พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินมือเปล่า การครอบครองปรปักษ์ และภาระการพิสูจน์ของผู้ฟ้อง
ที่ดินมือเปล่าผู้ใดยึดถือครอบครองไว้ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นยึดไว้เพื่อตน
โจทก์อ้างว่าจำเลยทำหนังสือคืนที่พิพาทจำเลยคัดค้านว่าเป็นหนังสือปลอมโจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบพิสูจน์ว่าเป็นหนังสือที่แท้จริง
โจทก์อ้างว่าจำเลยทำหนังสือคืนที่พิพาทจำเลยคัดค้านว่าเป็นหนังสือปลอมโจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบพิสูจน์ว่าเป็นหนังสือที่แท้จริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้ทางน้ำในที่สาธารณะ แม้จำเลยเข้าครอบครองภายหลัง โจทก์มีสิทธิใช้ประโยชน์ทางน้ำเดิมได้
โจทก์ขุดทางน้ำจากฉลองผ่านชานคลองเก่าอันเป็นที่สาะารณะมาสู่ที่โจทก์และใช้ประโยชน์ตลอดมา แล้วต่อมาภายหลังจำเลยได้เข้ายึดถือที่สาธารณะนั้น จำเลยย่อมไม่มีสิทธิไปปิดกั้นทางน้ำนั้นได้เมื่อจำเลยไปขุดดินปิดเข้าก็ย่อมเป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ต้องแสดงการครอบครองจริง ต่อเนื่อง และเปิดเผย หากไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิครอบครองชัดเจน สิทธิในที่ดินย่อมไม่สมบูรณ์
อ้างว่าครอบครองที่ 100 ไร่ แต่ได้ทำเพียงกานไม้เป็นแนวไว้และถากถางทำคันเพื่อปลูกโรงบ้างเล็กน้อยในบางปีนอกนั้นยังเป็นป่าอยู่ดังเดิม ยังไม่พอแสดงว่ามีสิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ธรณีสงฆ์: สิทธิเหนือที่ดินสงฆ์ แม้ครอบครองนานก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์ การพิสูจน์ความเป็นที่ธรณีสงฆ์
ที่ธรณีสงฆ์นั้นแม้ผู้ใดจะครอบครองมาช้านานเพียงใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองทั้งนี้ก็เพราะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นแนวเดียวกันตามนัยที่ว่านี้มาแต่เดิม คือพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121 มาตรา 7ความว่า 'ที่วัดก็ดีที่ธรณีสงฆ์ก็ดีเป็นสมบัติทางศาสนาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นอัครศาสนูปถัมภก ทางปกครองรักษาโดยพระบรมราชานุภาพ ผู้ใดผู้หนึ่งจะโอนกรรมสิทธิ์ที่นั้นไปไม่ได้' แม้กฎหมายมาตรานี้จะได้ถูกแก้ไขโดย พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2477 ให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์ได้โดยอำนาจแห่งกฎหมายเฉพาะและแม้ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2484 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะมีความในมาตรา 41 ว่า 'ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์จะโอนกรรมสิทธิ์ได้แต่โดยพระราชบัญญัติ'หลักการในเรื่องสิทธิของบุคคลเกี่ยวกับที่วัดก็คงเป็นไปเช่นเดิมคือบุคคลจะอ้างเอาที่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์เป็นกรรมสิทธิ์ของตนโดยอาศัยอำนาจปกครองโดยปรปักษ์หรือโดยอายุความไม่ได้ทั้งนี้เป็นคนละเรื่องกับปัญหาข้อเท็จจริงที่ว่าที่แปลงใดเป็นที่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์หรือมิใช่ซึ่งในกรณีนี้จะต้องสืบให้ได้ความชัดฟังได้ว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่เมื่อจำเลยครอบครองเอกสารปลอมและรู้ที่มา
ฟ้องโจทก์บรรยายในชั้นต้นว่าจำเลยบังอาจทำหนังสือมอบอำนาจขายที่ดินปลอมแล้วตอนท้ายบรรยายว่า ดังปรากฏตามสำเนาเอกสารปลอมท้ายฟ้องซึ่งจำเลยเป็นผู้ทำปลอมเอง หรือผู้อื่นทำปลอมขึ้นดังนี้ เมื่อหนังสือปลอมอยู่ในความครอบครองของจำเลยจำเลยย่อมรู้ดีว่าจำเลยเองหรือผู้ใดเป็นผู้ปลอมขึ้น.และจำเลยได้ใช้หนังสือปลอมนั้น
