คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ดุลพินิจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 923 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการงดแถลงการณ์ด้วยวาจา: ดุลพินิจตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
การที่ศาลอุทธรณ์สั่งงดการแถลงการณ์ด้วยวาจานั้น เป็นดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์มีอำนาจกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 241 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์สั่งงดแถลงการณ์ด้วยวาจา: ดุลพินิจตามกฎหมาย
การที่ศาลอุทธรณ์สั่งงดการแถลงการณ์ด้วยวาจานั้นเป็นดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์มีอำนาจกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 241 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์สั่งงดแถลงการณ์ด้วยวาจา: ดุลพินิจตามกฎหมาย
การที่ศาลอุทธรณ์สั่งงดการแถลงการณ์ด้วยวาจานั้น. เป็นดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์มีอำนาจกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 241 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยจากคำให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ถือเป็นการแก้ไขเล็กน้อยในดุลพินิจศาลอุทธรณ์ ห้ามฎีกา
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้วและใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยมา 3 ปียังไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะพึงแก้ไขแต่เห็นว่าการที่จำเลยให้การว่า จำเลยเข้าไปจับรถคันของผู้เสียหายออกและภายหลังได้นำเอาไปจอดไว้ที่เดิมนั้นเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณานับว่ามีเหตุบรรเทาโทษซึ่งจำเลยสมควรจะได้รับการลดโทษจึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่าให้ลดโทษจำเลย 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยไว้2 ปี นั้นเป็นเรื่องที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้นแล้วแก้ไขเล็กน้อยในการใช้ดุลพินิจลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คดีจึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
ปัญหาว่าคำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาหรือไม่ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ดุลพินิจรอการลงโทษโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหา และการรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริงแต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบแต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้นจะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการอนุญาตให้ถอนฟ้องหลังจำเลยให้การ แม้จำเลยคัดค้าน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 ที่บัญญัติในเรื่องโจทก์ขอถอนคำฟ้องภายหลังที่จำเลยยื่นคำให้การแล้วนั้น คงมีข้อห้ามไม่ให้ศาลอนุญาตโดยมิฟังจำเลยหรือผู้ร้องสอดก่อนเท่านั้น หาได้มีข้อห้ามว่า ถ้าจำเลยคัดค้านแล้ว ศาลก็อนุญาตให้ถอนฟ้องไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ แม้จำเลยจะคัดค้าน ศาลย่อมสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องได้ เพราะเป็นดุลพินิจของศาลที่จะมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนแบบเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความคล้ายคลึงโดยใช้ดุลพินิจของวิญญูชน
เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปควายสองตัวยืนหันหน้าเข้าหากัน ของจำเลยเป็นรูปควายกับช้างยืนหันหน้าเข้าหากันรูปช้างในเครื่องหมายการค้าจำเลยเห็นได้เด่นชัดมิได้ประดิษฐ์ดัดแปลงให้มองดูคล้ายรูปควาย การวางรูปในท่ายืนของสัตว์ในเครื่องหมายทั้งสองก็ไม่เหมือนกัน ทั้งตอนบนเหนือรูปสัตว์ในเครื่องหมายการค้าจำเลยยังประทับอักษรไทยจีนว่าเต็กเซ่งเฮง และคำว่าตราช้างควายบ่งระบุไว้อีกชั้นหนึ่ง ความต่างกันมีดังนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจำหน่ายคดีตามมาตรา 132 ไม่ใช่หน้าที่ ศาลต้องใช้ดุลพินิจพิจารณาตามพฤติการณ์
อำนาจสั่งจำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 นั้น กฎหมายให้อำนาจศาลไว้เพื่อใช้ตามสมควรแก่กรณี ไม่ใช่บังคับว่าจะต้องจำหน่ายคดีเสมอไป ถ้าศาลใช้ดุลพินิจไม่สั่งจำหน่ายก็ต้องชี้ขาดตัดสินไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 133
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สั่งประทับฟ้องให้โจทก์นำส่งหมายเรียกให้จำเลยหากขัดข้องให้แถลงศาลภายใน 3 วัน โจทก์ไม่ได้รายงานเหตุขัดข้องตามที่ศาลสั่ง ศาลชั้นต้นถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลฎีการับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งจำหน่ายคดีเนื่องจากทิ้งฟ้อง ศาลต้องใช้ดุลพินิจตามควรแก่กรณี ไม่ใช่บังคับจำหน่ายเสมอไป
อำนาจสั่งจำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา132 นั้น กฎหมายให้อำนาจศาลไว้เพื่อใช้ตามสมควรแก่กรณี ไม่ใช่บังคับว่าจะต้องจำหน่ายคดีเสมอไป ถ้าศาลใช้ดุลยพินิจไม่สั่งจำหน่ายก็ต้องชี้ขาดตัดสินไปตามประมวลกฎหมายวิพิจารณาความแพ่งมาตรา 133 หมายเหตุ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สังประทับฟ้องให้โจทก์นำส่งหมายเรียกให้จำเลยหากขัดข้องให้แถลงศาลภายใน 3 วัน โจทก์ไม่ได้รายงานเหตุขัอข้องตามที่ศาลสั่ง ศาลชั้นต้นถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาศาลฎีการับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ควบคุมรถราชการ กรณีไม่มีระเบียบชัดเจน และพลขับกระทำโดยพลการ
จำเลยได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ควบคุมรถยนต์เดินทางจากต่างจังหวัดมาราชการในจังหวัดพระนคร แต่ทางราชการยังไม่ได้วางระเบียบในเรื่องการควบคุมยานพาหนะที่มาราชการในจังหวัดพระนครไว้ การที่จำเลยให้พลขับนำรถไปเก็บไว้ที่บ้านพักนายทหารในกรมทหารนั้น นับว่าเป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสม จะหาว่าเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อไม่ได้
เมื่อได้ความว่าพลขับรถมีอำนาจถือกุญแจรถ คนอื่นจะเอากุญแจไปไม่ได้ การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ควบคุมไม่เรียกเก็บลูกกุญแจรถไว้ จะถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยไม่ได้
การที่จำเลยให้พลขับเอารถไปจอดเก็บไว้ในที่ปลอดภัยแล้วพลขับได้เอารถไปขับโดยพลการ จะถือว่าจำเลยประมาทเลินเล่อต่อหน้าที่ไม่ได้
of 93