คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เลื่อนคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 341 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5090/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีโดยอ้างเหตุเจ็บป่วยที่ไม่ร้ายแรง ศาลมีสิทธิไม่อนุญาตเลื่อนคดีและงดสืบพยานได้
นับตั้งแต่วันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกจนถึงวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งสุดท้ายเป็นเวลานานถึง 8 เดือนเศษ ทั้งที่พยานจำเลยคงมีแต่ตัวจำเลยเพียงปากเดียวเท่านั้น และมีการส่งประเด็นไปสืบตัวจำเลยที่ศาลอื่นมาก่อน และศาลชั้นต้นได้ให้โอกาสเต็มที่แก่จำเลยตลอดมา จนครั้งสุดท้ายทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุป่วยกะทันหัน ปวดศีรษะมีอาการมึนงง และแน่นหน้าอกอันเนื่องมาจากรับประทานทุเรียนมาก แม้ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีอ้างเหตุป่วยเจ็บก็ตามแต่เมื่อศาลเชื่อได้ว่าอาการของผู้ที่อ้างว่าป่วยนั้นไม่ร้ายแรงถึงกับจะมาศาลไม่ได้ ซึ่งให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาตามบทบัญญัติว่าด้วยการขาดนัดหรือการไม่มาศาลของ บุคคลที่อ้างว่าป่วยนั้นแล้วแต่กรณี ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 41 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเมื่อตามคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆที่จำเลยโต้แย้งว่า การเจ็บป่วยเป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งไม่อาจก้าวล่วงเสียได้นั้น จำเลยก็หาได้คัดค้านแสดงให้เห็นว่าอาการเจ็บป่วยของทนายจำเลยรุนแรงจนไม่สามารถมาศาลได้แต่อย่างใดไม่ พฤติการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวแล้วส่อแสดงชัดแจ้งว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีและให้งดสืบพยานจำเลย จึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีเนื่องจากเอกสารแปลไม่ทันและพยานติดประชุม ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีไม่ชอบ
++ เรื่อง รับขน ประกันภัย รับช่วงสิทธิ (ชั้นฎีกาคำสั่งไม่ให้เลื่อนคดี)
++ ทดสอบการทำงานในระบบ CW เพื่อค้นหาข้อมูลทาง online ++
++ ย่อข้อกฎหมายอย่างไม่เป็นทางการ - ขอชุดตรวจได้ที่งานย่อข้อกฎหมายระบบ CW โถงกลางชั้น 3 ++
++
++
++ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบนั้นชอบหรือไม่
++ โจทก์ฎีกาว่า ในวันนัดสืบพยานโจทก์เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2538 นั้น โจทก์แถลงขอเลื่อนคดี มีเหตุผลสองประการ คือ พยานเอกสารต่าง ๆ ที่โจทก์จะนำสืบในวันนั้นไม่พร้อมเนื่องจากเอกสารส่วนมากเป็นภาษาต่างประเทศ ซึ่งโจทก์จำต้องจัดคำแปลเป็นภาษาไทย กับอีกประการหนึ่งทนายโจทก์ได้รับแจ้งจากพยานปากที่โจทก์เตรียมไปเบิกความในวันนั้นว่าพยานติดประชุมกะทันหันไม่สามารถไปเป็นพยานศาลได้ จึงเป็นเหตุจำเป็นที่โจทก์ต้องขอเลื่อนคดีส่วนที่โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2538ซึ่งน้อยกว่า 7 วัน ก่อนวันสืบพยานโจทก์นั้น เดิมศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ไว้แล้ว โดยมีลายมือชื่อตรงมุมซ้ายด้านบนว่า"รับเป็นบัญชีพยานโจทก์ สำเนาให้จำเลย" แต่เมื่อถึงวันที่ 17กรกฎาคม 2538 ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ ฝ่ายจำเลยแถลงคัดค้านศาลชั้นต้นมีคำสั่งเกี่ยวกับบัญชีระบุพยานของโจทก์ใหม่ ให้ยกบัญชีระบุพยานของโจทก์นั้นเสีย พร้อมกับมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไปความผิดพลาดหรือบกพร่องของโจทก์ที่ยื่นบัญชีระบุพยานช้าไปเพียง 1 วันจากกำหนดเวลาตามที่กฎหมายกำหนดให้ยื่นไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนวันนัดสืบพยานนัดแรก ความบกพร่องนั้นเป็นเพียงคลาดเคลื่อนกำหนดเวลาเพียงเล็กน้อย มิได้มีผลร้ายแรงหรือทำให้โจทก์ได้เปรียบในเชิงคดีแต่อย่างใด จึงควรอนุญาตให้เลื่อนคดีตามคำขอของโจทก์
