พบผลลัพธ์ทั้งหมด 93 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสภาพการเป็นสามีภรรยาจากเจตนาสมัครใจแยกกันอยู่ และสิทธิในการรับมรดก
คดีมรดก จำเลยซึ่งเป็นภริยาเจ้ามรดกให้การว่าผู้ร้องสอดไม่ใช่ภริยาเจ้ามรดกผู้ตาย หากจะเป็นภริยาผู้ตายก็ได้ร้างหรือหย่าขาดจากกันก่อนแล้วดังนี้เป็นการปฏิเสธว่าผู้ร้องสอดไม่ใช่ภริยาอันควรได้รับมรดกของผู้ตาย
ไม่เคลือบคลุม
ภริยาก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 จากสามีไปสามีได้ภริยาใหม่ภริยาก็ได้สามีใหม่ เป็นการสมัครใจหย่าขาดจากสามีภริยากันตั้งแต่วันที่จากกันไปแล้ว
ไม่เคลือบคลุม
ภริยาก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 จากสามีไปสามีได้ภริยาใหม่ภริยาก็ได้สามีใหม่ เป็นการสมัครใจหย่าขาดจากสามีภริยากันตั้งแต่วันที่จากกันไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินสมรสระหว่างสามีภริยาที่แยกกันอยู่: ที่ดินที่ได้มาระหว่างร้างกันไม่ใช่สินสมรส
เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ5ทรัพย์ที่ภริยาได้มาระหว่างร้างกันแม้ได้มาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว ก็ไม่เป็นสินสมรส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกกันอยู่และละทิ้งกันโดยไม่ให้ความอุปการะ ทำให้ภริยามีสิทธิจัดการสินบริคณห์ได้
สามีภริยาแยกกันอยู่ประมาณ 8 ปี เนื่องจากเกิดทะเลาะกันต่างไม่พอใจอยู่รวมกัน ภริยาจึงแยกไปอยู่ที่อื่น อันเป็นความพอใจของสามี ส่วนสามีคงอยู่ที่บ้านเรือนเดิม ตลอดเวลาที่แยกกันอยู่สามีไม่ได้ให้ความอุปการะส่งเสียเงินทองเลี้ยงดูภริยาอย่างใดเลยดังนี้ ถือได้ว่าสามีได้สละละทิ้งภริยาตาม ป.พ.พ.ม.39(2) แล้ว ภริยาจึงย่อมทำการผูกพันส่วนของตนในสินบริคนห์ได้โดยมิพักต้องได้รับอนุญาตจากสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกกันอยู่และการสละละทิ้งภริยา ทำให้ภริยามีสิทธิจำหน่ายสินบริคณห์ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามี
สามีภริยาแยกกันอยู่ประมาณ 8 ปี เนื่องจากเกิดทะเลาะกันต่างไม่พอใจอยู่รวมกัน ภริยาจึงแยกไปอยู่ที่อื่น อันเป็นความพอใจของสามี ส่วนสามีคงอยู่ที่บ้านเรือนเดิม ตลอดเวลาที่แยกกันอยู่สามีไม่ได้ให้ความอุปการะส่งเสียเงินทองเลี้ยงดูภริยาอย่างใดเลย ดังนี้ ถือได้ว่าสามีได้สละละทิ้งภริยาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 39(2) แล้ว ภริยาจึงย่อมทำการผูกพันส่วนของตนในสินบริคณห์ได้โดยมิพักต้องได้รับอนุญาตจากสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภริยาร้างไม่มีสิทธิในทรัพย์สินสมรสที่สามีได้มาช่วงแยกกันอยู่
สามีภริยาร้างกันอยู่ก่อนใช้ ป.ม.แพ่ง ฯ บรรพ 5 ก็ยังคงเป็นภริยาร้างตามกฎหมายเก่า กฎหมายใหม่หาได้บัญญัติเปลี่ยนแปลงไม่ เพราะกฎหมายใหม่ไม่กระทบกระเทือนถึงการสัมพันธูในครอบครัว สิทธิและหน้าที่ในเรื่องนี้ยังคงเป็นอยู่ตามกฎหมายเดิม เช่น ในการแบ่งสินสมรส
