คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แบ่งที่ดิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 84 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมครอบครองที่ดินส่วนสัดไม่เกิน 10 ปี อ้างกรรมสิทธิ์ยันเจ้าของร่วมไม่ได้ ศาลแบ่งที่ดินให้ตามการครอบครอง
เจ้าของที่ดินร่วมในโฉนดคนหนึ่งครอบครองที่ดินเป็นส่วนสัดแต่ไม่เกิน 10 ปี จะอ้างกรรมสิทธิ์ในส่วนนั้นยันเจ้าของร่วมอีกผู้หนึ่งไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2501)
เมื่อศาลเห็นสมควรเพื่อความยุติธรรม ศาลจะแบ่งที่ดินเป็นส่วนๆ ให้แก่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมแต่ละคนก็ได้โดยไม่สั่งให้เอาที่ดินออกขายแบ่งราคากัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแบ่งที่ดินซ้ำ: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการฟ้องใหม่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ หากศาลยังไม่ได้วินิจฉัยประเด็นตามที่ฟ้องในคดีก่อน
เกี่ยวกับที่ดินแปลงเดียวกันทุกคดี
คดีแรกถึงที่สุดเพียงศาลชั้นต้น ซึ่งพิพากษาให้แบ่งที่ดินเฉพาะส่วนที่โจทก์จะได้รับตามพินัยกรรมข้อ 1. เพราะโจทก์ขอรับเพียงส่วนตามพินัยกรรมเท่านั้น
คดีที่ 2 ถึงที่สุดชั้นศาลอุทธรณ์ โดยให้ยกคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นที่ชี้ขาดไว้ว่า โจทก์จำเลยปกครองที่พิพาทร่วมกัน
โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งที่ดินซึ่งเป็นกองกลางตามพินัยกรรมข้อ 3. เช่นนี้ การฟ้องคดีใหม่นี้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีแรกและคดีที่ 2.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีซ้ำเกี่ยวกับการแบ่งมรดก ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดประเด็นสำคัญ โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีใหม่ได้
เกี่ยวกับที่ดินแปลงเดียวกันทุกคดี
คดีแรกถึงที่สุดเพียงศาลชั้นต้น ซึ่งพิพากษาให้แบ่งที่ดินเฉพาะส่วนที่โจทก์จะได้รับตามพินัยกรรม ข้อ 1. เพราะโจทก์ขอรับเพียงส่วนตามพินัยกรรมเท่านั้น
คดีที่ 2. ถึงที่สุดชั้นศาลอุทธรณ์ โดยให้ยกคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นที่ชี้ขาดไว้ว่าโจทก์จำเลยปกครองที่พิพาทร่วมกัน
โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งที่ดินซึ่งเป็นกองกลางตามพินัยกรรม ข้อ 3. เช่นนี้ การฟ้องคดีใหม่นี้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีแรกและคดีที่ 2.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องการแบ่งที่ดิน เจ้าของรวมตกลงแบ่งแยกไม่เป็นผล ศาลต้องฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
ปรากฏตามฟ้องโจทก์ว่าจำเลยโจทก์ตกลงแบ่งแยกที่ดินกันแล้วแต่ครั้นเวลานำเจ้าพนักงานไปรังวัดกลับรังวัดเปลี่ยนทิศทางไปเสียไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ ฝ่ายจำเลยว่าไม่ได้รังวัดผิดทิศทางเดิม รังวัดไปตามข้อตกลงแต่เพราะการรังวัดแบ่งแยกเป็นเหตุให้โจทก์ต้องรื้อครัวไฟ ปรากฏตามคำแถลงคู่ความรับกันว่าจำเลยมีสิทธิครึ่งหนึ่งในที่พิพาท อีกครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ทั้งสองเรือนโจทก์ปลูกมา 10 ปีแล้ว การแบ่งตามที่จำเลยว่าจะต้องผ่ากลางห้องทิศตะวันออกและครัวทั้งหลังของโจทก์ไปโจทก์ว่าที่ลงนามยินยอมแบ่งเพราะเข้าใจผิดไปว่าเป็นไปตามคำขอเดิม คือไม่ต้องรื้อเรือนและว่าตามคำขอเดิมและคำขอใหม่โจทก์จำเลยได้ที่เปลี่ยนทิศทางไปหมด เช่นนี้ถือว่าฟ้องโจทก์และคำให้การของจำเลยโต้แย้งกันอยู่อย่างตรงกันข้ามในเรื่องการตกลงใหม่และการรังวัดแบ่งแยกเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือไม่ประการใดทั้งคำแถลงของคู่ความยังไม่มีอะไรเพียงพอที่จะชี้ขาดพิพากษาคดีเรื่องนี้ได้ ศาลไม่ควรด่วนสั่งงดสืบพยานเพราะคดีจำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปว่า โจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันเป็นสัญญาหรือไม่อย่างไรแน่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีแบ่งที่ดินซ้ำซ้อนหลังศาลสั่งงดสืบพยานในคดีก่อน โจทก์ควรใช้วิธีอุทธรณ์คำสั่งเดิม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ดินแต่ความจริงปรากฏว่าที่ดินแปลงนี้โจทก์จำเลยเคยพิพาทกันมาก่อนแล้ว ศาลพิพากษาให้แบ่งที่ดินให้จำเลยส่วนหนึ่ง ครั้นเมื่อจำเลยนำเจ้าพนักงานรังวัดโจทก์อ้างว่าจำเลยนำเจ้าพนักงานรังวัดบุกรุกที่โจทก์ไม่ตรงตามคำพิพากษาศาลสั่งว่าแผนที่ที่นำรังวัดนั้นถูกต้องแล้วโจทก์ไม่อุทธรณ์คำสั่งในคดีก่อนแต่มาฟ้องใหม่ขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ กรณีจึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งที่ดินริมตลิ่ง: ศาลชี้ขาดตามข้อตกลง หากวิธีแบ่งเป็นธรรม
คู่ความตกลงกะประเด็นและแถลงร่วมกันยอมให้ศาลชี้ขาดตัดสินว่าจะจัดแบ่งที่ริมตลิ่งอย่างวิธีของโจทก์หรือวิธีของ จำเลยโดยต่างไม่สืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งตามวิธีที่จำเลยเสนอเป็นวิธีที่สามารถจะแบ่งได้ และเป็นธรรมแก่คู่ความแล้ว ก็พิพากษาแบ่งไปตามวิธีที่จำเลยเสนอได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงให้ศาลชี้ขาดแบ่งที่ดินริมตลิ่งโดยไม่สืบพยาน ศาลชี้ขาดตามวิธีที่เสนอได้และเป็นธรรม
คู่ความตกลงกะประเด็นและแถลงร่วมกันยอมให้ศาลชี้ขาดตัดสินว่าจะจัดแบ่งที่ริมตลิ่งอย่างวิธีของโจทก์หรือวิธีของจำเลยโดยต่างไม่สืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าการแบ่งตามวิธีที่จำเลยเสนอเป็นวิธีที่สามารถจะแบ่งได้และเป็นธรรมแก่คู่ความแล้วก็พิพากษาแบ่งไปตามวิธีที่จำเลยเสนอได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำกรณีแบ่งที่ดินตามสัญญาประนีประนอม การบังคับคดีต้องเป็นไปตามสัญญาเดิม หากมีข้อพิพาทเรื่องเนื้อที่ต้องพิสูจน์ในคดีเดิม
คดี+คำพิพากษาถึงที่สุดตามสัญญาประนีประนอมให้แบ่งที่ดินกันระหว่างคู่ความเป็นส่วน ๆ แต่ชั้นบังคับคดีเกิดมีปัญหาในเรื่องเนื้อที่ของที่ดินที่จะแบ่งและศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งชี้ขาดไปแล้ว หากคู่ความเห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่ถูกต้องประการใดก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อไปจะฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำหลังมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมเรื่องแบ่งที่ดิน ศาลฎีกาตัดสินว่าเป็นการฟ้องซ้ำ
คดีมีคำพิพากษาถึงที่สุดตามสัญญาประนีประนอมให้แบ่งที่ดินกันระหว่างคู่ความเป็นส่วนๆ แต่ชั้นบังคับคดีเกิดมีปัญหาในเรื่องเนื้อที่ของที่ดินที่จะแบ่ง และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งชี้ขาดไปแล้ว หากคู่ความเห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่ถูกต้องประการใด ก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อไป จะฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งที่ดินโดยใช้การชี้เขตของเจ้าของที่ดินข้างเคียงมีผลผูกพัน แม้เอกสารหลักฐานไม่ตรงกัน
โจทก์จำเลยพิพาทกันในเรื่องที่ดิน ที่สุดได้ตกลงให้ศาลเรียกเจ้าของที่ดินข้างเคียงมาชี้ว่าเขตของคนข้างเคียงว่าอยู่แค่ไหนแล้วให้จ่าศาลวัดจากที่ของคนข้างเคียงไปจำนวนหนึ่งให้เป็นของโจทก์ที่เหลือเป็นของจำเลย เช่นนี้แสดงว่าคู่ความยอมตกลงรับเอาตามเนื้อที่ที่คนข้างเคียงชี้ให้เป็นสำคัญ ฉะนั้นแม้เอกสารหลักฐานการได้ที่ของคนข้างเคียงจะคลาดเคลื่อนไปจากที่ที่ชี้กันก็ตาม ศาลก็ชอบที่จะบังคับแบ่งไปตามทางที่คู่ความได้ตกลงกันไว้กล่าวคือตามทางที่คนข้างเคียงชี้
of 9