พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,273 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาฆ่าโดยพยาบาทมาดหมาย: ความแตกต่างระหว่างกฎหมายลักษณะอาญาและประมวลกฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 ซึ่งต่างกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ข้อ 4 ที่ว่าฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 จึงเป็นกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลย เพราะจะต้องให้ได้ความว่า เป็นการฆ่าคนโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายจึงจะมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา250 ที่โจทก์อ้าง (หมายเหตุ ตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 มีโทษสถานเดียวเท่ากัน คือประหารชีวิต)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จต้องพิสูจน์การสาบานตนของพยาน การอ้างแบบพิมพ์ไม่เพียงพอต่อการลงโทษ
ในคดีฟ้องหาว่าเบิกความเท็จนั้นถึงแม้โจทก์จะอ้างคำเบิกความของจำเลยในคดีที่เป็นเหตุให้จำเลยถูกฟ้องฐานเบิกความเท็จ และปรากฏมีข้อความในคำเบิกความนั้นว่า'ข้าพเจ้าพยานได้สาบานตนแล้ว' ก็ตาม ข้อความดังกล่าวก็เป็นแต่เพียงแบบพิมพ์ซึ่งได้ตีพิมพ์ไว้ก่อนและเพราะในการเบิกความเป็นพยานในศาลก็หามีกฎหมายบังคับให้พยานทุกคนต้องสาบานหรือปฏิญาณตัวก่อนเบิกความไม่ฉะนั้นเมื่อจำเลยปฏิเสธและโจทก์ไม่ได้นำสืบพยานบุคคลถึงความข้อนี้เลย ก็ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยรับการชน ความรับผิดในการพิสูจน์เปลี่ยนเป็นของจำเลยตามกฎหมาย
แม้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84 จะบังคับให้ฝ่ายที่กล่าวอ้างข้อเท็จจริงใดๆ เป็นฝ่ายนำสืบก็ดีแต่เมื่อจำเลยรับแล้วว่า รถยนต์ที่จำเลยควบคุมมาชนรถจักรยานสามล้อโจทก์เช่นนี้หน้าที่นำสืบปลดเปลื้องความรับผิดย่อมตกแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 437
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472-475/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือที่ใช้ในการกระทำผิดศุลกากร: ผู้ร้องต้องพิสูจน์ความเป็นเจ้าของและไม่มีส่วนรู้เห็น
เรือน้ำหนักไม่เกิน 250 ตัน ซึ่งใช้ในการกระทำผิดพระราชบัญญัติศุลกากร 2469 มาตรา27 ต้องริบตาม มาตรา32
ผู้ร้องอ้างว่าเรือเป็นของตนไม่ควรริบตาม พระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 32 เป็นหน้าที่ผู้ร้องจะต้องพิสูจน์ให้ได้ความเป็นหลักฐานมั่นคงดังอ้าง
ผู้ร้องอ้างว่าเรือเป็นของตนไม่ควรริบตาม พระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 32 เป็นหน้าที่ผู้ร้องจะต้องพิสูจน์ให้ได้ความเป็นหลักฐานมั่นคงดังอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396-397/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองฝิ่นโดยไม่รู้เห็น เจ้าพนักงานต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา
คดีเรื่องมีฝิ่นผิด พระราชบัญญัติฝิ่น เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยฝิ่นของกลางในครอบครองของจำเลยสมฟ้องแล้วจำเลยเถียงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องรู้เห็นว่ามีฝิ่นอยู่ในของกลาง จำเลยต้องพิสูจน์ให้เห็นความบริสุทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบของโจทก์ในคดีหุ้นส่วน: เมื่อโจทก์กล่าวอ้างและจำเลยปฏิเสธ โจทก์ต้องพิสูจน์ก่อน
โจทก์ฟ้องตั้งรูปคดีมาเป็นเรื่องหุ้นส่วน ซึ่งจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับโจทก์ และอ้างว่าการที่จำเลยเข้าอยู่ในตึกแถวรายพิพาทก็โดยเช่าจากโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนของบุคคลภายนอก เช่นนี้เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบก่อน เพราะโจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างข้อเท็จจริงสนับสนุนคำฟ้องของตน เมื่อโจทก์นำสืบไม่สมว่าเป็นหุ้นส่วนกันก็เป็นการเพียงพอที่จะยกฟ้องเสียได้ ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยไปถึงพยานหลักฐานของจำเลย เพราะข้อที่จำเลยจะได้เช่าตึกรายพิพาทจากโจทก์หรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็นในคดีนี้ ข้อต่อสู้ของจำเลยดังกล่าวเป็นแต่เพียงเหตุแห่งการปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์เท่านั้น ประเด็นในคดีนี้มีเพียงว่า การที่จำเลยเข้ามาทำการค้าในสถานที่รายพิพาท โดยจำเลยเข้ามาในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์หรือมิใช่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ฐานะการอยู่อาศัยเป็นสำคัญ หากฟังว่าไม่ใช่การอาศัยตามฟ้อง โจทก์ย่อมแพ้คดี
