คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จดทะเบียน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587-2589/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเกิน 3 ปี ไม่จดทะเบียน สัญญาเป็นโมฆะ
สัญญาเช่าตึกแถวทำวันเดียวกันฉบับละ 3 ปี นับต่อเนื่องกันแสดงให้เห็นเจตนาให้ใช้ทรัพย์ได้เกิน 3 ปี ขัดต่อมาตรา 538 ที่ให้จดทะเบียนจึงใช้ได้เพียง 3 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2359/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนบุตรบุญธรรมและการถอดถอนผู้จัดการมรดกเมื่อมีทายาทอันดับหนึ่ง
ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1584 (แก้ไขใหม่ มาตรา 1598/25) ประกอบกับพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 มาตรา 22 บัญญัติแต่เพียงว่า การจดทะเบียนบุตรบุญธรรมต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสเท่านั้นไม่ได้บังคับว่าจะต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเอง ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานได้บันทึกไว้ว่าคู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรมได้มีหนังสือให้ความยินยอมถึงคณะกรมการอำเภอ ย่อมเป็นการเพียงพอแล้ว การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมสมบูรณ์ตามกฎหมาย
การที่ศาลจะสั่งถอดถอนผู้จัดการมรดกได้ ไม่จำเป็นว่าผู้จัดการมรดกจะต้องมีความผิด เมื่อศาลตั้งผู้คัดค้านเป็นผุ้จัดการมรดกนั้นยังไม่ปรากฏทายาทอันดับหนึ่ง แต่เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องเป็นทายาทอันดับหนึ่งมีสิทธิรับมรดกแต่ผู้เดียว ผู้คัดค้านมิได้เป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายและมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดก จึงไม่มีสิทธิจัดการมรดกต่อไป ศาลมีอำนาจถอดถอนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2359/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนบุตรบุญธรรมสมบูรณ์ตามกฎหมาย และอำนาจถอดถอนผู้จัดการมรดกเมื่อมีทายาทอันดับหนึ่ง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1584 (แก้ไขใหม่ มาตรา1598/25) ประกอบกับพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ. 2478 มาตรา 22 บัญญัติแต่เพียงว่า การจดทะเบียนบุตรบุญธรรมต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสเท่านั้น ไม่ได้บังคับว่าจะต้อง ลงลายมือชื่อด้วยตนเอง ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานได้บันทึกไว้ว่า คู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรมได้มีหนังสือให้ความยินยอมถึง คณะกรมการอำเภอย่อมเป็นการเพียงพอแล้ว การจดทะเบียนรับ บุตรบุญธรรมสมบูรณ์ตามกฎหมาย
การที่ศาลจะสั่งถอดถอนผู้จัดการมรดกได้ ไม่จำเป็นว่าผู้จัดการมรดกจะต้องมีความผิด เมื่อศาลตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกนั้นยังไม่ปรากฏทายาทอันดับหนึ่ง แต่เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องเป็นทายาทอันดับหนึ่งมีสิทธิรับมรดกแต่ผู้เดียว ผู้คัดค้านมิได้เป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายและมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดก จึงไม่มีสิทธิจัดการมรดกต่อไป ศาลมีอำนาจถอดถอนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2270/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในสินสมรส: ที่ดิน vs. รถยนต์ และผลของการจดทะเบียน
ที่ดินสินสมรสระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินโจทก์ ซึ่งเป็นภริยาร้องขอให้ลงชื่อตนเป็นเจ้าของร่วมกันในโฉนดนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1467 ส่วนรถยนต์นั้นแม้จะมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของในใบทะเบียนรถยนต์ก็ตาม แต่ใบทะเบียนรถยนต์ก็มิใช่เอกสารอันเป็นที่ตั้งแห่งกรรมสิทธิ์ จึงไม่ใช่เอกสารเป็นสำคัญสำหรับทรัพย์ (รถยนต์) ตามความหมายแห่งมาตรา 1467 ดังกล่าว จึงบังคับจำเลยให้ลงชื่อโจทก์เป็นเจ้าของร่วมกันไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1183/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจำนองไม่สมบูรณ์ การขายน้ำมันก่อนจดทะเบียนจำนองทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
คำบรรยายฟ้องของโจทก์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะเอาที่ดินพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างมาจำนองไว้กับโจทก์ เพื่อเป็นประกันในการที่ ส. จะซื้อน้ำมันจากโจทก์ จำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่โจทก์ขายให้ ส. ผู้ซื้อไปนั้น เมื่อการจำนองต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 714 มิฉะนั้นจะเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115 แต่โจทก์ยอมขายและส่งมอบน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่ ส. ผู้ซื้อไปก่อนจดทะเบียนสัญญาจำนอง จำเลยหาต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ไม่โจทก์จะยกเหตุที่จำเลยผิดข้อตกลงดังกล่าว มาฟ้องเรียกค่าเสียหายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดกโดยไม่ชอบและสิทธิของทายาทที่แท้จริง ศาลมีอำนาจเพิกถอนการจดทะเบียน
