คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ดุลพินิจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 923 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการผูกพันข้อเท็จจริงจากคดีอาญาต่อบุคคลภายนอก และดุลพินิจการลดค่าเสียหาย/ค่าทนาย
มาตรา 46 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ศาลรับฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญามาผูกพันถึงบุคคลภายนอกคดีด้วย
ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ควรได้รับชดใช้ค่าเสียหายเพียง 2 ปี แทนที่จะเป็น 5 ปีดังคำพิพากษาศาลชั้นต้น แล้วศาลอุทธรณ์จึงใช้ดุลพินิจให้ค่าทนายเป็นพับทั้งๆ ที่โจทก์แก้อุทธรณ์ เช่นนี้ เป็นการใช้ดุลพินิจโดยชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานการพิมพ์ในการไม่อนุญาตเปิดดำเนินการหนังสือพิมพ์ ไม่ถือเป็นการขัดขวางตามกฎหมาย
โจทก์เป็นเจ้าของ ผู้จัดการ บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ จำเลยเป็นเจ้าพนักงานการพิมพ์ ได้สั่งถอนใบอนุญาตมิให้โจทก์ดำเนินการเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์มานานเกือบครึ่งปี ปลัดกระทรวงมหาดไทยมีหนังสือขอให้จำเลยพิจารณาเรื่องที่โจทก์ขอให้สั่งให้เปิดดำเนินการต่อไป จำเลยได้ใช้ดุลพินิจพิจารณาโดยอาศัยเหตุผลต่าง ๆ แล้ว ยังไม่อนุญาตให้โจทก์ดำเนินการ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ป้องกันหรือขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งแต่อย่างใด เพราะจำเลยได้ปฏิบัติการไปตามอำนาจหน้าที่ของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้อำนาจเจ้าพนักงานการพิมพ์สั่งระงับหนังสือพิมพ์ การพิจารณาคำร้อง และการใช้ดุลพินิจตามกฎหมาย
โจทก์เป็นเจ้าของ ผู้จัดการ บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์ จำเลยเป็นเจ้าพนักงานการพิมพ์ ได้สั่งถอนใบอนุญาตมิให้โจทก์ดำเนินการเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์มานานเกือบครึ่งปี ปลัดกระทรวงมหาดไทยมีหนังสือขอให้จำเลยพิจารณาเรื่องที่โจทก์ขอให้สั่งให้เปิดดำเนินการต่อไป จำเลยได้ใช้ดุลพินิจพิจารณาโดยอาศัยเหตุผลต่างๆ แล้วยังไม่อนุญาตให้โจทก์ดำเนินการดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ป้องกันหรือขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งแต่อย่างใด เพราะจำเลยได้ปฏิบัติการไปตามอำนาจหน้าที่ของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนคดีระหว่างศาล: ดุลพินิจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.23 และเหตุผลแห่งการโอน
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 23 วรรค 2 นั้นการโอนคดีไปชำระยังศาลอื่น กฎหมายให้ศาลใช้ดุลพินิจสั่งตามสมควรแก่พฤติการณ์แห่งคดี และเหตุผลเป็นเรื่อง ๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจโอนคดีระหว่างศาล: ดุลพินิจตามมาตรา 23 ว.พ.พ. และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 23 วรรคสองนั้น
การโอนคดีไปชำระยังศาลอื่น กฎหมายให้ศาลใช้ดุลพินิจสั่งตามสมควรแก่พฤติการณ์แห่งคดี และเหตุผลเป็นเรื่องๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ดุลพินิจรอการลงโทษ: ฎีกาต้องห้ามเมื่อเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษไว้ ดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกโดยไม่ต้องรอไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 เพราะการใช้ดุลพินิจในการรอการลงโทษเป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้คำรุนแรงในคำแก้อุทธรณ์ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท ศาลใช้ดุลพินิจได้
คู่ความและทนายความยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อศาลเป็นข้อความที่เกี่ยวโยงกับพฤติการณ์แห่งคดี เพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจลงโทษอีกฝ่ายหนึ่ง แม้จะมีลักษณะฟุ่มเฟือยและใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อโจทก์ไปบ้างก็ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจอธิบดีกรมที่ดินตามมาตรา 61 เป็นดุลพินิจ ไม่เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ผู้เสียหายต้องฟ้องร้องเอง
ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจแก่อธิบดีกรมที่ดินโดยเฉพาะ เมื่อความปรากฎว่ามีการออกโฉนดหรือจดทะเบียนสิทธิผิดพลาดคลาดเคลื่อน เพื่อแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายและความจริงโดยไม่ต้องให้ผู้เสียหายเสียเวลาไปฟ้องร้องต่อศาล การใช้อำนาจของอธิบดีตามมาตรานี้ย่อมอยู่ในดุลพินิจของอธิบดีว่าสมควรจะใช้หรือไม่ ไม่ใช่เป็นการกำหนดหน้าที่ให้อธิบดีจำต้องกระทำ เมื่ออธิบดีไม่ใช้อำนาจดังกล่าว จึงไม่เป็นผิดต่อกฎหมาย ไม่เป็นการละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรมที่ดินตามมาตรา 61 ประมวลกฎหมายที่ดิน: ดุลพินิจและผลกระทบต่อผู้ครอบครอง
ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ให้อำนาจอธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจเรียกโฉนดที่ดินหรือเอกสารที่ได้จดทะเบียนสิทธิไว้โดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายมาแก้ไขให้ถูกต้องหรือเพิกถอนเสียได้แต่อธิบดีกรมที่ดินจะใช้อำนาจตามมาตรานี้หรือไม่ ย่อมอยู่ในดุลพินิจของอธิบดีแม้อธิบดีจะไม่ใช้อำนาจนี้ก็ไม่เป็นการละเมิดต่อผู้ครอบครองที่ดินที่อ้างว่าโฉนดออกทับที่ของตนโดยไม่ถูกต้องเพราะกฎหมายมิได้กำหนดหน้าที่ให้อธิบดีจำต้องกระทำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชั่งน้ำหนักพยาน: เมื่อศาลใช้ดุลพินิจตัดสินคดีแพ่ง และจำกัดการสันนิษฐานว่าพยานฝ่ายแพ้เป็นพยานเท็จ
คดีก่อนศาลยกฟ้องโจทก์โดยว่า คำพยานโจทก์ขัดกัน เป็นถ้อยคำที่น่าสงสัย ไม่มีน้ำหนัก ดังนี้ เป็นเรื่องของการชั่งน้ำหนักคำพยานว่า พยานฝ่ายใดดีกว่ากันเท่านั้น หากจำเลยในคดีนั้นไม่มีพยานอื่นใดมาสืบแสดงให้ชัดแจ้งว่าพยานโจทก์เบิกความเท็จแล้วก็จะสันนิษฐานว่า พยานโจทก์เบิกความเท็จหาได้ไม่
of 93