พบผลลัพธ์ทั้งหมด 953 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการมรดกตามพินัยกรรม: การตกลงของผู้จัดการมรดกมีผลผูกพัน แม้จะมีการกลับใจ
พินัยกรรม์ที่กำหนดให้ผู้จัดการมฤดกยกทรัพย์ให้บุตรคนใดคนหนึ่งของเจ้ามฤดกนั้น ใช้ได้ตามมาตรา 1706 ข้อ 2
ผู้จัดการมฤดกหลายคนครั้งแรกได้ตกลงพร้อมกันเป็นหนังสือว่าจะยกทรัพย์ให้แก่บุตรของเจ้ามฤดกคนใดคนหนึ่งตามข้อกำหนดในพินัยกรรม์แล้ว แม้ภายหลังผู้จัดการมฤดกส่วนมากจะกลับใจยกทรัพย์ให้บุตรของเจ้ามฤดกคนอื่นอีกก็ไม่มีผลเพราะถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมฤดกเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อตกลงกันครั้งแรก
ผู้จัดการมฤดกหลายคนครั้งแรกได้ตกลงพร้อมกันเป็นหนังสือว่าจะยกทรัพย์ให้แก่บุตรของเจ้ามฤดกคนใดคนหนึ่งตามข้อกำหนดในพินัยกรรม์แล้ว แม้ภายหลังผู้จัดการมฤดกส่วนมากจะกลับใจยกทรัพย์ให้บุตรของเจ้ามฤดกคนอื่นอีกก็ไม่มีผลเพราะถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมฤดกเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อตกลงกันครั้งแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม: การตกลงยกทรัพย์ให้บุตรแล้วถือเป็นเสร็จสิ้น แม้ผู้จัดการบางคนจะกลับใจ
พินัยกรรมที่กำหนดให้ผู้จัดการมรดกยกทรัพย์ให้บุตรคนใดคนหนึ่งของเจ้ามรดกนั้น ใช้ได้ตามมาตรา 1706 ข้อ 2
ผู้จัดการมรดกหลายคนครั้งแรกได้ตกลงพร้อมกันเป็นหนังสือว่าจะยกทรัพย์ให้แก่บุตรของเจ้ามรดกคนใดคนหนึ่งตามข้อกำหนดในพินัยกรรมแล้วแม้ภายหลังผู้จัดการมรดกส่วนมาก จะกลับใจยกทรัพย์ให้บุตรของเจ้ามรดกคนอื่นอีกก็ไม่มีผลเพราะถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อตกลงกันครั้งแรก
ผู้จัดการมรดกหลายคนครั้งแรกได้ตกลงพร้อมกันเป็นหนังสือว่าจะยกทรัพย์ให้แก่บุตรของเจ้ามรดกคนใดคนหนึ่งตามข้อกำหนดในพินัยกรรมแล้วแม้ภายหลังผู้จัดการมรดกส่วนมาก จะกลับใจยกทรัพย์ให้บุตรของเจ้ามรดกคนอื่นอีกก็ไม่มีผลเพราะถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อตกลงกันครั้งแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมลายพิมพ์นิ้วมือ: การพิสูจน์ความถูกต้องของพยาน และการรับฟังพยานหลักฐานเมื่อโจทก์ไม่นำสืบ
พินัยกรรมที่ผู้ทำลงลายพิมพ์นิ้วมือ มีพยานรับรองครบ 2 คนแล้ว แม้ผู้เขียนพินัยกรรมจะเขียนชื่อผู้ทำพินัยกรรมและผู้รับพินัยกรรมลงในช่องผู้มอบและผู้รับพินัยกรรม เพื่อให้ทราบว่าในช่องมีลายพิพม์นิ้วมือนั้นเป็นลายพิพม์นิ้วมือของใคร ก็ไม่ทำให้พินัยกรรมที่สมบูรณ์อยู่แล้วนั้นเสียไป
การรับรองลายพิพม์นิ้วมือนั้นหาจำต้องมีขอ้ความเขียนบอกไว้ให้ชัดเจนว่าได้รับรองลายพิพม์นิ้วมือด้วยเพียงแต่ในพินัยกรรมมีลายพิมพ์นิ้วมือผู้ให้ แล้วมีพยาน 2 คนลงรวมกำกับรับรองไว้ ก็เพียงพอแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำพินัยกรรมปลอมจึงขอให้ทำลาย จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ใช่พินัยกรรมปลอมส่งพินัยกรรมเป็นพยานต่อศาล โจทก์ยืนยันว่าพินัยกรรมนั้นปลอม แต่จะทำปลอมอย่างไร ไม่กล่า และงดไม่สืบพยาน ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าพินักรรมนั้นไม่มีอะไรชำรุดบกพร่อง หากแต่มีอะไรเกินเลยหรือทำให้เป็นที่น่าสงสัยได้บ้างเท่านั้น ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบตามข้ออ้าง เมื่อโจทก์ไม่สืบให้เห็นว่ามีพิรุธเสียหายปลอมแปลงอย่างไร ตรงไหน ให้เป็นที่แน่นอน ศาลก็ยากที่จะฟังว่าปลอมได้