ภริยาร้างไม่มีสิทธิจะขอแบ่งทรัพยสินสมรส ที่สามีได้มาในระหว่างร้างกัน เพราะเหตุว่าทรัพย์นั้นมิใช่ได้มาโดยการอยู่กินสมรสร่วมกัน หากเป็นโดยอีกฝ่ายหนึ่ง หามาได้ตามลำพังและแยกไว้เป็นส่วนตัวแล้ว
ภริยาร้างไม่มีสิทธิจะขอแบ่งทรัพยสินสมรส ที่สามีได้มาในระหว่างร้างกัน เพราะเหตุว่าทรัพย์นั้นมิใช่ได้มาโดยการอยู่กินสมรสร่วมกัน หากเป็นโดยอีกฝ่ายหนึ่ง หามาได้ตามลำพังและแยกไว้เป็นส่วนตัวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภริยาร้าง สิทธิในทรัพย์สินสมรส: ทรัพย์ที่ได้มาขณะแยกกันอยู่ไม่เป็นสินสมรส
สามีภริยาร้างกันอยู่ก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ก็ยังคงเป็นภริยาร้างตามกฎหมายเก่า กฎหมายใหม่หาได้บัญญัติเปลี่ยนแปลงไม่ เพราะกฎหมายใหม่ไม่กระทบกระเทือนถึงการสัมพันธ์ในครอบครัว สิทธิและหน้าที่ในเรื่องนี้ยังคงเป็นอยู่ตามกฎหมายเดิม เช่น ในการแบ่งสินสมรส
ภริยาร้างไม่มีสิทธิจะขอแบ่งทรัพย์สินสมรส ที่สามีได้มาในระหว่างร้างกัน เพราะเหตุว่าทรัพย์นั้นมิใช่ได้มาโดยการอยู่กินสมรสร่วมกัน หากเป็นโดยอีกฝ่ายหนึ่งหามาได้ตามลำพังและแยกไว้เป็นส่วนตัวแล้ว
ภริยาร้างไม่มีสิทธิจะขอแบ่งทรัพย์สินสมรส ที่สามีได้มาในระหว่างร้างกัน เพราะเหตุว่าทรัพย์นั้นมิใช่ได้มาโดยการอยู่กินสมรสร่วมกัน หากเป็นโดยอีกฝ่ายหนึ่งหามาได้ตามลำพังและแยกไว้เป็นส่วนตัวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่าโดยการแยกกันอยู่เป็นเหตุ แม้หนังสือหย่าไม่สมบูรณ์
โจทก์(ภริยา)ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลย(สามี) ไปจดทะเบียนการหย่ากับโจทก์ หากไม่สามารถไปก็ขอให้มีคำสั่งให้กรมการอำเภอจดทะเบียนการหย่าให้โจทก์ ทั้งนี้โดยโจทก์อ้างเหตุว่าโจทก์จำเลยทะเลาะกันแล้วตกลงหย่ากันโดยทำหนังสือหย่ากันแล้ว จำเลยก็ได้ขนทรัพย์สิ่งของอพยพไปอยู่ภูมิลำเนาเดิมของจำเลย มิได้เกี่ยวข้องกับโจทก์แต่อย่างใดเกิน 1 ปี ดังนี้ แม้หนังสือหย่าจะไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ศาลก็พิจารณาเหตุข้อที่ร้างเกิน 1 ปีเป็นเหตุหย่าได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสามีภริยาแม้แยกกันอยู่ - การมีบุตรกับผู้อื่นไม่ทำให้สถานะเปลี่ยนแปลง
สามีภริยาแยกกันอยู่ระหว่างใช้ ป.พ.พ.บรรพ 5 แล้วภริยาไปอยู่กับชู้จนเกิดบุตรด้วยกัน ดังนี้สามีภริยายังเป็นสามีภริยากันอยู่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกกันอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ไม่ทำให้สิ้นสุดสถานะสามีภริยา
สามีภริยาแยกกันอยู่ระหว่างใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 แล้วภริยาไปอยู่กับชู้จนเกิดบุตรด้วยกัน ดังนี้สามีภริยายังเป็นสามีภริยากันอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกกันอยู่ไม่ได้ตัดสิทธิมรดก: แม้จะร้างกันนาน ก็ยังถือเป็นสามีภรรยากัน
สามีภรรยาแยกกันหยู่ช้านานหรือเรียกว่าร้างกันนั้น ไม่ทำไห้ขาดจากสามีภรรยากัน และไม่สิ้นสิทธิรับมรดกซึ่งกันและกัน.