พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,140 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2421/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จ แม้จะยังไม่ได้ครอบครองทรัพย์สิน
จำเลยใช้มือล้วงเข้าไปในช่องลมแผงลอยของผู้เสียหายแล้วปลดเอาพวงผงชูรสซึ่งแขวนไว้ที่ตะปูใต้ช่องลม แม้จำเลยจะเอาผงชูรสไปไม่ได้เนื่องจากถูกพวกของผู้เสียหายใช้มีดฟันถูกนิ้วมือของจำเลยเป็นเหตุให้จำเลยต้องปล่อยผงชูรสนั้นก็ตาม การกระทำของจำเลยก็ถือว่าเป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2304/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้โดยการบอกกล่าวและการครอบครองปรปักษ์ แม้มี ส.ค.1 ก็ไม่ทำให้สิทธิครอบครองของผู้อื่นสิ้นไป
ก่อนเจ้ามรดกถึงแก่ความตายได้ พูดยกที่ดินมือเปล่าให้แก่บุตรแต่ละคน โดย บุตรคนไหนปลูกบ้านอยู่ในที่ดินส่วนใด ก็ยกที่ดินส่วนนั้นให้ โจทก์ซึ่ง เป็นบุตรเจ้ามรดกได้ ปลูกบ้านในที่ดินพิพาท และได้ครอบครองที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของตลอดมา แม้ต่อมาภายหลังจำเลยจะไปขอรับมรดกที่ดินพิพาท ซึ่ง มี ส.ค.1 แล้วขอให้ทางราชการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่จำเลย แต่ เมื่อโจทก์ยังคงครอบครองที่ดินพิพาทตลอดมา จึงหาทำให้จำเลยได้ สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิของผู้อื่น แม้ครอบครองเกิน 10 ปี ก็ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
จำเลยที่ ๑ ทำหนังสือสัญญายกที่ดินมีโฉนด ให้โจทก์ และรับรองว่าจะจัดการแบ่งแยกให้ในภายหน้า หากไม่แบ่งให้ตาม สัญญา ยอมให้โจทก์ฟ้องบังคับตาม สัญญา ข้อสัญญาดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ ๑ประสงค์จะยกที่ดินให้โจทก์โดย การทำนิติกรรมและจดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ หาใช่เป็นกรณีสละการครอบครองไม่เมื่อการให้รายนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่นิติกรรมให้ก็ย่อมไม่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย การที่โจทก์เข้าครอบครองที่พิพาทจึงเป็นการครอบครองโดย อาศัยสิทธิของจำเลยที่ ๑ อันเป็นการยึดถือที่พิพาทแทนจำเลยที่ ๑ มิใช่เป็นการยึดถือในฐานะ เป็นเจ้าของ แม้โจทก์ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาเกินสิบปี โจทก์ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๖๒ ที่ห้ามฟ้องบุพการีของตน เป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาเป็นบทกฎหมายที่จำกัดสิทธิต้อง ตีความโดย เคร่งครัด จึงห้ามเฉพาะ บุตรที่ชอบด้วย กฎหมายฟ้องบุพการีของตน เท่านั้น.
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๖๒ ที่ห้ามฟ้องบุพการีของตน เป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาเป็นบทกฎหมายที่จำกัดสิทธิต้อง ตีความโดย เคร่งครัด จึงห้ามเฉพาะ บุตรที่ชอบด้วย กฎหมายฟ้องบุพการีของตน เท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2268/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย: ตัวการหรือผู้สนับสนุน, ปริมาณสารบริสุทธิ์และบทลงโทษ
เฮโรอีนของกลางอยู่ในกระเป๋าเดินทางของจำเลย จำเลยเตรียม จะนำออกไปนอกราชอาณาจักรไทยพร้อมกับจำเลย โดยจำเลยมีหนังสือเดินทางและตั๋วโดยสารเครื่องบินพร้อมที่จะเดินทางโดยมีกระเป๋าบรรจุเฮโรอีนของกลางไปด้วยเช่นนี้ จำเลยจึงเป็นผู้ครอบครองเฮโรอีนของกลางอันถือได้ว่าเป็นตัวการในการกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย หาใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนไม่.
เฮโรอีนของกลางที่จำเลยมีไว้ในครอบครองมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 1,297 กรัม ซึ่งตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง บัญญัติ ว่าการผลิตนำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไป ให้ถือว่าผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยจะเถียงว่าไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่ายหาได้ไม่.