การรับรองลายพิพม์นิ้วมือนั้นหาจำต้องมีขอ้ความเขียนบอกไว้ให้ชัดเจนว่าได้รับรองลายพิพม์นิ้วมือด้วยเพียงแต่ในพินัยกรรมมีลายพิมพ์นิ้วมือผู้ให้ แล้วมีพยาน 2 คนลงรวมกำกับรับรองไว้ ก็เพียงพอแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำพินัยกรรมปลอมจึงขอให้ทำลาย จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ใช่พินัยกรรมปลอมส่งพินัยกรรมเป็นพยานต่อศาล โจทก์ยืนยันว่าพินัยกรรมนั้นปลอม แต่จะทำปลอมอย่างไร ไม่กล่า และงดไม่สืบพยาน ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าพินักรรมนั้นไม่มีอะไรชำรุดบกพร่อง หากแต่มีอะไรเกินเลยหรือทำให้เป็นที่น่าสงสัยได้บ้างเท่านั้น ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบตามข้ออ้าง เมื่อโจทก์ไม่สืบให้เห็นว่ามีพิรุธเสียหายปลอมแปลงอย่างไร ตรงไหน ให้เป็นที่แน่นอน ศาลก็ยากที่จะฟังว่าปลอมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่ทำโดยการพิมพ์ลายนิ้วมือ และการรับรองพยานที่ไม่ต้องมีข้อความระบุชัดเจนว่าเป็นการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ
พินัยกรรมที่ผู้ทำลงลายพิมพ์นิ้วมือ มีพยานรับรองครบ 2 คนแล้วแม้ผู้เขียนพินัยกรรมจะเขียนชื่อผู้ทำพินัยกรรมและผู้รับพินัยกรรมลงในช่องผู้มอบและผู้รับพินัยกรรม เพื่อให้ทราบว่าในช่องที่มีลายพิมพ์นิ้วมือนั้นเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของใคร ก็ไม่ทำให้พินัยกรรมที่สมบูรณ์อยู่แล้วนั้นเสียไป
การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นหาจำต้องมีข้อความเขียนบอกไว้ให้ชัดเจนว่าได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือด้วย เพียงแต่ในพินัยกรรมมีลายพิมพ์นิ้วมือผู้ให้ แล้วมีพยาน 2 คนลงรวมกำกับรับรองไว้ก็เพียงพอแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำพินัยกรรมปลอมจึงขอให้ทำลายจำเลยต่อสู้ว่า ไม่ใช่พินัยกรรมปลอมส่งพินัยกรรมเป็นพยานต่อศาล โจทก์ยืนยันว่าพินัยกรรมนั้นปลอม แต่จะทำปลอมอย่างไร ไม่กล่าว และงดไม่สืบพยานดังนี้เมื่อปรากฏว่าพินัยกรรมนั้นไม่มีอะไรชำรุดบกพร่องหากแต่มีอะไรเกินเลยหรือทำให้เป็นที่น่าสงสัยได้บ้างเท่านั้น ก็เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องสืบตามข้ออ้างเมื่อโจทก์ไม่สืบให้เห็นว่ามีพิรุธเสียหายปลอมแปลงอย่างไร ตรงไหน ให้เป็นที่แน่นอน ศาลก็ยากที่จะฟังว่าปลอมได้
การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นหาจำต้องมีข้อความเขียนบอกไว้ให้ชัดเจนว่าได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือด้วย เพียงแต่ในพินัยกรรมมีลายพิมพ์นิ้วมือผู้ให้ แล้วมีพยาน 2 คนลงรวมกำกับรับรองไว้ก็เพียงพอแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำพินัยกรรมปลอมจึงขอให้ทำลายจำเลยต่อสู้ว่า ไม่ใช่พินัยกรรมปลอมส่งพินัยกรรมเป็นพยานต่อศาล โจทก์ยืนยันว่าพินัยกรรมนั้นปลอม แต่จะทำปลอมอย่างไร ไม่กล่าว และงดไม่สืบพยานดังนี้เมื่อปรากฏว่าพินัยกรรมนั้นไม่มีอะไรชำรุดบกพร่องหากแต่มีอะไรเกินเลยหรือทำให้เป็นที่น่าสงสัยได้บ้างเท่านั้น ก็เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องสืบตามข้ออ้างเมื่อโจทก์ไม่สืบให้เห็นว่ามีพิรุธเสียหายปลอมแปลงอย่างไร ตรงไหน ให้เป็นที่แน่นอน ศาลก็ยากที่จะฟังว่าปลอมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภริยาสิทธิทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินเดิมได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามี
ภริยามีสิทธิทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินเป็นสินเดิมของตนให้บุคคลอื่น โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภริยาสิทธิทำพินัยกรรมทรัพย์สินเดิม สามีไม่ต้องยินยอม
ภริยามีสิทธิทำพินัยกรรมยกทรัพย์อันเป็นสินเดิมของตนให้บุคคลอื่น โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่ชัดเจน ทรัพย์สินพิพาทนอกพินัยกรรม ศาลพิจารณาเจตนาเจ้ามรดก
พินัยกรรมที่ระบุในตอนต้นว่ายกทรัพย์ที่มีอยู่และที่จะเกิดมาในภายหน้าให้ผู้รับพินัยกรรมคนเดียวนั้นแต่ในตอนต่อไปมีรายการทรัพย์ว่า ยกทรัพย์สิ่งใดให้บ้าง แต่ทรัพย์พิพาทไม่มีระบุไว้ในพินัยกรรม ซึ่งมีเหตุให้เห็นได้ว่า แจ้งมรดกมิให้มีเจตนาจะยกทรัพย์ที่พิพาทนี้ให้แก่ผู้รับพินยกรรมด้วย ดังมีทรัพย์พิพาทจึงเป็นทรัพย์มรดกนอกพินัยกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในพินัยกรรม: ทรัพย์ที่ไม่ได้ระบุในรายการพินัยกรรมถือเป็นมรดกนอกพินัยกรรม
พินัยกรรมที่ระบุในตอนต้นว่ายกทรัพย์ที่มีอยู่และที่จะเกิดมีมาในภายหน้าให้ผู้รับพินัยกรรมคนเดียวนั้น แต่ในตอนต่อไปมีรายการทรัพย์ว่า ยกทรัพย์สิ่งใดให้บ้างแต่ทรัพย์พิพาทไม่มีระบุไว้ในพินัยกรรมซึ่งมีเหตุให้เห็นได้ว่า เจ้ามรดกมิได้มีเจตนาจะยกทรัพย์ที่พิพาทนี้ให้แก่ผู้รับพินัยกรรมด้วย ดังนี้ทรัพย์พิพาทจึงเป็นทรัพย์มรดกนอกพินัยกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมธรรมดาเพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองได้ แม้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานและพยาน
นายอำเภอได้บันทึกถ้อยคำเจ้ามฤดกต่อหน้าผู้นั่งซึ่งลงลายมือชื่อเป็นพะยาน 2 คน เจ้ามฤดกให้ถ้อยคำขอถอนพินัยกรรม์เดิม และแบ่งทรัพย์ให้บุตรหลานใหม่ แล้วลงลายมือชือต่อหน้าผู้นั่งที่ลงชื่อเป็นพะยานและบันทึกนั้นลงวันเดือนปีไว้ด้วย ดังนี้ ถือว่าบันทึกนั้นเป็นพินัยกรรมตามแบบธรรมดา และมีผลลบล้างพินัยกรรม์ฉะบับเก่า ซึ่งเป็นเอกสารฝ่ายเมือง
ฟ้องอุทธรณ์จะลงชื่อศาลเดิมหรือศาลอุทธรณ์ก็มีผลเช่นเดียวกัน
ฟ้องอุทธรณ์จะลงชื่อศาลเดิมหรือศาลอุทธรณ์ก็มีผลเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมธรรมดาเพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองได้ แม้ทำเป็นบันทึกต่อหน้าเจ้าพนักงานและพยาน
นายอำเภอได้บันทึกถ้อยคำเจ้ามรดกต่อหน้าผู้นั่งซึ่งลงลายมือชื่อเป็นพยาน 2 คน เจ้ามรดกให้ถ้อยคำขอถอนพินัยกรรมเดิม และแบ่งทรัพย์ให้บุตรหลานใหม่ แล้วลงลายมือชื่อต่อหน้าผู้นั่งที่ลงชื่อเป็นพยานและบันทึกนั้นลงวันเดือนปีไว้ด้วย ดังนี้ ถือว่าบันทึกนั้นเป็นพินัยกรรมตามแบบธรรมดา และมีผลลบล้างพินัยกรรมฉบับเก่าซึ่งเป็นเอกสารฝ่ายเมือง
ฟ้องอุทธรณ์จะลงชื่อศาลเดิมหรือศาลอุทธรณ์ก็มีผลเช่นเดียวกัน
ฟ้องอุทธรณ์จะลงชื่อศาลเดิมหรือศาลอุทธรณ์ก็มีผลเช่นเดียวกัน