คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ดุลพินิจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 923 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพตามฟ้องและการริบของกลาง: ศาลมีดุลพินิจในการริบของกลาง แม้จำเลยจะปฏิเสธกรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเล่นการพนัน ขอให้ริบของกลางจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา และยื่นคำร้องว่าโต๊ะบิลเลียดไฟฟ้าของกลางไม่ใช่ของจำเลย เมื่อฟ้องของโจทก์ไม่ได้ระบุว่าโต๊ะบิลเลียดไฟฟ้าของกลางเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย จึงถือได้ว่าจำเลยรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ ทุกประการอยู่ศาลจะพิพากษาริบของกลางหรือไม่นั้น อยู่ในดุลพินิจของศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลจังหวัดในการรับคดีแขวง: ดุลพินิจต้องใช้เมื่อยื่นฟ้อง การพิจารณาจนเสร็จสิ้นถือเป็นการยอมรับคดี
อำนาจของศาลจังหวัดที่จะใช้ดุลพินิจสั่งรับหรือปฏิเสธไม่รับคดีซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลแขวงตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14(2) นั้น ศาลจังหวัดจะต้องสั่งเมื่อมีการยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดนั้น และการที่ศาลจังหวัดได้ดำเนินการพิจารณาจนเสร็จสำนวนแล้ว ย่อมแสดงว่าได้ใช้ดุลพินิจยอมรับคดีไว้อยู่ในตัวแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลจังหวัดสั่งรับคดีแขวง: ดุลพินิจและการพิจารณาคดี
อำนาจของศาลจังหวัดที่จะใช้ดุลพินิจสั่งรับหรือปฏิเสธไม่รับคดีซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลแขวงตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา 14(2) นั้น. ศาลจังหวัดจะต้องสั่งเมื่อมีการยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดนั้น และการที่ศาลจังหวัดได้ดำเนินการพิจารณาจนเสร็จสำนวนแล้ว ย่อมแสดงว่าได้ใช้ดุลพินิจยอมรับคดีไว้อยู่ในตัวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการสั่งรื้ออาคารและการตรวจสอบดุลพินิจ ศาลไม่แทรกแซงหากชอบด้วยกฎหมาย
การที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารได้แจ้งให้โจทก์เลิกใช้และรื้อถอนอาคารเพราะอยู่ในสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง หรือไม่ปลอดภัยซึ่งน่าจะเป็นอันตรายแก่ร่างกาย ชีวิตหรือทรัพย์สิน และโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ได้มีมติให้ยกอุทธรณ์แล้วนั้น โจทก์จะมาฟ้องศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นโดยอ้างแต่เพียงว่าอาคารของโจทก์ยังมั่นคงแข็งแรงมิได้ เพราะไม่ปรากฏว่าในการวินิจฉัยเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและคณะกรรมการได้กระทำการนอกเหนือความในพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารอย่างใด ทั้งไม่ปรากฏว่าการวินิจฉัยของจำเลยหรือคณะกรรมการเป็นการวินิจฉัยโดยไม่มีข้อเท็จจริงสนับสนุน และการวินิจฉัยของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์เป็นการวินิจฉัยตามอำนาจในมาตรา 12 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2504 มิใช่เป็นการใช้อำนาจศาล จึงไม่ขัดต่อธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนคำสั่งรื้อถอนอาคาร: ศาลยืนตามดุลพินิจเจ้าหน้าที่ หากไม่เกินอำนาจและมีเหตุผลสนับสนุน
การที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารได้แจ้งให้โจทก์เลิกใช้และรื้อถอนอาคารเพราะอยู่ในสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง หรือไม่ปลอดภัยซึ่งน่าจะเป็นอันตรายแก่ร่างกาย ชีวิตหรือทรัพย์สินและโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ได้มีมติให้ยกอุทธรณ์แล้วนั้น โจทก์จะมาฟ้องศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นโดยอ้างแต่เพียงว่าอาคารของโจทก์ยังมั่นคงแข็งแรงมิได้ เพราะไม่ปรากฏว่าในการวินิจฉัยเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและคณะกรรมการได้กระทำการนอกเหนือความในพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารอย่างใด ทั้งไม่ปรากฏว่าการวินิจฉัยของจำเลยหรือคณะกรรมการเป็นการวินิจฉัยโดยไม่มีข้อเท็จจริงสนับสนุน และการวินิจฉัยของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์เป็นการวินิจฉัยตามอำนาจในมาตรา 12 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2504 มิใช่เป็นการใช้อำนาจศาล จึงไม่ขัดต่อธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งแต่งตั้ง/ถอดถอนผู้แทนเฉพาะคดีผู้เยาว์เป็นดุลพินิจของศาล เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ห้ามอุทธรณ์
คำสั่งแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้แทนเฉพาะคดีของผู้เยาว์เป็นดุลพินิจของศาล และเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 และไม่ใช่คำสั่งตามมาตรา 227 หรือ 228 แต่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามมาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นผิดสัญญาถูกยุติ ผลดุลพินิจศาลคำนวณค่าเสียหายได้ แม้โจทก์มิได้พิสูจน์
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญา ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดสัญญา แต่โจทก์ไม่เสียหาย ให้ยกฟ้อง จำเลยมิได้อุทธรณ์ในประเด็นข้อนี้ไว้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย จำเลยจะฎีกาว่าจำเลยมิได้ผิดสัญญามิได้ เพราะประเด็นเรื่องผิดสัญญายุติถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว
ค่าเสียหายฐานผิดสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 นั้น แม้โจทก์จะนำสืบถึงค่าเสียหายไม่ได้ ศาลก็คำนวณค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้นให้โจทก์ได้ตามพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดี
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบอาวุธปืนที่มีใบอนุญาตจากการพกพาในที่สาธารณะ: ศาลมีดุลพินิจ
อาวุธปืนของกลาง เป็นปืนที่มีใบอนุญาตแล้ว จึงมิใช่วัตถุที่ผิดกฎหมายอันจะต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในที่ชุมนุมชนไม่ทำให้ปืนที่มีใบอนุญาตกลายเป็นปืนที่ผิดกฎหมายไปด้วย แต่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดต้องอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งริบหรือไม่ แล้วแต่คดีเป็นเรื่องๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดทรัพย์ยึด: โจทก์ไม่ต้องรับผิดชอบความล่าช้า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจใช้ดุลพินิจ
การขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือผู้แทนโจทก์ เพราะเป็นเรื่องอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะทำการขายตามประกาศ โดยใช้ดุลพินิจในการขายเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉะนั้นการขายที่ล่าช้าไปกว่ากำหนดตามประกาศไปบ้าง ย่อมจะปรับให้เป็นความผิดแก่โจทก์ไม่ได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานได้ทำการขายผิดระเบียบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งทำการขายใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบของคำพิพากษาในคดีอาญาต่อบุคคลภายนอก และการใช้ดุลพินิจเรื่องค่าเสียหายและค่าทนาย
มาตรา 46 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ศาลรับฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญามาผูกพันถึงบุคคลภายนอกคดีด้วย
ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ควรได้รับชดใช้ค่าเสียหายเพียง 2 ปี แทนที่จะเป็น 5 ปีดังคำพิพากษาศาลชั้นต้น แล้วศาลอุทธรณ์จึงใช้ดุลพินิจให้ค่าทนายเป็นพับ ทั้งๆ ที่โจทก์แก้อุทธรณ์ เช่นนี้ เป็นการใช้ดุลพินิจโดยชอบแล้ว
of 93