เฮโรอีนของกลางที่จำเลยมีไว้ในครอบครองมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 1,297 กรัม ซึ่งตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง บัญญัติ ว่าการผลิตนำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไป ให้ถือว่าผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยจะเถียงว่าไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่ายหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2268/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย: การพิสูจน์เจตนาและปริมาณที่เข้าข่ายความผิด
เฮโรอีนของกลางอยู่ในกระเป๋าเดินทางของจำเลย จำเลยเตรียมจะนำออกไปนอกราชอาณาจักรไทยพร้อมกับจำเลย โดยจำเลยมีหนังสือเดินทางและตั๋วโดยสารเครื่องบินพร้อมที่จะเดินทางโดยมีกระเป๋าบรรจุเฮโรอีนของกลางไปด้วยเช่นนี้ จำเลยจึงเป็นผู้ครอบครองเฮโรอีนของกลางอันถือได้ว่าเป็นตัวการในการกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย หาใช่เพียงผู้สนับสนุนไม่ เฮโรอีนของกลางที่จำเลยมีไว้ในครอบครองมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 1,297 กรัม ซึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง บัญญัติว่า การผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไป ให้ถือว่าผลิต นำเข้าส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยจะเถียงว่าไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่ายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2244/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดินต้องเป็นการเข้าไปครอบครองโดยไม่มีสิทธิ การยินยอมของเจ้าของเดิมก่อนโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ ไม่ถือเป็นการบุกรุก
ความผิดฐานบุกรุกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 นั้น ต้องเป็นการเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข จำเลยเข้าไปปลูกสร้างบ้านในที่พิพาทโดยความยินยอมของเจ้าของเดิมก่อนโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทมา หาใช่จำเลยเพิ่งเข้าไปครอบครองที่พิพาทเมื่อโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทแล้วไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 362
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2244/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกต้องเป็นการครอบครองโดยปราศจากความยินยอม การปลูกสร้างโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของเดิมก่อนโอนกรรมสิทธิ์ไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดฐานบุกรุกตาม ป.อ. มาตรา 362 นั้น ต้องเป็นการเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุขจำเลยเข้าไปปลูกสร้างบ้านในที่พิพาทโดยความยินยอมของเจ้าของเดิมก่อนโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทมา หาใช่จำเลยเพิ่งเข้าไปครอบครองที่พิพาทเมื่อโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทแล้วไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 362.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2244/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกต้องเป็นการครอบครองใหม่ หรือรบกวนการครอบครองเดิม การยินยอมจากเจ้าของเดิมก่อนโอนกรรมสิทธิ์ ไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 นั้นต้องเป็นการเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข จำเลยเข้าไปปลูกสร้างบ้านในที่พิพาทโดยความยินยอมของเจ้าของเดิมก่อนโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทมา หาใช่จำเลยเพิ่งเข้าไปครอบครองที่พิพาทเมื่อโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทแล้วไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 362
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2244/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกต้องเป็นการเข้าไปภายหลังการโอนกรรมสิทธิ์ การครอบครองก่อนไม่ผิด
ความผิดฐานบุกรุกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 นั้นต้อง เป็นการเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือ การครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดย ปกติสุข จำเลยเข้าไปปลูกสร้างบ้านในที่พิพาทโดย ความยินยอมของเจ้าของเดิม ก่อนโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทมา หาใช่จำเลยเพิ่งเข้าไปครอบครองที่พิพาทเมื่อโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทแล้วไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 362.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิครอบครองที่ดินหลังตายเพื่อชำระหนี้: สิทธิจำเลยชอบด้วยกฎหมาย
การที่ อ. ได้ทำหนังสือเจตนาสละสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินไว้ล่วงหน้าว่า เมื่อ อ. ตายแล้ว ให้ที่พิพาทเป็นสิทธิแก่จำเลยเจ้าหนี้แทนการชำระหนี้ เมื่อจำเลยยินยอมตามนี้โดยได้ครอบครองเพื่อตนตั้งแต่ อ. ตาย ก็เป็นสิทธิที่คู่กรณีกระทำได้โดยชอบ ไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสองและวรรคสุดท้ายการครอบครองที่ดินของ อ. จึงเป็นอันสิ้นสุดลงเมื่อ อ. ตาย นับแต่นั้นมาจำเลยหาได้ครอบครองที่พิพาทแทน อ. หรือโจทก์ผู้เป็นทายาท อ. ไม่ จำเลยจึงไม่ตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ยึดถือแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการครอบครองไปยังโจทก์ จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาท โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเอาที่พิพาทคืน