พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,092 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1916/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือภาคทัณฑ์ถือเป็นการตักเตือน หากลูกจ้างกระทำผิดซ้ำ นายจ้างเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย และต้องคืนเงินประกันหากไม่มีความเสียหาย
หนังสือภาคทัณฑ์มีข้อความว่า "....ท่านได้ละทิ้งหน้าที่ดังนั้น จึงออกหนังสือนี้เพื่อเป็นการภาคทัณฑ์ท่านในความผิดดังกล่าว หากปรากฏว่าท่านฝ่าฝืนระเบียบอีก.....บริษัทจะเลิกจ้างท่านทันที" หนังสือนี้มีลักษณะเป็นการตักเตือนลูกจ้างในความผิดนั้นแล้ว เมื่อลูกจ้างกระทำผิดระเบียบข้อบังคับโดยละทิ้งหน้าที่ซ้ำอีก นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
เงินประกันที่นายจ้างหักค่าจ้างของลูกจ้างไว้ ตามสัญญาจ้างนายจ้างจะริบได้ต่อเมื่อลูกจ้างผิดสัญญาและทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย เมื่อไม่ได้ความว่าการที่ลูกจ้างกระทำผิดระเบียบข้อบังคับเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างใดนายจ้างจึงไม่มีสิทธิริบเงินประกันตามสัญญา
เงินประกันที่นายจ้างหักค่าจ้างของลูกจ้างไว้ ตามสัญญาจ้างนายจ้างจะริบได้ต่อเมื่อลูกจ้างผิดสัญญาและทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย เมื่อไม่ได้ความว่าการที่ลูกจ้างกระทำผิดระเบียบข้อบังคับเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างใดนายจ้างจึงไม่มีสิทธิริบเงินประกันตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการเงินและเศรษฐกิจของรัฐ ไม่แสวงหากำไร
ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นธนาคารกลางในการปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐดำเนินกิจการควบคุมการเงินและการคลังของรัฐให้ถูกต้อง เหมาะสมและมีเสถียรภาพ ธุรกิจที่ธนาคารนี้ประกอบก็กระทำไปในฐานะธนาคารกลาง มิได้เป็นการแข่งขันกับ ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอื่น หากจะมีกำไรบ้างก็ เป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้นถือไม่ได้ว่ามีวัตถุประสงค์ เพื่อแสวงกำไรในทางเศรษฐกิจจึงได้รับยกเว้นมิต้อง อยู่ภายใต้บังคับประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1549/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างต่างชาติเนื่องจากสัญชาติ ถือเป็นการเลิกจ้างที่ต้องจ่ายค่าชดเชย
ข้ออุทธรณ์ที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลางแม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ถ้า ศาลฎีกายังไม่เห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัย ก็ไม่รับ วินิจฉัยให้ ลูกจ้างพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุไม่มีสัญชาติไทยอันเป็นการพ้นจากตำแหน่งโดยผลของกฎหมาย แต่นายจ้างก็จะต้องดำเนินการให้ลูกจ้างพ้นจากตำแหน่งไปอีกชั้นหนึ่ง ซึ่ง เป็นการให้ลูกจ้าง ออกจากงานโดยไม่ได้กระทำผิดใดๆ จึงถือว่าเป็นการเลิกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม จำเลยต้องบอกกล่าวและจ่ายค่าชดเชย แม้มีข้ออ้างเรื่องไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
ศาลแรงงานกลางมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า โจทก์พิมพ์หนังสือตอบรับ (สมาชิก) เข้าร่วมโครงการไม่เสร็จ และโจทก์ไม่เต็มใจต้อนรับบุคคลที่จะสมัครเป็นสมาชิกในโครงการการ์ดเพื่อความประหยัดสำหรับวัยรุ่นของจำเลยนั้น เป็นการขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่ แต่หากโจทก์ได้กระทำการดังกล่าวจริง ก็หาเป็นการขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยอันเป็นกรณีร้ายแรงไม่ เพราะเมื่อโจทก์ไม่ยอมทำ จำเลยก็มิได้ถือว่าเป็นความผิด แต่กลับอ้อนวอนให้โจทก์ช่วยทำเป็นหลายครั้ง เมื่อการกระทำของโจทก์ไม่เป็นการขัดคำสั่งกรณีที่ร้ายแรงอันต้อง ด้วย ข้อยกเว้นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 47(3) เสียแล้ว การที่โจทก์เลิกจ้างจำเลย จึงต้องบอกกล่าวและต้องจ่ายค่าชดเชย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม แม้มีคำสั่งแต่ไม่ร้ายแรงต้องบอกกล่าวและจ่ายค่าชดเชย
ศาลแรงงานกลางมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า โจทก์พิมพ์หนังสือตอบรับ (สมาชิก) เข้าร่วมโครงการไม่เสร็จ และโจทก์ไม่เต็มใจต้อนรับบุคคลที่จะสมัครเป็นสมาชิกในโครงการการ์ดเพื่อความประหยัดสำหรับวัยรุ่นของจำเลยนั้น เป็นการขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่แต่หากโจทก์ได้กระทำการดังกล่าวจริง ก็หาเป็นการขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยอันเป็นกรณีร้ายแรงไม่ เพราะเมื่อโจทก์ไม่ยอมทำ จำเลยก็มิได้ถือว่าเป็นความผิด แต่กลับอ้อนวอนให้โจทก์ช่วยทำเป็นหลายครั้ง เมื่อการกระทำของโจทก์ไม่เป็นการขัดคำสั่งกรณีที่ร้ายแรงอันต้อง ด้วย ข้อยกเว้นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อ 47(3) เสียแล้ว การที่โจทก์เลิกจ้างจำเลย จึงต้องบอกกล่าวและต้องจ่ายค่าชดเชย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426-1430/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างต่อเนื่องไม่มีกำหนดระยะเวลา การเลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย
เมื่อเริ่มจ้างโจทก์จำเลยมีคำสั่งจ้างความว่า จะเลิกจ้างก่อนครบกำหนดระยะเวลาก็ได้ จะจ้างต่อก็ได้ คำสั่งจ้างต่อมาก็มีข้อความเป็นการจ้างที่ไม่กำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนอยู่เช่นเดิม ครั้นถึงการจ้างงวดสุดท้ายจำเลยกำหนดเวลาการจ้างไว้ และไม่มีข้อความดังคำสั่งฉบับก่อนๆดังนี้ การที่จำเลยจ้างโจทก์ตั้งแต่แรกจนถึงครั้งสุดท้ายจึงเป็นการจ้างที่ขยายเวลาการจ้างสืบต่อกันมาไม่ขาดสายถือไม่ได้ว่าเป็นการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างด้วยเหตุประมาทเลินเล่อ และข้อยกเว้นการจ่ายค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย
ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดังนั้น การที่ระเบียบของนายจ้างกำหนดว่าการประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหายแม้ไม่ร้ายแรงก็เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย อันเป็นการแตกต่างไปจากที่ประกาศดังกล่าวบัญญัติจึงเป็นโมฆะใช้บังคับมิได้
การฝ่าฝืนข้อบังคับของนายจ้างซึ่งนายจ้างได้ออกใบเตือนแล้ว อันจะทำให้นายจ้างเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยนั้นหมายถึงข้อบังคับอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างที่ลูกจ้างสามารถปฏิบัติได้ แล้วลูกจ้างไม่กระทำโดยเจตนาฝ่าฝืนหาใช่การกระทำโดยประมาทไม่ ดังนี้ เมื่อลูกจ้างประมาทเลินเล่อทำให้นายจ้างเสียหายโดยที่นายจ้างออกใบเตือนแล้ว แม้จะไม่ร้ายแรง นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้ ไม่เป็นการเลิกจ้างอันไม่เป็นธรรม แต่นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย
