พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,022 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนที่มีใบอนุญาต: ดุลพินิจศาลในการสั่งริบวัตถุแห่งการกระทำผิด
อาวุธปืนของกลาง เป็นปืนที่มีใบอนุญาตแล้วจึงมิใช่วัตถุที่ผิดกฎหมายอันจะต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในที่ชุมนุมชน ไม่ทำให้ปืนที่มีใบอนุญาตกลางเป็นปืนที่ผิดกฎหมายไปด้วย แต่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดต้องอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งริบหรือไม่ แล้วแต่คดีเป็นเรื่อง ๆ ไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนที่มีใบอนุญาตจากการพกพาในที่สาธารณะ: ศาลมีดุลพินิจ
อาวุธปืนของกลาง เป็นปืนที่มีใบอนุญาตแล้ว จึงมิใช่วัตถุที่ผิดกฎหมายอันจะต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในที่ชุมนุมชนไม่ทำให้ปืนที่มีใบอนุญาตกลายเป็นปืนที่ผิดกฎหมายไปด้วย แต่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดต้องอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งริบหรือไม่ แล้วแต่คดีเป็นเรื่องๆ ไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความผิดเฉพาะตัวของผู้ครอบครอง
การที่จำเลยที่ 1 รับจำนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต จึงเป็นความผิดเฉพาะตัวของจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 7 โดยเฉพาะความผิดตามมาตรา 7 ผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดก็ต่อเมื่อมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแล้วนำไปจำนำไว้กับจำเลยที่ 1 ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นความผิดตามโจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนำอาวุธปืนโดยผู้มีใบอนุญาต ไม่ถือเป็นความผิดสนับสนุน
การที่จำเลยที่ 1 รับจำนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต จึงเป็นความผิดเฉพาะตัวของจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7 โดยเฉพาะความผิดตามมาตรา 7 ผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดก็ต่อเมื่อมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแล้วนำไปจำนำไว้กับจำเลยที่ 1 ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นความผิดฐานสนับสนุนตามโจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตตามใบอนุญาต ป.3 และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
ใบอนุญาตแบบ ป.3 กำหนดให้ผู้รับอนุญาตซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนจากผู้ที่ระบุไว้หากไปซื้อจากผู้อื่น ก็ย่อมเป็นการซื้อโดยไม่ได้รับอนุญาต ฉะนั้น เมื่อในใบอนุญาตแบบ ป.3 นี้ กำหนดให้ซื้อจากร้านจำหน่ายอาวุธปืน จำเลยไม่ใช่ผู้ตั้งร้านจำหน่ายอาวุธปืนได้ขายอาวุธปืนให้จึงเป็นการโอนอาวุธให้แก่ผู้มิได้รับอนุญาตตามความในมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯแต่ไม่ผิดตามมาตรา 34 เพราะมาตรา 34 เป็นบทบัญญัติอยู่ในส่วนที่ 2 ว่าด้วยอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า และเป็นบทห้ามมิให้ผู้ได้รับอนุญาตให้ทำการค้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จำหน่ายอาวุธปืนและกระสุนปืนให้แก่ผู้ที่มิได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและลักทรัพย์/รับของโจร เป็นคนละกรรมต่างวาระ ฟ้องไม่ขัดกัน
มีคนร้ายลักอาวุธปืนของผู้เสียหายไปตั้งแต่วันที่ 12 ต่อมาวันที่ 16 เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมอาวุธปืนพนักงานอัยการโจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานมีปืนไว้ในความครอบครองไม่รับอนุญาตเป็นคดีหนึ่ง แล้วฟ้องฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรอีกคดีหนึ่ง ดังนี้ เห็นได้ว่าการกระทำผิดฐานมีอาวุธปืนนั้นจำเลยย่อมจะได้กระทำผิดนับแต่วาระแรกที่ได้ปืนนั้นมาไว้ในครอบครอง และเป็นความผิดอยู่เรื่อยไปจนกระทั่งจำเลยถูกจับได้พร้อมอาวุธปืน ส่วนความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้นเป็นความผิดในขณะใดขณะหนึ่งตามที่โจทก์กล่าวหา ฉะนั้น การกระทำผิดของจำเลยที่โจทก์กล่าวหาทั้งสองคดีจึงอาจเป็นความผิดคนละกระทงต่างกรรมต่างวาระกันได้ ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเชื่อโดยสุจริตว่าปืนไม่มีกระสุน ทำให้ไม่ถึงแก่ความประมาท
จำเลยเป็นตำรวจ เชื่อโดยสุจริตว่าปืนที่มีบุคคลหนึ่งเก็บได้และมอบให้นั้นไม่มีกระสุนปืนบรรจุอยู่ จึงเอาปืนเหน็บไว้ที่เอว ต่อมาเนื่องจากการนั่งลุกของจำเลยเป็นเหตุให้กระสุนปืนที่จำเลยพกลั่นไปถูกผู้เสียหายดังนี้ จะเอาผิดแก่จำเลยฐานกระทำโดยประมาทยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สภาพปลอกกระสุนปืนและลักษณะการใช้งานที่เปลี่ยนไป ไม่ถือเป็นส่วนประกอบอาวุธปืน
ปลอกกระสุนปืนตามสภาพอาจเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนได้ แต่การมีอยู่เพียง 2 ปลอกและได้ความว่ามีไว้ใช้สวมปลายไม้ตะพด ปลอกกระสุนปืนนั้นก็ไม่มีสภาพเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำ หรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนเสียแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1952/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดความ 'วัตถุระเบิด' ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ต้องมีกำลังทำลายหรือประหาร
วัตถุระเบิดตามความหมายของพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2501 มาตรา 3(3) คือวัตถุที่สามารถส่งกำลังดันอย่างแรงต่อสิ่งห้อมล้อมโดยฉับพลันโดยมีสิ่งเหมาะมาทำให้เกิดกำลับดันหรือโดยการสลายตัวของวัตถุระเบิดนั้น และจะต้องทำให้มีแรงทำลายหรือแรงประหารเกิดขึ้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ ช่วยเหลือผู้ต้องสงสัย ปกปิดความจริงเกี่ยวกับอาวุธปืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นเจ้าพนักงาน(ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน) ร่วมกันละเว้นไม่นำปืน(ของกลาง)มีทะเบียนของผู้อื่นที่ตกอยู่กับคนร้ายซึ่งถูกเจ้าทรัพย์กับพวกยิงตาย ส่งพนักงานสอบสวนตามหน้าที่ โดยทุจริต ก็เป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 แล้ว ส่วนที่ยังร่วมกันกล่าวหาว่าเจ้าของปืนกระทำผิดส่งปืนนั้นให้คนร้าย ให้เจ้าของปืนหาเงินมามอบให้จำเลยและจำเลยยังได้ขูดลบเลขทะเบียนปืนเดิมออก ตอกเลขใหม่โดยว่าเพื่อจะช่วยมิให้พนักงานสอบสวนรู้ว่าปืนของกลางเป็นของเจ้าของปืน โดยความจริงจำเลยก็รู้อยู่ว่าเจ้าของปืนมิได้กระทำผิดในเรื่องคนร้ายเอาอาวุธปืนไปเลยนั้น การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เพื่อช่วยเจ้าของปืนมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลงด้วยจึงคงเป็นผิดตามมาตรา 148 และมาตรา 265 อีกเท่านั้น และไม่เป็นผิดตามมาตรา 184 และมาตรา 200