คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การครอบครอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิรวมและการแบ่งที่ดินตามส่วนเดิม แม้มีชื่อในโฉนด แต่ต้องพิจารณาการครอบครองจริง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 เป็นเรื่องของความสันนิษฐานในเบื้องต้นเท่านั้น คู่กรณีย่อมมีสิทธินำสืบหักล้างความสันนิษฐานทั้งนี้เสียได้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินจากจำเลยตามส่วนที่มีชื่อในโฉนดเมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมีส่วนไม่เท่ากันมาแต่เดิมและต่างครอบครอง เป็นส่วนสัดแต่แรกก่อนออกโฉนดสืบตลอดมาดังนี้ ก็ต้องแบ่งที่ดินตามส่วนที่ผู้ใดเป็นเจ้าของอันแท้จริง เพราะเป็นเรื่องกรรมสิทธิรวม หาใช่เรื่องครอบครองโดยปรปักษ์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1072/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายที่ดินที่มีเจ้าของร่วม สัญญาไม่เป็นโมฆะแต่บังคับโอนทั้งหมดไม่ได้ การครอบครองเป็นแทนเจ้าของ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 โอนกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขาย จำเลยที่ 2 ร้องสอดขอเป็นจำเลยร่วมและต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียว เมื่อทางพิจารณาฟังว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นเจ้าของร่วมกัน ดังนี้ ไม่เป็นคำวินิจฉัยนอกประเด็น
สัญญาจะขายที่ดินที่มีเจ้าของร่วมโดยเจ้าของร่วมทุกคนไม่รู้เห็นยินยอมด้วย สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะเป็นแต่เพียงผู้ซื้อจะบังคับผู้ขายให้โอนขายไม่ได้
ผู้จะขายจะมอบที่ให้ผู้จะซื้อเข้าครอบครองสัญญาจะไปโอนกรรมสิทธิ์ในภายหลังนั้น ถือว่าผู้จะซื้อครอบครองแทนผู้จะขายเท่านั้น (อ้างฎีกาที่ 1232/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสาธารณสมบัติ: การหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าและการครอบครองเพื่อประโยชน์สาธารณะ
คำว่าที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ.2478 ตรงกันกับคำว่า " ที่ดินรกร้างว่างเปล่า " ใน ป.พ.พ.มาตรา 1304 (1) เมื่อทางการต้องการหวงห้ามที่ดินที่ยังรกร้างว่างเปล่า เพื่อจะใช้เป็นสาธารณประโยชน์ใด ก็ต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาตามพระราชบัญญัตินี้
ที่ดินที่พลเมืองได้ใช้ร่วมกันอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามมาตรา 1304 (2) ป.พ.พ. ไม่ใช่ที่รกร้างว่างเปล่า ที่เหล่านั้นเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่ในตัว แม้ภายหลังจะเปลี่ยนการใช้ประโยชน์จากอย่างหนึ่งเป็นอีกอย่างหนึ่งอันเป็นสาธารณประโยชน์ด้วย
ที่ณาปนสถานซึ่งประชาชนใช้ฝังและเผาศพอยู่ ภายหลังได้ล้างป่าช้า และได้ปลูกโรงเรียนเทศบาลขึ้น ที่ดังกล่าวนั้นก็ยังเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่ตามเดิม
