คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องร้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 993 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขอค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรควบคู่กับการรับรองบุตร และอำนาจฟ้องในฐานะมารดาผู้ใช้อำนาจปกครอง
การฟ้องขอให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กรวมเข้ามาในคดีเดียวกันกับขอให้รับรองบุตรนั้น ย่อมทำได้ไม่มีกฎหมายห้ามโดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน
ส่วนที่โจทก์ฟ้องขอให้จ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กนั้นไม่ได้ฟ้องในนามของบุตรหรือในฐานะเป็นผู้แทนบุตร แต่ฟ้องในฐานะโจทก์เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพื่อให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรร่วมกับโจทก์จึงไม่เป็นอุทลุม(ป.พ.พ. ม.1534)
ข้อเถียงของจำเลยเรื่องอำนาจปกครองบุตรนั้นมิได้ยกขึ้นคัดค้านเสียแต่แรก จึงไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1798/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำพิพากษาตามฟ้องและผลผูกพันบุคคลภายนอกในสัญญาซื้อขายที่ดิน
คำพิพากษาจะต้องไม่เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง
คำพิพากษาตามยอมในเรื่องสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งไม่ผูกพันบุคคลภายนอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1767/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สิทธิในการฟ้องร้องเมื่อยังมิได้จดทะเบียน และผลของการไม่จดทะเบียนภายในกำหนดเวลา
คดีที่ฟ้องขอแสดงสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ดีกว่าผู้อื่นตามความใน ม.17 แห่ง พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 นั้น เป็นคดีที่ขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวนเป็นราคาจริงได้ตาม ม.189 (3) แม้ในฟ้องจะได้กล่าวอ้างว่าเครื่องหมายการค้ามีราคาถึง 10,000 บาท ก็ตามก็ไม่ใช่เรื่องทุนทรัพย์ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.แพ่ง ม.258
แม้โจทก์จะมีสิทธิจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ดีกว่าจำเลยก็ตาม แต่โจทก์มิได้จดทะเบียนไว้ภายในกำหนดเวลา 5 ปี ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 ม.29 วรรคต้นแล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าได้
ฎีกาที่ 1843/2497

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1767/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ความสำคัญของการจดทะเบียนภายในกำหนดเวลา และขอบเขตการฟ้องร้องเมื่อยังมิได้จดทะเบียน
คดีที่ฟ้องขอแสดงสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ดีกว่าผู้อื่นตามความใน มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ.2474 นั้น เป็นคดีที่ขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวนเป็นราคาเงินได้ตามมาตรา 189(3) แม้ในฟ้องจะได้กล่าวอ้างว่าเครื่องหมายการค้ามีราคาถึง 10,000 บาทก็ตามก็ไม่ใช่เรื่องทุนทรัพย์ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
แม้โจทก์จะมีสิทธิจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ดีกว่าจำเลยก็ตามแต่โจทก์มิได้จดทะเบียนไว้ภายในกำหนดเวลา 5 ปี ตาม พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 29วรรคต้นแล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าได้ ฎีกาที่ 1843/2497

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกเงินตามเช็ค: การฟ้องเฉพาะตามเช็คถือขาดอายุความ 1 ปี
บรรยายฟ้องว่า "จำเลยได้เซ็นเช็คธนาคารศรีนครจำกัดจ่ายเงินสดเพื่อเป็นการชำระหนี้เป็นเงิน 15,000 บาท " แล้วกล่าวเรื่องนำเช็คไปขึ้นไม่ได้เงิน ในที่สุดว่า "โจทก์ก็ได้นำเช็ครายนี้ไปเรียกเก็บจากจำเลยหลายครั้งจำเลยก็ขอผัดผ่อนเรื่อยมาและได้ให้ทนายบอกกล่าวกำหนดวันให้จำเลยชำระเงินตามเช็ครายนี้จำเลยก็ไม่ชำระให้โจทก์ "ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องสำหรับฟ้องเรียกเงินตามเช็คแต่อย่างเดียวเท่านั้น หาใช่เป็นการฟ้องเรียกเงินตามมูลหนี้เดิมไม่