++ เห็นว่า แม้ระยะเวลานับแต่ที่โจทก์ยื่นฟ้องจนถึงวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกเป็นเวลาประมาณ 1 ปี ก็เป็นระยะเวลาที่ใช้ไปในขั้นตอนการนำส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้อง การยื่นคำให้การจำเลยและการแจ้งวันนัดเท่านั้น สำหรับวันนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 17 กรกฎาคม 2538 เป็นเพียงวันนัดสืบพยานในคดีนี้เป็นครั้งแรก การที่โจทก์ขอเลื่อนคดีในนัดดังกล่าวโดยอ้างเหตุว่าเอกสารที่โจทก์จะนำสืบพยานในวันนัดไม่พร้อม ยังแปลเอกสารไม่เรียบร้อย และพยานที่จะนำสืบในวันนัดติดประชุมนั้น หากมีเหตุจำเป็นตามที่โจทก์อ้างจริงก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์ประวิงคดีเพื่อการสืบพยานหลักฐานให้ชักช้าหรือเอาเปรียบในเชิงคดีต่อฝ่ายจำเลย ปรากฏว่าเมื่อโจทก์ขอเลื่อนคดีฝ่ายจำเลยคัดค้านการขอเลื่อนคดีของฝ่ายโจทก์ดังกล่าวข้างต้นโดยอ้างเพียงว่า การขอเลื่อนคดีของโจทก์นี้เนื่องจากจะขอเลื่อนคดีไปเพื่อให้ยื่นบัญชีระบุพยานของโจทก์ได้ เนื่องจากบัญชีระบุพยานที่โจทก์ยื่นไว้เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2538 เป็นการยื่นก่อนวันสืบพยานน้อยกว่า 7 วัน ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น จำเลยไม่ได้โต้แย้งคัดค้านโดยชัดแจ้งว่าเหตุที่โจทก์อ้างในการขอเลื่อนคดีดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงอย่างใด จึงน่าเชื่อว่ามีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดีตามคำขอเลื่อนคดีของโจทก์ดังกล่าว ควรที่จะอนุญาตให้เลื่อนคดีตามคำขอของโจทก์ ดังนี้แม้โจทก์จะบกพร่องในการยื่นบัญชีระบุพยานซึ่งช้ากว่ากำหนดเวลาตามกฎหมายไปเพียง 1 วัน ก็มิใช่เป็นเหตุผลพิจารณาประกอบว่ามีเหตุสมควรให้โจทก์เลื่อนคดีไปหรือไม่ที่ศาลล่างทั้งสองไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมานำสืบนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ++

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1272/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนคดีซ้ำ และเหตุผลที่ไม่เพียงพอต่อการเลื่อน
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีครั้งที่สามว่า ทนายโจทก์เพิ่งเดินทางกลับจากต่างจังหวัด ได้รับละอองฝนและตากแดดตลอดการเดินทางมีอาการเป็นไข้ ตัวร้อนและปวดเมื่อยร่างกาย ไม่สามารถมาศาลได้ ประกอบด้วยพยานโจทก์ที่จะมาเบิกความ คือ จ.และ ล.ซึ่งได้เตรียมคำให้การไว้แล้วแจ้งว่ามีกิจธุระต้องรีบเดินทางไปต่างประเทศ ไม่อาจมาเป็นพยานได้ จึงขอเลื่อนคดีไปสักนัดหนึ่ง เมื่อจำเลยมิได้คัดค้านว่า ทนายโจทก์ไม่ป่วยจริง ต้องถือว่าทนายโจทก์ป่วยและมีเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ แต่ทนายโจทก์ได้มีคำขอและศาลได้สั่งเลื่อนคดีไปสองครั้งแล้ว และทนายโจทก์มีคำขอเลื่อนคดีครั้งที่สามนี้อีกโดยมิได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลได้ว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ศาลจึงไม่อาจให้เลื่อนคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1272/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีซ้ำโดยไม่แสดงเหตุผลที่สมควร ศาลมีอำนาจไม่อนุญาตเลื่อนคดีได้
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีครั้งที่สามว่า ทนายโจทก์เพิ่งเดินทางกลับจากต่างจังหวัด ได้รับละอองฝน และตากแดดตลอดการเดินทางมีอาการเป็นไข้ ตัวร้อนและปวดเมื่อยร่างกาย ไม่สามารถมาศาลได้ ประกอบด้วยพยานโจทก์ที่จะมาเบิกความ คือ จ. และ ล. ซึ่งได้เตรียมคำให้การไว้แล้วแจ้งว่ามีกิจธุระต้องรีบเดินทางไปต่างประเทศ ไม่อาจมาเป็นพยานได้ จึงขอเลื่อนคดีไปสักนัดหนึ่ง เมื่อจำเลยมิได้คัดค้านว่า ทนายโจทก์ไม่ป่วยจริง ต้องถือว่าทนายโจทก์ป่วยและมีเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ แต่ทนายโจทก์ได้มีคำขอและศาลได้สั่งเลื่อนคดีไปสองครั้งแล้ว และทนายโจทก์มีคำขอเลื่อนคดีครั้งที่สามนี้อีกโดยมิได้แสดงให้เป็นที่ พอใจของศาลได้ว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ศาลจึงไม่อาจให้เลื่อนคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7903/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีและการงดสืบพยานจำเลย: ความรับผิดชอบของจำเลยต่อความบกพร่องในการรับทราบวันนัด
