คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เอกสารหลักฐาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 69 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2017/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารหลักฐานโจทก์ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้จำเลยก่อน แต่ศาลอนุญาตใช้ได้ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง
เอกสารที่โจทก์ระบุอ้างว่าต้นฉบับอยู่ที่จำเลยสำเนาอยู่ที่โจทก์และได้ขอหมายเรียกจากจำเลย แต่จำเลยว่าค้นไม่พบ ในวันเบิกความโจทก์ได้ส่งสำเนาที่อยู่ที่โจทก์และจำเลยได้ซักค้านถึงเอกสารเหล่านี้แล้ว โดยไม่ได้แถลงคัดค้านอย่างใด ดังนี้ แม้โจทก์ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้จำเลยก่อนพิจารณาก็อนุโลมเข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 ข้อ 2
คดีที่โจทก์ชนะคดีไม่เต็มตามทุนทรัพย์ที่ฟ้อง ควรให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลเพียงเท่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับเงิน vs. หนังสือรับรองการใช้เงิน: ผลกระทบต่อการบังคับชำระหนี้
โจทฟ้องขอไห้จำเลยไช้ราคาที่ดินที่ค้างชำระและอ้างว่าจำเลยทำหนังสือสแดงการรับไช้เงินไว้ไห้แต่หนังสือนั้นกลับมีข้อความว่าจำเลยได้รับเงินจากโจทดังนี้ โจทต้องแพ้คดี
จำเลยคน 1 แถลงรับตามฟ้องของโจท แต่จำเลยอื่นไม่ได้ยอมรับตามนั้นด้วยดังนี้ คำแถลงรับนั้นไม่ผูกพันจำเลยอื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งเอกสารหลักฐานการสอบสวนประกอบคำเบิกความพยานผู้เชี่ยวชาญ ไม่จำเป็นต้องส่งสำเนาให้จำเลย
จำเลยไม่ได้ต่อสู้ว่าของกลางไม่ใช่ฝิ่น. โจทก์ไม่จำต้องส่งฝิ่นของกลางเป็นพยาน. โจทก์ระบุในบัญชีพยานว่า. อ้างสรรพเอกสารการสอบสวนในสำนวนการสอบสวนดังนี้. โจทก์ส่งรายงานพิสูจน์ฝิ่นซึ่งเป็นเอกสารในการสอบสวนได้โดยถือว่าได้ระบุอ้างแล้ว. โจทก์ส่งเอกสารนี้ประกอบคำเบิกความของพยานผู้ตรวจพิสูจน์ฝิ่นได้โดยไม่ต้องส่งสำเนาให้จำเลยทราบก่อนเพราะไม่ใช่เรื่องศาลสั่งให้ผู้ชำนาญทำความเห็น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ตามคำพิพากษาและการใช้ใบรับเงินแทนเอกสารหลักฐาน
การที่ลูกหนี้ชำระหนี้สิ้นเชิงนั้นลูกหนี้จะยึดถือใบรับเงินที่เจ้าหนี้ออกให้เป็นหลักฐานแทนการรับเวนคืนเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้หรือขึดฆ่าเพิกถอนเอกสารนั้นก็ได้หนี้ที่เกิดขึ้นโดยคำพิพากษาของศาลไม่จำต้องนำมาชำระในศาลจะชำระนอกศาลก็ได้ ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.93 (2) ลูกหนี้ที่ถูกฟ้องอ้างว่าได้ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ไปแล้วแต่ใบรับเงินไฟไหม้เสียหมดลูกหนี้ขอสืบพะยานบุคคลแทนได้ สัญญาทางพระราชไมตรีคดีที่คนในบังคับอังกฤษเป็นคู่ความฎีกาได้แต่ฉะเพาะปัญกาข้อกฎหมายค่าธรรมเนียม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10985/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งเอกสารหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จะอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่นที่พบเห็นการทุจริต