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า บริเวณโดยรอบซึ่งเป็นที่รกร้างว่างเปล่านั้น โจทก์มุ่งหมายให้เข้าใจเพียงว่าเป็นที่ส่วนประกอบของที่สาธารณตามสภาาพของลักษณะที่ดิน ที่เช่นนั้นไม่เกี่ยวกับที่ว่างเปล่าตามมาตรา 1304 (1) แต่อย่างใด
โจทย์ฟ้องว่าโจทก์เทศบาลได้เข้าครอบครองโดยได้รับมอบให้ดูแลจัดตั้งสถานที่ศึกษาเล่าเรียนอันเป็นสาธารณประโยชน์ของรัฐตามอำนาจและหน้าที่ จำเลยได้เข้ามาบุกรุกอันเป็นการรบกวนสิทธิของโจทก์โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกที่ดินตามการครอบครองจริง แม้มีการเปลี่ยนแปลงผู้สืบสิทธิ คำพิพากษาเดิมผูกพัน
ผู้มีชื่อในโฉนดได้เป็นความฟ้องขอแบ่งแยกโฉนดจากกันและกัน โดยฝ่ายโจทก์อ้างว่าตนมีสิทธิในที่ดิน 2 ใน 3 ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่า มีสิทธิคนละครึ่ง ศาลพิพากษาว่าต่างปกครองเป็นส่วนสัดกันมาฝ่ายละครึ่ง 30 ปี เศษแล้ว จึงขอให้ แบ่งโฉนดตามที่ปกครองมา คดีถึงที่สุด ดังนี้
ครั้นที่ดินตามโฉนดดังกล่าวตกได้แก่ผู้อื่นต่อมาทั้งสองฝ่าย แม้ผู้อื่นนั้นจะไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อนก็เป็นผู้สืบ สิทธิ มาจากคู่ความในคดีก่อนคำพิพากษาคดีก่อนจึงผูกมัดผู้นั้นด้วย ฉะนั้น ผู้ได้รับที่ดินตามโฉนดดังกล่าวจะมา ฟ้องร้องตั้งข้อพิพาทว่ามีส่วนในที่ดินตามโฉนดนั้นผิดไปจากคำพิพากษาในคดีเดิมย่อมไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาผูกพันผู้สืบสิทธิ: การแบ่งแยกที่ดินตามการครอบครองจริง แม้โฉนดระบุสิทธิแตกต่าง
ผู้มีชื่อในโฉนดได้เป็นความฟ้องขอแบ่งแยกโฉนดจากกันและกันโดยฝ่ายโจทก์อ้างว่าตนมีสิทธิในที่ดิน 2 ใน 3 ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่า มีสิทธิคนละครึ่ง ศาลพิพากษาว่าต่างปกครองเป็นส่วนสัดกันมาฝ่ายละครึ่ง 30 ปีเศษแล้ว จึงขอให้แบ่งโฉนดตามที่ปกครองมา คดีถึงที่สุด ดังนี้
ครั้นที่ดินตามโฉนดดังกล่าวตกได้แก่ผู้อื่นต่อมาทั้งสองฝ่ายแม้ผู้อื่นนั้นจะไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อนก็เป็นผู้สืบสิทธิ มาจากคู่ความในคดีก่อน คำพิพากษาคดีก่อนจึงผูกมัดผู้นั้นด้วย ฉะนั้น ผู้ได้รับที่ดินตามโฉนดดังกล่าวจะมาฟ้องร้องตั้งข้อพิพาทว่ามีส่วนในที่ดินตามโฉนดนั้นผิดไปจากคำพิพากษาในคดีเดิมย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696-698/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิที่ดินจากตราจอง: การครอบครองทำประโยชน์ต่อเนื่องและการกลับเป็นที่ว่างเปล่า
ที่ดินมีตราจองก่อน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2479 นั้น แม้เจ้าพนักงานจะได้ตราไว้ว่า "ได้ทำประ โชน์แล้ว" หรือตราไว้ว่า "ทำประโชน์สมควรแก่เนื้อที่" แล้วศาลฎีกาก็เห็นว่า ตราจองชะนีดนี้ถ้าผู้ถือตราจองได้ ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมาโดยมิได้ละทิ้งจนถึงวันประกาศใช้ พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2479 แล้ว มาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวจึงรับรองว่า ผู้ถือตราจองมีกรรมสิทธิที่ดินตามตราจองนั้น.
