พบผลลัพธ์ทั้งหมด 938 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259-260/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฉ้อโกงจากการหลอกลวงและยึดครองทรัพย์สินโดยเจ้าทุกข์สละการครอบครอง มิใช่ลักทรัพย์
จำเลยใช้อุบายหลอกลวงให้เจ้าทุกข์มอบทรัพย์ให้ แล้วจำเลยพาทรัพย์หนีไปในขณะที่เจ้าทุกข์ไม่ได้ควบคุมยึดถือ และไม่อาจติดตามได้ดังนี้ ถือได้ว่าเจ้าทุกข์ได้สละการครอบครองแล้ว จำเลยต้องมีผิดฐานฉ้อโกงไม่ใช่ลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามคำพะยานโจทก์ แล้วชี้ขาดว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ใช่ข้อที่โจทก์ประสงค์จะลงโทษดังนี้ หากศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามฟ้อง ก็มีอำนาจพิพากษาได้ ไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นฟังพะยานจำเลยด้วย
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามคำพะยานโจทก์ แล้วชี้ขาดว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ใช่ข้อที่โจทก์ประสงค์จะลงโทษดังนี้ หากศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามฟ้อง ก็มีอำนาจพิพากษาได้ ไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นฟังพะยานจำเลยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259-260/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกง vs ลักทรัพย์: การสละการครอบครองทรัพย์สิน
จำเลยใช้อุบายหลอกลวงให้เจ้าทุกข์มอบทรัพย์ให้แล้วจำเลยพาทรัพย์หนีไปในขณะที่เจ้าทุกข์ไม่ได้ควบคุมยึดถือ และไม่อาจติดตามได้ดังนี้ ถือได้ว่าเจ้าทุกข์ได้สละการครอบครองแล้ว จำเลยต้องมีผิดฐานฉ้อโกงไม่ใช่ลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามคำพยานโจทก์ แล้วชี้ขาดว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ใช่ข้อที่โจทก์ประสงค์จะลงโทษดังนี้ หากศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามฟ้องก็มีอำนาจพิพากษาได้ ไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นฟังพยานจำเลยด้วย
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามคำพยานโจทก์ แล้วชี้ขาดว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ใช่ข้อที่โจทก์ประสงค์จะลงโทษดังนี้ หากศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามฟ้องก็มีอำนาจพิพากษาได้ ไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นฟังพยานจำเลยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 923/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉ้อโกงจากการหลอกลวงเรื่องการโอนชื่อร้านขายส่งและเงินรางวัล ศาลตัดสินว่าฟ้องไม่มีมูล
กรนีที่ถือว่าฟ้องของโจทไม่มีมูลเปนความอาญาถานฉ้าโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 923/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเซ้งร้านและสิทธิรับเงินรางวัล: จำเลยผิดสัญญา ฟ้องฉ้อโกงไม่สำเร็จ
จำเลยเซ้งร้านให้โจทก์โดยมีข้อตกลงว่าจะจัดโอนชื่อโจทก์เป็นผู้ขายส่งสินค้าของบริษัทสิงห์บุรี และให้โจทก์มีสิทธิได้รับเงินรางวัลการจำหน่ายบุหรี่ซึ่งทางสำนักงานกลางจะได้จ่ายให้แก่ร้านขายส่งนี้ต่อมาเมื่อโจทก์รับเซ้งร้านของจำเลยแล้ว จำเลยก็ยังไปยื่นคำร้องขอรับเงินรางวัลดังกล่าวอีกกรณีนี้เป็นกรณีที่จำเลยยังมิได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนั้นฟ้องของโจทก์ไม่มีมูลเป็นความผิดอาญาฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงตนเท็จเป็นทหารเพื่อซื้อตั๋วรถไฟราคาพิเศษเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง
ราสดรเอาบัตร์ลาของทหานซึ่งมีสิทธิซื้อตั๋วรถไนครึ่งราคาไปขอซื้อตั๋วครึ่งราคา เจ้าพนักงานหลงเชื่อขายไห้ดังนี้ เปนผิดถานฉ้อโกงตามมาตรา 304.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้บัตรลาทหารโดยมิชอบเพื่อซื้อตั๋วรถไฟราคาครึ่งราคาเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง
ราษฎรเอาบัตรลาของทหารซึ่งมีสิทธิซื้อตั๋วรถไฟครึ่งราคาไปขอซื้อตั๋วครึ่งราคา เจ้าพนักงานหลงเชื่อขายให้ดังนี้เป็นผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 304
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเลิกความผิดฐาน 'เข้าซงลงเจ้า' ตามกฎหมายลักสนะอาญา และความผิดฐานฉ้อโกง
กดหมายเรื่องเข้าซงลงเจ้าถูกยกเลิกแล้วโดยกดหมายลักสนะอาญา
โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยตามประกาสเข้าซงลงเจ้า แม้จำเลยรับสารภาพ สาลดีกาก็พิพากสายกฟ้องได้.
โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยตามประกาสเข้าซงลงเจ้า แม้จำเลยรับสารภาพ สาลดีกาก็พิพากสายกฟ้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบทองคำในการทำพิธีทางไสยศาสตร์ ไม่ถือเป็นการฉ้อโกงหากยังอยู่ในครอบครองของผู้ให้
สมบกันไปหลอกลวงขอยืมทองคำจากเจ้าทรัพย์มาทำพิธีเสกเป่ายาต่อหน้าเจ้าทรัพย์แล้วเอาทองคำนั้นไปเสีย ไม่เปนผิดถานฉ้อโกง เพราะไม่ถือว่ามีการส่งมอบทรัพย์ไห้ไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงขอยืมทองคำแล้วไม่ส่งมอบทรัพย์ ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง
สมคบกันไปหลอกลวงขอยืมทองคำจากเจ้าทรัพย์มาทำพิธีเสกเป่ายาต่อหน้าเจ้าทรัพย์แล้วเอาทองคำนั้นไปเสีย ไม่เป็นผิดฐานฉ้อโกง เพราะไม่ถือว่ามีการส่งมอบทรัพย์ให้ไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041-1042/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงซ้อน: หลอกลวงเอาทรัพย์สินจากผู้อื่นแล้วนำไปหลอกขายต่อ เป็นความผิดสองกระทง
หลอกลวงเอาหินจากคนหนึ่งแล้วเอามาหลอกขายให้แก่อีกคนหนึ่งว่าเป็นหินของตัวเป็นผิดสองกะทงตามมาตรา 304 กะทงหนึ่งตามมาตรา 306(4 ) อีก กะทงหนึ่ง