อายุความในการที่ผู้ทรงตั๋วเงิน(เช็คก็เป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง) ฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คมีเวลาภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด ม.1002
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเช็ค: การฟ้องเฉพาะตามเช็ค vs. มูลหนี้เดิม
บรรยายฟ้องว่า "จำเลยได้เซ็นเช็คธนาคารศรีนครจำกัดจ่ายเงินสดเพื่อเป็นการชำระหนี้เป็นเงิน 15,000 บาท" แล้วกล่าวเรื่องนำเช็คไปขึ้นไม่ได้เงิน ในที่สุดว่า "โจทก์ได้นำเช็ครายนี้ไปเรียกเก็บจากจำเลยหลายครั้งจำเลยก็ขอผัดผ่อนเรื่อยมา และได้ให้ทนายบอกกล่าวกำหนดวันให้จำเลยชำระเงินตามเช็ครายนี้จำเลยก็ไม่ชำระให้โจทก์" ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องสำหรับฟ้องเรียกเงินตามเช็คแต่อย่างเดียวเท่านั้น หาใช่เป็นการฟ้องเรียกเงินตามมูลหนี้เดิมไม่
อายุความในการที่ผู้ทรงตั๋วเงิน(เช็คก็เป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง) ฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คมีเวลาภายใน 1 ปีนับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด มาตรา 1002 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการสละสิทธิครอบครอง หากปล่อยปละละเลยเกิน 1 ปี ย่อมหมดสิทธิฟ้อง
ที่มือเปล่าหากโจทก์สละการครอบครองก็ดี หรือปล่อยให้จำเลยครอบครองไม่ฟ้องภายใน 1 ปีก็ดี โจทก์ย่อมหมดสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ครอบครองมา 17 ปี จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลยครอบครองมาตั้ง 27 ปี ดังนี้เมื่อได้ความเมื่อ พ.ศ.2494 โจทก์ไปทำกินที่อำเภอเชียงดาว ฝากที่พิพาทกับนายคง จำเลยขัดขวางและเข้าครอบครองเสียเอง แล้วโจทก์เพิ่งมาฟ้องคดีนี้เมื่อเดือนกันยายน 2496 ต้องฟังว่าฟ้องเกิน 1 ปี นับแต่วันจำเลยเข้าแย่งการครอบครอง จึงหมดสิทธิฟ้อง
และในกรณีเช่นนี้แม้จะถือว่าเป็นอายุความฟ้อง ซึ่งตาม ก.ม.จะต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ หรือไม่ก็ตามแต่ตามคำให้การของจำเลยที่อ้างถึงการถือสิทธิครอบครองที่พิพาทมานั้นพอฟังได้ว่าจำเลยได้ยกข้อนี้ขึ้นต่อสู้ด้วยแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการสละสิทธิครอบครอง หากปล่อยปละละเลยฟ้องร้องภายใน 1 ปี ย่อมหมดสิทธิ
ที่มือเปล่าหากโจทก์สละการครอบครองก็ดี หรือปล่อยให้จำเลยครอบครองไม่ฟ้องภายใน 1 ปีก็ดีโจทก์ย่อมหมดสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ครอบครองมา 17 ปีจำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลยครอบครองมาตั้ง 27 ปี ดังนี้เมื่อได้ความเมื่อ พ.ศ.2494 โจทก์ไปทำกินที่อำเภอเชียงดาว ฝากที่พิพาทกับนายคง จำเลยขัดขวางและเข้าครอบครองเสียเอง แล้วโจทก์เพิ่งมาฟ้องคดีนี้เมื่อเดือนกันยายน 2496 ต้องฟังว่าฟ้องเกิน 1 ปี นับแต่วันจำเลยเข้าแย่งการครอบครอง จึงหมดสิทธิฟ้อง
และในกรณีเช่นนี้แม้จะถือว่าเป็นอายุความฟ้อง ซึ่งตามกฎหมายจะต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้หรือไม่ก็ตาม แต่ตามคำให้การของจำเลยที่อ้างถึงการถือสิทธิครอบครองที่พิพาทมานั้นพอฟังได้ว่าจำเลยได้ยกข้อนี้ขึ้นต่อสู้ด้วยแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้ถูกแจ้งความเท็จมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ไปแจ้งความต่อตำรวจหาว่า ก.หมิ่นประมาท ชั้นสอบสวนจำเลยให้การเป็นพยานต่อนายตำรวจด้วยข้อความเท็จโดยเจตนาจะช่วย ก.กรณีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายในฐานความผิดฐานแจ้งความเท็จมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้ถูกแจ้งความเท็จมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ไปแจ้งความต่อตำรวจหาว่า ก. หมิ่นประมาทชั้นสอบสวนจำเลยให้การเป็นพยานต่อนายตำรวจด้วยข้อความเท็จโดยเจตนาจะช่วย ก. กรณีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายในฐานความผิดฐานแจ้งความเท็จมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยได้
of 100