ใบสำคัญจ่ายเป็นของมูลนิธิ แต่อยู่ในความครอบครองดูแลของ ย. ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีของมูลนิธิ ย. ย่อมมีหน้าที่ปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของนายจ้างตน เมื่อเห็นว่าผู้บริหารของมูลนิธิ ทุจริตต่อหน้าที่ยักยอกเงินของมูลนิธิ ก่อความเสียหายแก่มูลนิธิที่ตนทำงานอยู่ เมื่อตนพบเห็นย่อมแจ้งความให้ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดได้ การที่ ย. นำเอกสารดังกล่าวไปมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีแก่จำเลย ย.ย่อมไม่มีความผิดใด ๆ ในทางอาญา เพราะเป็นการมอบหลักฐานที่สำคัญในทางคดีให้แก่เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมาย การที่จะให้เจ้าพนักงานเรียกเอกสารหลักฐานแห่งการกระทำความผิดตามปกตินั้น ย่อมยากที่จะได้รับความร่วมมือจากผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นผู้บริหารในหน่วยงานดังกล่าว เอกสารนั้นอาจถูกทำลายหรือสูญหายหรือหาไม่พบได้ จึงเป็นอุปสรรคในการดำเนินคดีอาญาแก่ผู้กระทำความผิด การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เอกสารดังกล่าวมาเป็นพยานหลักฐานสำคัญของคดี จึงเป็นการได้มาโดยชอบ ไม่ต้องด้วย ป.วิ.อ. มาตา 226/1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9136/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีสมรสซ้อน และการรับฟังเอกสารหลักฐานการสมรสก่อน
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ผู้คัดค้านจะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างไว้ในคำคัดค้าน แต่เมื่อปัญหานี้ปรากฏตามคำร้องขอในสำนวน ผู้คัดค้านชอบจะหยิบยกขึ้นอุทธรณ์ได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง และศาลอุทธรณ์ภาค 7 ต้องวินิจฉัยปัญหานี้ให้ตามมาตรา 240 วรรคหนึ่ง ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องจึงถือว่าได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 7 ผู้คัดค้านจึงชอบจะฎีกาปัญหานี้ได้ ตามมาตรา 249 วรรคหนึ่ง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าการสมรสระหว่าง ก. กับผู้คัดค้านเป็นโมฆะ เนื่องจากเป็นการสมรสซ้อนกับการสมรสระหว่าง ก. กับผู้ร้อง ซึ่งมาตรา 1497 กำหนดให้บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งจะกล่าวอ้างหรือจะร้องขอให้ศาลพิพากษาก็ได้ กรณีจึงเป็นเรื่องที่กฎหมายให้สิทธิบุคคลใช้สิทธิทางศาลได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 ซึ่งตามมาตรา 171 กำหนดให้เสนอคดีได้ทั้งรูปคำฟ้องหรือคำร้องขอก็ได้แล้วแต่รูปเรื่องแห่งคดี และไม่ว่าจะเป็นการฟ้องคดีหรือการร้องขอก็ถือเป็นคำฟ้องเช่นกัน ผู้ร้องจึงมีอำนาจฟ้องด้วยการยื่นคำร้องขอตามมาตรา 171 ได้
ผู้ร้องนำสืบว่า ใบทะเบียนสมรสหาย ผู้ร้องขอคัดสำเนาโดยเจ้าพนักงานรับรองตามสำเนาทะเบียนสมรส เอกสารหมาย ร. 1 ตามที่ผู้ร้องได้ยื่นขอคัดข้อมูลทะเบียนครอบครัว เอกสารหมาย ร. 2 สำเนาทะเบียนสมรสดังกล่าวระบุว่า ผู้ร้องจดทะเบียนสมรสกับ ก. เป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นหรือรับรอง หรือสำเนาอันรับรองถูกต้องแห่งเอกสารนั้น ซึ่ง ป.วิ.พ. มาตรา 127 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง ผู้คัดค้านจึงมีหน้าที่นำสืบให้เห็นว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่เป็นจริงหรือไม่มีอยู่ การที่ผู้คัดค้านคาดคะเนว่าจะไม่เป็นจริง เพราะเหตุการณ์เกิดมานานแล้วเพิ่งจะคัดเอกสารนั้น เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่อาจหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าวได้ กรณีต้องฟังว่า ก. สมรสกับผู้ร้องอยู่แล้ว ผู้คัดค้านกับ ก. มาสมรสกันภายหลัง จึงเป็นสมรสซ้อนซึ่งเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารกู้ยืมเงินแม้ไม่เจตนาเป็นหลักฐาน แต่ใช้ฟ้องร้องได้หากมีข้อความแสดงเจตนาและลงลายมือชื่อผู้กู้