ฉะนั้นเมื่อก่อนออก พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2479 เจ้าของที่ดินตามตราจอง แม้ที่ตราไว้ว่า " ได้ทำ ประโยชน์แล้ว" ก็ตาม ถ้าได้ทอดทิ้งไม่ทำให้เป็นประโยชน์เกิน 3 ปีแล้ว ที่ดินนั้นก็กลับเป็นที่ว่างเปล่าตามเดิม และ แม้จะโอนให้ใคร ๆต่อไป จะเป็นการโอนทางทะเบียนหรือไม่ก็ดี ผู้รับโอนก็ย่อมไม่ได้สิทธิอะไรในที่ดินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินสาธารณะและการอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์: สิทธิเหนือที่ดินหลังได้รับอนุญาต
นายอำเภอตัดทางสาธารณะใหม่เข้าไปในที่ของโจทก์ นายอำเภอจึงเอาที่ดินถนนเก่าซึ่งราษฎรมิได้ใช้เดินแล้วนั้น ให้แก่โจทก์ด้วยปากเปล่าดังนี้ แม้การยกให้จะเป็นโมฆะเพราะเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินอย่างนี้อยู่ในความดูแลรักษาของนายอำเภอ เมื่อนายอำเภออนุญาตให้โจทก์เข้าใช้ที่นี้ได้ และโจทก์ก็ได้เข้าไปปลูกต้นผลไม้ลงไว้ตามที่ได้รับอนุญาตแล้ว ราษฎรคนอื่นก็ไม่มีสิทธิจะเข้าทำรั้วล้อมที่ดังกล่าวเอาเป็นของตนเสีย เมื่อทำลงโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องให้รื้อถอนขับไล่ออกไปจากที่ดังกล่าวแล้วนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่าและการสละเจตนาครอบครอง
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีหนังสือสำคัญ ซึ่งโจทก์ได้สิทธิครอบครองโดยซื้อมาจากผู้มีชื่อ และโจทก์ได้เข้าครอบครองในที่นั้นแล้ว จำเลยให้การว่าจำเลยได้เข้าไปบุกร้างถางป่าตรงที่พิพาททำมรรคผล กับปลูกเรือนอยู่ และทำการล้อมรั้วเป็นเขตคันทั้ง 4 ด้าน มาจนบัดนี้เป็นเวลาประมาณ 30 ปีแล้วนั้น จะถือว่าคำให้การจำเลยเช่นนี้เป็นคำให้การที่ต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนหาได้ไม่ เพราะมิได้แสดงไว้โดยชัดแจ้งในคำให้การจำเลยตามนัยแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 ฉะนั้นจึงต้องถือว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า
ขายที่ดินมือเปล่าให้แก่เขาไปโดยรับเงินค่าที่ดินครบถ้วนแล้วและมอบที่ดินให้เขาครอบครองแล้วก็ย่อมถือได้ว่าผู้ขายเจตนาสละการครอบครอง และไม่ยึดถือที่ดินต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงสืบพยานร่วมไม่ชัดเจน ศาลต้องวินิจฉัยตามสำนวนที่มีอยู่ การครอบครองที่ดิน
โจทก์จำเลยตกลงสืบพยานร่วมปากเดียว ถ้าพยานเบิกความว่าในการกู้ยืมได้ระบุที่พิพาทเป็นประกันเงินกู้ โจทก์ยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ระบุที่รายพิพาทเป็นประกันเงินกู้แล้ว จำเลยยอมแพ้ พยานเบิกความว่าในการกู้เงินได้ระบุที่สวนของจำเลยประกันเงินกู้ ดังนี้จำเลยจะมีที่ดินแปลงเดียวหรืออย่างไรไม่ทราบชัด เห็นได้ว่าพยานไม่ได้เบิกความว่า ได้ระบุที่พิพาทเป็นประกัน ฉะนั้นจะชี้ขาดให้ฝ่ายใดชนะคดีเพราะคำพยานร่วมไม่ได้ ศาลต้องวินิจฉัยตามท้องสำนวนเท่าที่มีอยู่ว่า คู่กรณีฝ่ายใดควรชนะคดี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท จำเลยให้การว่าโจทก์อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย จำเลยย่อมเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเมื่อพยานร่วมเบิกความไม่สมจำเลย จำเลยก็ต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ซื้อที่ดินแม้สัญญาไม่สมบูรณ์ หากผู้ขายสละการครอบครองและถูกขัดขวางการเข้าใช้
ซื้อขายที่ดินกันโดยทำหนังสือกันเอง ไม่ถูกแบบ ซึ่งไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายนั้น เมื่อผู้ขายสละสิทธิครอบครองในที่ดินนั้นให้ผู้ซื้อแล้ว พอผู้ซื้อเข้าไปถากถางที่ ก็มีผู้อื่นเข้ามาขัดขวาง ดังนี้ ผุ้ซื้อย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้ห้ามผู้นั้นมิให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับที่นั้นได้
of 89