จำเลยย่อมรู้ที่มาของหนังสือปลอมได้ดี ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในทางอรรถคดี จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
จำเลยย่อมรู้ที่มาของหนังสือปลอมได้ดี ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในทางอรรถคดี จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิในที่ดินและการขอออกโฉนด: จำเลยไม่ต้องรับผิดหากเจ้าพนักงานไม่ออกโฉนดเพราะโจทก์ยังไม่ได้ครอบครอง
โจทย์ฟ้องจำเลยหาว่า เจ้าพนักงานไม่ออกดตราจองที่ดินให้โจทก์ เพราะจำเลยไปร้องคัดค้าน แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเจ้าพนักงานไม่ออกดตราจองให้โจทก์เพราะโจทก์ยังไม่เคยเข้าครอบครองที่ดินนั้นเลยจำเลยจะคัดค้านหรือไม่ ก็ไม่อาจทำให้โจทก์ได้ตราจองตามขอได้ ดังนี้ จำเลยจึงไม่ได้เป็นผู้ทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินมือเปล่าและการสละการครอบครอง ทำให้ผู้ขายไม่มีสิทธิเรียกคืนได้
ที่ดินบ้านมือเปล่านั้นเมื่อทางพิจารณาไม่มีฝ่ายใดนำสืบว่า ที่บ้านนั้น เจ้าของได้มีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 มาแล้ว ก็ต้องถือว่าเจ้าของมีสิทธิครอบครองมือเปล่าธรรมดาเช่นเดียวกับที่นามือเปล่า เท่านั้น (อ้างฎีกาที่ 5/2495)
ขายที่บ้านมือเปล่า โดยทำหนังสือสัญญากันเอง แล้วมอบที่ดินให้ผู้ซื้อครอบครองแล้ว อันถือได้ว่าผู้ขายได้มีเจตนาสละการครอบครองให้เขาแล้ว ผู้ขายย่อมไม่มีสิทธิฟ้องเรียกที่ดินนั้นคืน
ขายที่บ้านมือเปล่า โดยทำหนังสือสัญญากันเอง แล้วมอบที่ดินให้ผู้ซื้อครอบครองแล้ว อันถือได้ว่าผู้ขายได้มีเจตนาสละการครอบครองให้เขาแล้ว ผู้ขายย่อมไม่มีสิทธิฟ้องเรียกที่ดินนั้นคืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2077/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดินด้วยสิ่งปลูกสร้าง ไม่ถือเป็นการครอบครองปรปักษ์
การที่สิ่งก่อสร้างในที่ดินแปลงหนึ่งเอนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินอีกแปลงหนึ่งนั้น ไม่ใช่เป็นการครอบครองที่ดินของผู้อื่น ฉะนั้นเจ้าของที่ดินที่สิ่งปลูกสร้างของตนรุกล้ำเข้าไปจะอ้างการครอบครองปรปักษ์เอาที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1957/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินโดยการยกให้และการทำพินัยกรรมภายหลัง สิทธิของผุ้รับยกย่อมคุ้มครอง แม้การยกให้ไม่สมบูรณ์
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญเจ้าของยกให้โดยไม่ได้ทำให้ถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย ผู้รับการให้ได้เข้าครอบครองมากว่าหนึ่งปีแล้วย่อมได้สิทธิตาม มาตรา 1367 ฉะนั้นเจ้าของเดิมทำพินัยกรรมยกที่ดินนั้นให้ผู้อื่นในภายหลังจึงไม่มีผล
โจทก์บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แล้วนำสืบว่าโจทก์ได้ที่พิพาทมาโดยผู้อื่นยกให้เช่นนี้ เป็นการสืบถึงเหตุที่ได้ที่พิพาทมา ไม่เป็นการสืบนอกฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แล้วนำสืบว่าโจทก์ได้ที่พิพาทมาโดยผู้อื่นยกให้เช่นนี้ เป็นการสืบถึงเหตุที่ได้ที่พิพาทมา ไม่เป็นการสืบนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางแพ่งจากการใช้รถของราชการโดยมิได้รับอนุญาต และการขาดเจตนาจ้าง
การที่พลตำรวจเอารถของกรมตำรวจขับไปโดยพลการมิได้ขออนุญาตจากผู้ครอบครองรักษารถไปชนรถโจทก์เสียหาย เมื่อโจทก์ไม่มีพยานแสดงให้เห็นว่าการที่จำเลยที่ 2 ขับรถไปชนรถโจทก์นั้นได้กระทำไปในทางที่จ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 กรมตำรวจก็ไม่ต้องรับผิด และตามพฤติการณ์เช่นว่านี้ พลตำรวจเป็นผู้ครอบครองรถในขณะเกิดเหตุกรมตำรวจมิได้ครอบครองอันจะต้องรับผิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 (เข้าที่ประชุมใหญ่)