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากโรงเรือนโดยอ้างว่าจำเลยอาศัย เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเข้าอยู่โดยไม่ใช่อาศัย แต่อยู่เพราะข้อสัญญาที่โจทก์จะโอนสิทธิการเช่าให้จำเลย แล้วกลับไม่โอน เช่นนี้ ศาลชอบที่จะยกฟ้องเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ไม่สมบูรณ์และการพิสูจน์เจตนาที่แท้จริงในการเล่นพนัน หากไม่มีการพนันเอาทรัพย์สินกัน โจทก์ต้องพิสูจน์
ในคดีเรื่องลักเล่นการพนัน จำเลยขอรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง แต่แล้วได้กล่าวบรรยายในคำให้การต่อไปเป็นความว่า การเล่นรายนี้ก็โดยพนันว่าจะซื้อโคล่ามาเลี้ยงกันรอบวงเท่านั้น และเล่นกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาเงินรวมซื้อโคล่า เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องยังไม่ได้ ซึ่งถ้าหากเป็นความจริงตามที่จำเลยบรรยายไว้ในคำให้การ การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นผิดตามฟ้อง กล่าวคือ เพียงแต่เล่นพนันเพื่อเอาเงินไปซื้อโคล่ามาเลี้ยงระหว่างกันเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการพนันเอาทรัพย์สินกัน เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
แม้จำเลยอื่นซึ่งให้การทำนองนี้และมิได้อุทธรณ์ขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นพิจารณาพิพากษาว่าไม่มีความผิดด้วยได้.
แม้จำเลยอื่นซึ่งให้การทำนองนี้และมิได้อุทธรณ์ขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นพิจารณาพิพากษาว่าไม่มีความผิดด้วยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน: พยานหลักฐานไม่เพียงพอพิสูจน์การกระทำที่เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
คดีได้ความว่าจำเลยที่ 1,2 ฝ่ายหนึ่งกับจำเลยที่ 3 กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันแต่เหตุที่ผู้ตายเนื่องจากการกระทำของใครไม่ปรากฏ จะตายเพราะบาดแผลใดใครเป็นผู้กระทำก็ไม่ปรากฏและได้ความว่าพยานโจทก์เห็นคน 5-6 คนกลุ้มรุมตีกันใครทำใครอย่างไรก็ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ตายเพราะการกระทำของจำเลยที่1,2 ยังไม่ได้ จำเลยทั้ง 2 คงผิดตาม มาตรา 253เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบเพื่อพิสูจน์ว่าหนี้ส่วนหนึ่งไม่สมบูรณ์บังคับได้ มิใช่การแก้ไขสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 15,000 บาท และว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามวันกำหนดบัดนี้ถึงวันกำหนดจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริง แต่กู้และรับเพียง 10000 บาท ที่เขียนในสัญญาเป็น 15000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราใน ก.ม.บวกไว้อีก 5,000 บาท สัญญากู้จึงเป็นโมฆะ ฟ้องร้องบังคับจำเลยไม่ด้
ตามฟ้องและคำให้การของจำเลยดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราใน ก.ม.บวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วยเพราะมิใช่เป็นการสืบแก้สัญญา แต่เป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ศาลจึงไม่ควรด่วนงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษา แต่จะต้องให้สืบพยานกันต่อไปตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94 วรรค 2.
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริง แต่กู้และรับเพียง 10000 บาท ที่เขียนในสัญญาเป็น 15000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราใน ก.ม.บวกไว้อีก 5,000 บาท สัญญากู้จึงเป็นโมฆะ ฟ้องร้องบังคับจำเลยไม่ด้
ตามฟ้องและคำให้การของจำเลยดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราใน ก.ม.บวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วยเพราะมิใช่เป็นการสืบแก้สัญญา แต่เป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ศาลจึงไม่ควรด่วนงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษา แต่จะต้องให้สืบพยานกันต่อไปตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94 วรรค 2.