เหตุในการป้องกันทรัพย์มีผิดตามมาตรา 256 , 53 ก.ม.ลักษณะอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์เกินกว่าเหตุ กรณีผู้เสียหายพยายามเอาทรัพย์สินที่ตกลงกันไว้
ผู้เสียหายกับพวกมาเอาโคของจำเลย ซึ่งผู้เสียหายถือว่าจำเลยตกลงให้เป็นค่าสินสอดแก่ผู้เสียหาย จำเลยไม่ยอมให้ ผู้เสียหายจึงเข้าไปจับโคในคอกของจำเลย จำเลยจึงได้ใช้ดาบฟันผู้เสียหาย 3 ที จำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นบุตรจำเลยคนแรกเข้ามาใช้มีดโต้ฟันผู้เสียหายอีก 1 ทีผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัส ดังนี้ แม้ผู้เสียหายจะไม่มีสิทธิจะมาเอาโคนั้นไปโดยพลการ แต่มูลกรณีที่ว่าจำเลยตกลงให้โคเป็นค่าสินสอดก็มีอยู่จริง จำเลยใช้มีดดาบฟันผู้เสียหายถึง 3 ทีติดๆ กัน แล้วจำเลยผู้เป็นบุตรยังมาช่วยฟันอีก 1 ทีจนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงสาหัส การกระทำของจำเลยนับว่าเป็นการรุนแรงและเกินควรแก่เหตุในการป้องกันทรัพย์ มีผิดตามมาตรา 256,53 กฎหมายลักษณะอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินกว่าเหตุ: ผู้ต้องหาเข้าใจผิดว่าผู้ตายจะทำร้ายภรรยา จึงแทงผู้ตาย ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์
ผู้ตายกับภรรยาทะเลาะกัน แล้วภรรยาผู้ตายหนีไปอยู่ในห้องของอ. ผู้ตายตามเข้าไปโดยมีมีดปลายแหลม 1 เล่ม กับสนับมือ 1 อัน เป็นอาวุธจำเลยเป็นพี่ของภรรยาผู้ตายและอยู่ในห้องของ อ.ด้วยขณะที่ผู้ตายแหวกม่านจะเข้าไปถึงตัวภรรยาของตน จำเลยก็แทงผู้ตายโดยเข้าใจว่าจะเข้าไปทำร้ายภรรยา ดังนี้ เป็นการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุและการใช้สิทธิป้องกันตัวตามกฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายเป็นการป้องกันตัว แต่กระทำเกินกว่าเหตุควรรับโทษ โจทก์ไม่อุทธรณ์ ดังนี้ ชั้นฎีกา โจทก์จะกลับขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหาได้ไม่
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คน พากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกัน จำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย หายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซ แล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตู และใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย ๆ หลบเสีย มีดจึงไม่ถูกผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุไม่ควรลงโทษจำเลย
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คน พากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกัน จำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย หายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซ แล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตู และใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย ๆ หลบเสีย มีดจึงไม่ถูกผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุไม่ควรลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: ศาลฎีกายืนพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากโจทก์ไม่โต้แย้งข้อเท็จจริงเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายเป็นการป้องกันตัว แต่กระทำเกินกว่าเหตุ ควรรับโทษ โจทก์ไม่อุทธรณ์ดังนี้ ชั้นฎีกาโจทก์จะกลับขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหาได้ไม่
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คนพากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกันจำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสียหายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซแล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตูและใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย จำเลยหลบเสีย มีดจึงไม่ถูก ผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษจำเลย
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คนพากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกันจำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสียหายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซแล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตูและใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย จำเลยหลบเสีย มีดจึงไม่ถูก ผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุทางอาญา: กรณีแย่งอาวุธและทำร้ายจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายถือปืนยาวแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ 1 เกิดโต้เถียงกัน ผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากขึ้นลำกล้อง หันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ 1 ๆ แย่งปืนและเอาขวานฟันผู้ตายหลายที และเรียกจำเลยที่ 2 มาช่วย จำเลยที่2ใช้ดาบฟันผู้ตายหลายที ผู้ตายล้มลงสักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล 38 แผล ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายของจำเลย ย่อมมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การใช้กำลังเพื่อหลีกหนีภัยอันตรายร้ายแรง
มีคน 5-6 คนถือไม้วิ่งไล่ทำร้ายจำเลยมาอย่างกระชั้นชิด จำเลยจำเป็นที่จะต้องวิ่งหนีไปทางที่ซึ่งกำลังมีพิธีแต่งงาน คนในนั้นคนหนึ่งลุกขึ้นกั้นไว้ จำเลยแทงตาย ดังนี้เป็นการกระทำโดยจำเป็นแต่เกินกว่าเหตุ