การฝ่าฝืนข้อบังคับของนายจ้างซึ่งนายจ้างได้ออกใบเตือนแล้ว อันจะทำให้นายจ้างเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยนั้นหมายถึงข้อบังคับอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างที่ลูกจ้างสามารถปฏิบัติได้ แล้วลูกจ้างไม่กระทำโดยเจตนาฝ่าฝืนหาใช่การกระทำโดยประมาทไม่ ดังนี้ เมื่อลูกจ้างประมาทเลินเล่อทำให้นายจ้างเสียหายโดยที่นายจ้างออกใบเตือนแล้ว แม้จะไม่ร้ายแรง นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้ ไม่เป็นการเลิกจ้างอันไม่เป็นธรรม แต่นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างป่วย-บอกกล่าวล่วงหน้าไม่ชัดเจน นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าว
การที่จำเลยให้โจทก์ลาออกแต่โจทก์ไม่ยอม อาจเป็นเพราะโจทก์ยังเสียดายตำแหน่งและค่าจ้าง แม้จะเป็นเหตุให้จำเลยต้องจ่ายค่าจ้างแก่โจทก์โดยไม่ได้รับผลงานเท่าที่ควรก็เนื่องจากสมรรถภาพในการทำงานของโจทก์ลดน้อยถอยลงเพราะความบกพร่องของร่างกายและสมอง ถือไม่ได้ว่าการที่โจทก์ไม่ยอมลาออกเป็นการจงใจทำให้จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างเสียหายอันจะเป็นเหตุให้จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
การบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 582 นั้น ต้องเป็นการบอกกล่าวเลิกจ้างอย่างเป็นกิจจะลักษณะและต้องกำหนดวันที่จะเลิกจ้างไว้ด้วย การที่จำเลยบอกโจทก์เพียงว่าจะเลิกจ้างโจทก์เท่านั้นยังไม่ชอบด้วยมาตรา 582
การบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 582 นั้น ต้องเป็นการบอกกล่าวเลิกจ้างอย่างเป็นกิจจะลักษณะและต้องกำหนดวันที่จะเลิกจ้างไว้ด้วย การที่จำเลยบอกโจทก์เพียงว่าจะเลิกจ้างโจทก์เท่านั้นยังไม่ชอบด้วยมาตรา 582
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างเนื่องจากป่วยและการบอกกล่าวเลิกจ้างที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
การที่จำเลยให้โจทก์ลาออกแต่โจทก์ไม่ยอม อาจเป็นเพราะโจทก์ยังเสียดายตำแหน่งและค่าจ้างแม้จะเป็นเหตุให้จำเลยต้องจ่ายค่าจ้างแก่โจทก์โดยไม่ได้รับผลงานเท่าที่ควรก็เนื่องจากสมรรถภาพในการทำงานของโจทก์ลดน้อยถอยลงเพราะความบกพร่องของร่างกายและสมองถือไม่ได้ว่าการที่โจทก์ไม่ยอมลาออกเป็นการจงใจทำให้จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างเสียหายอันจะเป็นเหตุให้จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
การบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 582 นั้นต้องเป็นการบอกกล่าวเลิกจ้างอย่างเป็นกิจจะลักษณะและต้องกำหนดวันที่จะเลิกจ้างไว้ด้วยการที่จำเลยบอกโจทก์เพียงว่าจะเลิกจ้างโจทก์เท่านั้นยังไม่ชอบด้วยมาตรา 582
การบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 582 นั้นต้องเป็นการบอกกล่าวเลิกจ้างอย่างเป็นกิจจะลักษณะและต้องกำหนดวันที่จะเลิกจ้างไว้ด้วยการที่จำเลยบอกโจทก์เพียงว่าจะเลิกจ้างโจทก์เท่านั้นยังไม่ชอบด้วยมาตรา 582
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296-1297/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือเตือนทางวินัยที่ไม่ใช่โทษทางวินัย ไม่ถือเป็นการโต้แย้งสิทธิและไม่กระทบการจ่ายค่าชดเชย
ข้อบังคับองค์การจำเลยว่าด้วยวินัยฯ กำหนดโทษผิดวินัยไว้เพียง 5 สถาน คือ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือนให้ออก ปลดออก แต่ไม่รวมถึงตักเตือนด้วยการที่จำเลยมีหนังสือเตือนโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการลงโทษโจทก์และหากโจทก์จะถูกเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยเพราะกระทำการดังถูกตักเตือนมาแล้วโจทก์ก็ยกเป็นข้อต่อสู้ได้ว่าการเตือนเป็นหนังสือนี้ไม่ถูกต้องได้ดังนั้น กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิอันจะเป็นเหตุให้โจทก์นำคดีมาสู่ศาลขอให้เพิกถอนหนังสือเตือนดังกล่าวได้