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในวันนั้น โจทก์ไม่ค้านการขอเลื่อนและแถลงว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานโจทก์อีกต่อไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เลื่อนคดีไปโดยนัดสืบพยานจำเลยและเสมียนทนายจำเลยได้ลงชื่อรับทราบวันนัดสืบพยานจำเลยไว้แล้ว ดังนั้นหากเสมียนทนายจำเลยจดเวลานัดผิดพลาดหรือแจ้งเวลานัดสืบพยานจำเลยแก่ทนายจำเลยผิดพลาด ก็เป็นความบกพร่องของจำเลยเอง ที่ศาลชั้นต้นสั่งในรายงานกระบวนพิจารณา ในวันนัดสืบพยานจำเลยที่เลื่อนมา ซึ่งจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาลจึงถือว่าจำเลยไม่มีพยานที่จะสืบ ให้งดสืบพยานจำเลยและให้รอฟังคำพิพากษาในวันนั้นจึงเป็นการที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งโดยชอบ มิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาใดที่ผิดระเบียบอันจำเลยจะขอให้ยกเลิกเพิกถอนเสียได้ ทั้งนี้ไม่ว่าจำเลยจะขอเช่นนั้นก่อนหรือหลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7279/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาและการเลื่อนคดีเพื่อแก้ไขสถานะจำเลย
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก นอกจากฝ่ายโจทก์ไม่มาศาลแล้วจำเลยทั้งสามก็ไม่มาศาลเพราะยังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1ไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 มิได้ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้มีคำสั่งว่าจำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ สำหรับจำเลยที่ 3ที่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง ก็ยังมีสิทธิยื่นคำให้การภายหลังวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกนั้น กรณีเช่นนี้แม้โจทก์และพยานโจทก์จะมาศาลก็ไม่อาจสืบพยานโจทก์ได้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งเลื่อนคดีไปเพื่อมีคำสั่งเกี่ยวกับจำเลยทั้งสามเสียก่อน การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและให้จำหนายคดีเสียจากสารบบความย่อมไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7279/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีเมื่อจำเลยยังไม่ได้รับหมายเรียกและโจทก์ขาดนัด สืบเนื่องจากจำเลยยังไม่ได้รับหมายเรียกและไม่ได้ยื่นคำให้การ
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกนอกจากฝ่ายโจทก์ไม่มาศาลแล้ว จำเลยทั้งสามก็ไม่มาศาลเพราะยังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 มิได้ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้มีคำสั่งว่าจำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ สำหรับจำเลยที่ 3 ที่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องก็ยังมีสิทธิยื่นคำให้การภายหลังวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกนั้น กรณีเช่นนี้แม้โจทก์และพยานโจทก์จะมาศาลก็ไม่อาจสืบพยานโจทก์ได้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งเลื่อนคดีไปเพื่อมีคำสั่งเกี่ยวกับจำเลยทั้งสามเสียก่อน การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความย่อมไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7279/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีเพื่อแก้ไขสถานะจำเลยที่ไม่พร้อม และความชอบธรรมในการสั่งจำหน่ายคดี
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกนอกจากฝ่ายโจทก์ไม่มาศาลแล้ว จำเลยทั้งสามก็ไม่มาศาลเพราะยังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 มิได้ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้มีคำสั่งว่าจำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ สำหรับจำเลยที่ 3 ที่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องก็ยังมีสิทธิยื่นคำให้การภายหลังวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกนั้น กรณีเช่นนี้แม้โจทก์และพยานโจทก์จะมาศาลก็ไม่อาจสืบพยานโจทก์ได้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งเลื่อนคดีไปเพื่อมีคำสั่งเกี่ยวกับจำเลยทั้งสามเสียก่อน การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความย่อมไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2319/2540 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีและกำหนดเวลาการยื่นบัญชีระบุพยาน: ศาลต้องพิจารณาคำขอเลื่อนคดีก่อนสั่งงดสืบพยาน
ตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ.มาตรา 88 วรรคสอง ที่กำหนดให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานไม่น้อยกว่า 7 วัน นั้น หมายความว่าจะต้องเป็นวันนัดที่ได้มีการสืบพยานกันจริง ๆ แต่ถ้าหากถึงวันนัดแล้วศาลอนุญาตให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลื่อนคดีได้ก็ไม่ถือว่าวันนัดดังกล่าวเป็นวันนัดสืบพยานตามความหมายของมาตรา 88 วรรคสอง
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์มาศาลและแถลงขอเลื่อนคดีอ้างว่า ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ ซึ่งต้องเบิกความเป็นพยานต่อศาลติดธุระ ไม่สามารถมาศาลได้ ศาลชั้นต้นต้องพิจารณาสั่งเกี่ยวกับการขอเลื่อนคดีของโจทก์เสียก่อนเพราะถ้าหากศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีได้วันนัดดังกล่าวก็ไม่เป็นวันนัดสืบพยานตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ.มาตรา 88 วรรคสอง และโจทก์ย่อมมีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งใหม่ให้ถูกต้องได้ การที่ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งงดสืบพยานโจทก์เสียก่อนโดยไม่ได้พิจารณาสั่งเรื่องการขอเลื่อนคดีของโจทก์เช่นนี้ จึงเป็นการไม่ถูกต้อง
โจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายโดยขอให้ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามรูปคดี จึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเสียค่าขึ้นศาล200 บาท ตามบัญชีท้าย ป.วิ.พ.ตาราง 1 ข้อ 2 ก แต่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาตามจำนวนทุนทรัพย์ จึงต้องคืนค่าขึ้นศาลส่วนที่เกินแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2319/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาเลื่อนคดีก่อนสั่งงดสืบพยาน: การยื่นบัญชีระบุพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ตามบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88 วรรคสอง ที่กำหนดให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานไม่น้อยกว่า 7 วัน นั้น หมายความว่าจะต้องเป็นวันนัดที่ได้มีการสืบพยานกันจริง ๆ แต่ถ้าหากถึงวันนัดแล้วศาลอนุญาตให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลื่อนคดีได้ก็ไม่ถือว่าวันนัดดังกล่าวเป็นวันนัดสืบพยานตามความหมายของมาตรา 88 วรรคสอง ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์มาศาลและแถลงขอเลื่อนคดีอ้างว่า ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ ซึ่งต้องเบิกความเป็นพยานต่อศาลติดธุระไม่สามารถมาศาลได้ ศาลชั้นต้นต้องพิจารณาสั่งเกี่ยวกับการขอเลื่อนคดีของโจทก์เสียก่อนเพราะถ้าหากศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีได้วันนัดดังกล่าวก็ไม่เป็นวันนัดสืบพยานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสอง และโจทก์ย่อมมีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งใหม่ให้ถูกต้องได้ การที่ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งงดสืบพยานโจทก์เสียก่อนโดยไม่ได้พิจารณาสั่งเรื่องการขอเลื่อนคดีของโจทก์เช่นนี้ จึงเป็นการไม่ถูกต้อง โจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายโดยขอให้ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามรูปคดีจึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเสียค่าขึ้นศาล 200 บาท ตามบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ตาราง 1 ข้อ 2 ก แต่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาตามจำนวนทุนทรัพย์ จึงต้องคืนค่าขึ้นศาลส่วนที่เกินแก่โจทก์
of 35