การที่จำเลยยื่นเรื่องราวขอรับมรดกของเจ้ามรดกในที่ดินพิพาทและจดทะเบียนโอนรับมรดกที่ดินพิพาทมา ตลอดจนการยอมรับว่าบิดาจำเลยเป็นผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่แทนในนามของเจ้ามรดกตลอดมา เท่ากับเป็นการยอมรับความเป็นเจ้าของของเจ้ามรดก มิใช่เป็นการครอบครองในลักษณะเป็นปรปักษ์ต่อเจ้ามรดก จำเลยจึงไม่อาจอ้างการได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
หลังจากเจ้ามรดกตาย มีทายาทอื่นที่มิใช่โจทก์จำเลยครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทต่อมา โฉนดที่ดินพิพาทยังคงมีชื่อเจ้ามรดกถือกรรมสิทธิ์ และจำเลยเพิ่งจะยื่นขอโอนรับมรดก แสดงว่าที่ดินพิพาทยังเป็นของเจ้ามรดกอันจะพึงตกได้แก่บรรดาทายาทซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าของร่วมกันมา ในเบื้องต้นต้องถือว่าได้ครอบครองไว้แทนกัน
การที่จำเลยซึ่งมิใช่ทายาทของเจ้ามรดก เอาที่ดินพิพาทไปจดทะเบียนโอนรับมรดกโดยปราศจากความรู้เห็นยินยอมของทายาทที่แท้จริง แล้วจดทะเบียนโอนยกให้แก่ ข. โจทก์ซึ่งเป็นทายาทของเจ้ามรดกชอบที่จะขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนรับมรดกและการจดทะเบียนการให้นั้นเสียได้ เพราะจำเลยได้สิทธิมาโดยไม่ชอบ ข. ผู้รับโอนที่ดินจากจำเลยย่อมไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาขายฝาก: หลักฐานการจดทะเบียนสำคัญกว่าสัญญา หากระบุเวลาในเอกสารจดทะเบียน แม้สัญญายังไม่ได้ระบุ
หลักฐานการจดทะเบียนเป็นหลักฐานสำคัญเพราะสัญญาขายฝากจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว เมื่อปรากฏตามเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและหน้าโฉนดว่า การขายฝากมีกำหนดเวลา 4 เดือน แม้ตัวสัญญาขายฝากจะมิได้กรอกกำหนดเวลาลงไป ก็ฟังได้ว่าการขายฝากมีกำหนดเวลา โจทก์ขอไถ่เมื่อพ้นกำหนดแล้วจึงไถ่ไม่ได้
เมื่อศาลรับฟังพยานเอกสารที่จำเลยอ้าง คือเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม โฉนดที่ดิน เชื่อว่าคู่สัญญากำหนดเวลาขายฝากไว้มีกำหนดเวลา 4 เดือน จึงมิใช่เป็นการนำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติมข้อความในเอกสารสัญญาขายฝาก และไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝาก: หลักฐานการจดทะเบียนสำคัญกว่าสัญญา หากระบุระยะเวลาไม่ตรงกัน ให้ใช้ตามที่จดทะเบียน
หลักฐานการจดทะเบียนเป็นหลักฐานสำคัญเพราะสัญญาขายฝากจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเมื่อปรากฏตามเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและหน้าโฉนดว่า การขายฝากมีกำหนดเวลา 4 เดือน แม้ตัวสัญญาขายฝากจะมิได้กรอกกำหนดเวลาลงไป ก็ฟังได้ว่าการขายฝากมีกำหนดเวลา โจทก์ขอไถ่เมื่อพ้นกำหนดแล้วจึงไถ่ไม่ได้
เมื่อศาลรับฟังพยานเอกสารที่จำเลยอ้างคือเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโฉนดที่ดิน เชื่อว่าคู่สัญญากำหนดเวลาขายฝากไว้มีกำหนดเวลา 4 เดือน จึงมิใช่เป็นการนำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติมข้อความในเอกสารสัญญาขายฝาก และไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝาก: กำหนดเวลาไถ่คืนพิสูจน์ได้จากหลักฐานอื่น แม้ไม่ได้ระบุในช่องสัญญา
สัญญาขายฝากที่จดทะเบียนมิได้พิมพ์ข้อความไว้ในช่องกำหนดเวลา แต่มีบันทึกของเจ้าหน้าที่ว่าหลงลืม กับมีเอกสารอื่นและในสารบัญจดทะเบียนว่า กำหนดเวลาไถ่คืน 10 เดือน คู่ความสืบพยานอื่นประกอบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดิน: การโอนสิทธิโดยไม่ชอบ ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน แม้จดทะเบียน
ที่พิพาทเป็นสินเดิมของโจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 1 ยังครอบครองอยู่ ส. ซึ่งเป็นสามีได้แจ้งการครอบครองและรับหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยปกปิดมิให้โจทก์ที่ 1 ทราบ การกระทำของ ส.ย่อมไม่ก่อให้เกิดสิทธิครอบครองในที่พิพาทดีกว่าโจทก์ที่ 1 และไม่มีอำนาจนำที่พิพาทไปขายให้แก่จำเลยที่ 1 โดยพลการ เมื่อ ส.ไม่มีอำนาจขาย จำเลยที่ 1 ผู้ซื้อย่อมไม่ได้สิทธิอันเกิดจากสัญญาซื้อขายนั้น ฉะนั้น แม้จำเลยที่ 2 จะรับซื้อจากจำเลยที่ 1 โดยสุจริตและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยที่ 2 ก็ย่อมไม่ได้รับสิทธิในที่พิพาท เพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน
of 138