เอกสารหมาย จ.2 นอกจากจะเป็นหลักฐานว่าจำเลยรับโฉนดที่ดินจาก ส. แล้ว เอกสารดังกล่าวยังมีข้อความที่แสดงว่าเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2536 จำเลยได้กู้ยืมเงินจาก ส. จำนวน 2,000,000 บาท จึงเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้กู้ด้วย แม้จำเลยซึ่งเป็นผู้กู้ไม่เจตนาให้เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมก็ตาม การที่คู่สัญญาได้ทำสัญญากู้ยืมกันเป็นหนังสือไว้แล้ว หามีผลทำให้เอกสารฉบับนี้ไม่เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม โจทก์จึงใช้เอกสารหมาย จ.2 เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือฟ้องให้จำเลยรับผิดได้
การกู้ยืมเงินระหว่าง ส. กับจำเลยมีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้ยืมตามเอกสารหมาย จ.2 แม้จำเลยอ้างว่าชำระหนี้แล้ว แต่จำเลยก็ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืม ไม่มีการเวนคืนเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมหรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว จำเลยจึงนำสืบการใช้เงินไม่ได้เพราะต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5366/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเรียกคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีจำเลยไม่นำเอกสารหลักฐานแสดงการเสียภาษีซื้อมาให้ตรวจสอบ
แม้ภาษีมูลค่าเพิ่มจะเป็นภาษีอากรประเมินตามมาตรา 77 แห่งประมวลรัษฎากร แต่การที่โจทก์มีหนังสือขอให้จำเลยคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่จำเลยใช้สิทธิขอคืนและได้รับไปก่อนการตรวจปฏิบัติการเพื่อคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเสร็จสิ้นไม่ใช่การประเมินให้จำเลยเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจึงไม่จำต้องออกหมายเรียกและมีหนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มไปยังจำเลย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
1/1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14712/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารกู้ยืมเงินต้องแสดงเจตนาชัดเจนว่ามีหนี้สินเกิดขึ้น การอ้างหลักฐานที่ไม่นำสืบในชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
เอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไม่จำเป็นต้องระบุชัดแจ้งว่าจำเลยเป็นหนี้เงินกู้โจทก์ แต่เอกสารที่จะเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินจะต้องมีข้อความแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีหนี้สินอันจะพึงต้องชำระให้แก่โจทก์ จึงจะนำสืบพยานบุคคลเพื่ออธิบายว่าหนี้ที่ระบุไว้ในเอกสารนั้นเป็นหนี้อันเกิดจากนิติสัมพันธ์ในเรื่องกู้ยืมเงินได้ เอกสารหมาย จ.1 ที่โจทก์อ้างมีข้อความเพียงว่า "ได้รับเงินจำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน)" ไม่ได้ความว่าโจทก์เป็นผู้จ่ายเงินและจำเลยต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์ อันมีลักษณะที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์หรือมีหนี้จะต้องชำระแก่โจทก์แต่อย่างใด เอกสารหมาย จ.1 จึงไม่ใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินที่จะใช้ฟ้องร้องให้บังคับคดีกันได้
สำเนาสมุดบันทึกของโจทก์ซึ่งเขียนชื่อและนามสกุลจำเลยพร้อมเงินจำนวน 300,000 บาท ที่จำเลยกู้ยืมและรับเงินไปจากโจทก์ในเดือนพฤศจิกายน 2532 นั้น โจทก์มิได้นำสืบแสดงพยานหลักฐานดังกล่าวในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น และเป็นเอกสารที่อยู่ในความครอบครองรู้เห็นของโจทก์อยู่ก่อนแล้ว โจทก์จึงไม่อาจนำเสนอเอกสารดังกล่าวในชั้นศาลฎีกาได้
of 7