พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการทำร้ายร่างกาย ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
                        
                        ผู้ตายกับจำเลย ซึ่งเป็นเด็กอายุไม่ถึง 16 ปี ได้โต้เถียงกันเรื่องโคของจำเลยเข้าไปกินถั่วในไร่ของบิดาผู้ตาย  ผู้ตายจะจับจำเลยส่งผู้ใหญ่บ้านจำเลยหนี  ผู้ตายไล่ทันได้จิกผมจำเลยดึงจนหน้าหงาย จำเลยใช้มีดแทงไปทางหลัง 1 ทีถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย  ดังนี้ ถือว่าจำเลยทำการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ เป็นผิดตามมาตรา 251,53
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1971/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกผู้มีอาวุธบุกรุกและข่มขู่
                        
                        ผู้ตายถือมีดดาบไปถึงโรงจำเลยเวลากลางคืนและร้องเรียกให้จำเลยเปิดประตู จำเลยไม่ยอมเปิด ผู้ตายตัดเชือกผูกประตูเปิดเข้าไปในห้องจำเลย จำเลยคว้าได้ขวานหลบหนีไปอยู่ใต้ถุน ผู้ตายใช้ดาบแทงตามร่องพื้นโรงจนจำเลยต้องหนีออกจากใต้ถุน จะออกทางประตูผู้ตายใช้มีดดาบฟันจำเลยแต่มีดดาบไปถูกแปหลังคาโรงเสีย จำเลยหันมาใช้ขวานฟันผู้ตายหลายที ดังนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ.
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1971/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การป้องกันตัว: การกระทำเพื่อป้องกันชีวิตจากภัยคุกคามด้วยอาวุธและการใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุ
                        
                        ผู้ตายถือมีดดาบไปถึงโรงจำเลยเวลากลางคืนและร้องเรียกให้จำเลยเปิดประตู  จำเลยไม่ยอมเปิด  ผู้ตายตัดเชือกผูกประตูเปิดเข้าไปในห้องจำเลย  จำเลยคว้าได้ขวานหลบหนีไปอยู่ใต้ถุน  ผู้ตายใช้ดาบแทงตามร่องพื้นโรงจนจำเลยต้องหนีออกจากใต้ถุนจะออกทางประตู  ผู้ตายใช้มีดดาบฟันจำเลยแต่มีดดาบไปถูกแปหลังคาโรงเสีย  จำเลยหันมาใช้ขวานฟันผู้ตายหลายที  ดังนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การเกินสมควรแก่เหตุในการป้องกันตัว ทำให้มีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
                        
                        จำเลยถูกผู้ตายเอามือค้ำคอโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะอยู่ในที่มืดเมื่อจำเลยใช้ขวานฟันผู้ตายครั้งที่หนึ่งแล้ว ไม่ปรากฎว่าผู้ตายได้กระทำอะไรแก่จำเลยอีกเลย การที่จำเลยฟันครั้งที่สองอีกจนผู้ตายถึงตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ ต้องมีผิดตามมาตรา 251,53  ก.ม.ลักษณะอาญา.
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การเกินสมควรแก่เหตุในการป้องกันตัว ทำให้มีความผิดฐานฆ่าโดยไม่เจตนา
                        
                        จำเลยถูกผู้ตายเอามือค้ำคอโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะอยู่ในที่มืดเมื่อจำเลยใช้ขวานฟันผู้ตายครั้งที่หนึ่งแล้ว  ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้กระทำอะไรแก่จำเลยอีกเลย  การที่จำเลยฟันครั้งที่สองอีกจนผู้ตายถึงตายการกระทำของจำเลยจึงเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ  ต้องมีผิดตามมาตรา 251,53 กฎหมายลักษณะอาญา.
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การป้องกันตัวและชื่อเสียง: การฟันเพื่อป้องกันการทำร้ายจากผู้กระทำชู้
                        
                        ผู้ตายและภรรยาของจำเลยได้หลับนอนกระทำชู้กันที่บ้านเรือนของจำเลย จำเลยได้มาพบผู้ตายกับภรรยาจำเลยนอนกอดกันอยู่ จำเลยได้เรียกภรรยาให้จุดตะเกียง ผู้ตายได้ถือมีดกระโดดแทงจำเลย ๆ จึงใช้มีดฟันผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ย่อมฟังได้ว่า จำเลยได้ใช้มีดฟัน เพื่อป้องกันตัวและชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุยังไม่ควรต้องได้รับโทษ
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การป้องกันตัวและการป้องกันเกียรติยศ: ศาลฎีกาตัดสินให้ยกฟ้องคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
                        
                        ผู้ตายและภรรยาของจำเลยได้หลับนอนกระทำชู้กันที่บ้านเรือนของจำเลย จำเลยได้มาพบผู้ตายกับภรรยาจำเลยนอนกอดกันอยู่  จำเลยได้เรียกภรรยาให้จุดตะเกียง  ผู้ตายได้ถือมีดกระโดดแทงจำเลย  จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายถึงแก่ความตาย  ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่า จำเลยได้ใช้มีดฟัน เพื่อป้องกันตัวและชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุยังไม่ควรต้องได้รับโทษ
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1596/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การป้องกันตัวทางอาญา: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินในเคหสถาน
                        
                        ผู้ตายกับพวกมีอาวุธพากันเข้าไปภายในรั้วเขตต์เคหะสถานของจำเลยในเวลากลางคืน จำเลยได้ร้องทักถามแล้วไม่ตอบ จำเลยได้ยิงไป 1 นัด ถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นการกระทำเพื่อป้องกันร่างกายและทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลย
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การแทงข้างหลังขณะผู้ถูกทำร้ายจะผละหนี ไม่เป็นเหตุป้องกันตัวตามกฎหมาย
                        
                        ผู้ตายได้โต้เถียงและทำร้ายบิดาจำเลย ๆ ได้วิ่งเข้ามา ผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลย ๆ จึงใช้มีดแทงผู้ตายไป 1 ที และผู้ตายได้ตีจำเลยอีก 1 ที แล้วเอี้ยวตัวจะผละหนี จำเลยก็แทงผู้ตายที่หลังอีก 1 ที ดังนี้การที่จำเลยแทงครั้งหลังนั้นไม่เป็นการป้องกันตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50 เพราะจำเลยแทงข้างหลัง ไม่มีความจำเป็นที่จำเลยจะต้องแทงผู้ตายเพื่อให้บิดาหรือตัวจำเลยพ้นภยันตรายจากการกระทำของผู้ตาย การกระทำของจำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่กระทำลงโดยบรรดาลโทษะ
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การแทงข้างหลังขณะคู่ต่อสู้ผละหนี ไม่เป็นเหตุป้องกันตัวตามกฎหมาย
                        
                        ผู้ตายได้โต้เถียงและทำร้ายบิดาจำเลย  บิดาจำเลยได้วิ่งเข้ามา ผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลย  จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตายไป 1 ที และผู้ตายได้ตีจำเลยอีก 1 ที แล้วเอี้ยวตัวจะผละหนี  จำเลยก็แทงผู้ตายที่หลังอีก 1 ทีดังนี้ การที่จำเลยแทงครั้งหลังนั้น ไม่เป็นการป้องกันตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50 เพราะจำเลยแทงข้างหลัง  ไม่มีความจำเป็นที่จำเลยจะต้องแทงผู้ตายเพื่อให้บิดาหรือตัวจำเลยพ้นภยันตรายจากการกระทำของผู้ตาย  การกระทำของจำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่กระทำลงโดยบันดาลโทสะ