คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าพนักงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,471 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 920/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยการขู่เข็ญถึงชีวิต
ฟ้องหาว่าดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา136 ข้อเท็จจริงได้ความว่า ขณะที่เกิดเหตุพนักงานสอบสวนกำลังกินอาหารอยู่กับภรรยาที่บ้านพักไม่ใช่เวลาปฏิบัติราชการตามหน้าที่จำเลยพูดขอประกันผู้ต้องหาเป็นการส่วนตัว จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เพราะได้กระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136
เมื่อพนักงานสอบสวนไม่ยอมสั่งอนุญาตให้จำเลยประกันตัวผู้ต้องหาเพราะผิดระเบียบ จำเลยพูดขู่เข็ญว่าถ้าไม่สั่งให้ประกันจำเลยจะจัดการให้พนักงานสอบสวนถูกย้ายไปที่อื่น เช่นที่เคยกระทำได้ผลมาแล้วแก่ผู้บังคับกองคนหนึ่ง แต่โดยที่เรื่องย้ายไม่แน่ถ้าไม่ให้ประกันจะต้องเอาพนักงานสอบสวนลงหลุมฝังศพเสีย เช่นนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการข่มขืนใจ ขู่เข็ญ เจ้าพนักงานให้ถึงแก่ชีวิตด้วยการใช้กำลังประทุษร้ายตามความหมายของถ้อยคำเพื่อให้เจ้าพนักงานปฏิบัติการสั่งประกันเสียเอง อันมิชอบด้วยหน้าที่การกระทำของจำเลยเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 666/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรมต่างกัน: แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเท็จแล้วปล้นทรัพย์ ไม่ถือว่าสิทธินำคดีมาฟ้องระงับ
จำเลยทั้งสองกับพวกเข้าล้อมผู้เสียหาย แล้วจำเลยที่ 1 บอกว่า อั๊วเป็นตำรวจ พร้อมกับเอาบัตรประจำตัวแลบกระเป๋มเสื้อ ขอ คน ผู้เสียหายเชื่อจึงยอมให้ค้น จำเลยกับพวกค้นแล้วไม่ได้ของผิดกฎหมายจึงเอามีดออกขู่เอานาฬิกาข้อมือของผู้เสียหายไป ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองฐานปล้นทรัพย์ไปแล้ว โจทก์จึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ดังนี้ การแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจโดยมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปครบองค์ความผิดเป็นการเสร็จเด็ดขาดอยู่ในตัวไปตอนหนึ่งแล้ว เมื่อไม่ได้ของผิดกฎหมาย จำเลยที่ 1 กับพวกจึงเอามีดออกขู่ทำการปล้นทรัพย์ เป็นการเริ่มกรรมใหม่อีกกรรมหนึ่ง ถือว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 สิทธินำคดีมาฟ้องยังไม่ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่โดยมีเจตนาทำให้เสียชื่อเสียง ไม่ถือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความสุจริต
จำเลยชี้หน้าและว่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ว่า "ปลัดนิกรนี้จะเป็นบ้าหรืออย่างไรมาขัดขวางกลั่นแกล้งจำเลย ทำงานไปโดยเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ให้ความเป็นธรรม พยายามกลั่นแกล้งจำเลยคนเดียว พยายามกลั่นแกล้งจำเลยมาหลายครั้งแล้ว" ถ้อยคำและกิริยาเช่นนี้เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 การกล่าวเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการกล่าวในลักษณะต่อว่าด้วยความสุจริตที่จะยกขึ้นอ้างให้พ้นผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ไม่ถือเป็นการกล่าวด้วยความสุจริต
จำเลยชี้หน้าและว่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ว่า'ปลัดนิกรนี้จะเป็นบ้าหรืออย่างไรมาขัดขวางกลั่นแกล้งจำเลยทำงานไปโดยเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ให้ความเป็นธรรมพยายามกลั่นแกล้งจำเลยคนเดียวพยายามกลั่นแกล้งจำเลยมาหลายครั้งแล้ว' ถ้อยคำและกิริยาเช่นนี้เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 การกล่าวเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการกล่าวในลักษณะต่อว่าด้วยความสุจริตที่จะยกขึ้นอ้างให้พ้นผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 560/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
บิดาโจทก์ตาย บิดาจำเลยมิใช่บุตรบิดาโจทก์ และไม่มีสิทธิรับมรดกบิดาโจทก์ แต่ได้ไปไถ่นาพิพาท(มีโฉนดซึ่งบิดาโจทก์จำนองไว้) เอามาเป็นของตนและได้ไปแจ้งความเท็จว่าเป็นบุตรบิดาโจทก์ มีสิทธิรับมรดก เจ้าพนักงานหลงเชื่อโอนใส่ชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดและบิดาจำเลยได้ครอบครองอย่างถือตนเป็นเจ้าของโดยฝ่ายโจทก์รู้เห็นและมิได้โต้แย้งหรือขัดขวางตลอดมา เป็นเวลากว่า 30 ปี ดังนี้ถือได้ว่า บิดาจำเลยครอบครองนาพิพาทโดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และได้กรรมสิทธิ์ตามมาตรา 1382
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานอัยการรับแก้ต่างให้เจ้าพนักงานที่ถูกฟ้อง พิจารณาตามหน้าที่ ไม่ใช่ข้อหาของโจทก์
พ.ร.บ.พนักงานอัยการ 2498 มาตรา 11 ให้อำนาจพนักงานอัยการที่จะพิจารณาว่า เจ้าพนักงานที่ถูกฟ้องนั้นได้กระทำไปตามหน้าที่หรือไม่ และสมควรจะรับแก้ต่างให้หรือไม่ ไม่ใช่พิจารณาตามข้อหาของโจทก์ ดังนี้เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ จึงอยู่ในอำนาจที่จะรับแก้ต่างแทนจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานโดยไม่มีอำนาจกระทำการสืบสวน ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 145
การกระทำที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145 ต้องได้ความว่า นอกจากได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้ว ต้องกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้นด้วย
จำเลยมิได้เป็นตำรวจสันติบาล ได้แสดงตัวเป็นตำรวจสันติบาล ได้ถามถึงเรื่องคนร้าย แล้วจดชื่อลงในสมุดพก โดยจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างจริงจัง ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานโดยไม่มีอำนาจกระทำการสืบสวน ไม่ผิด ม.145 อ.อาญา หากไม่มีเจตนาสืบสวนจริงจัง
การกระทำที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145ต้องได้ความว่า นอกจากได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้ว ต้องกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้นด้วย
จำเลยมิได้เป็นตำรวจสันติบาล ได้แสดงตัวเป็นตำรวจสันติบาลได้ถามถึงเรื่องคนร้าย แล้วจดชื่อลงในสมุดพก โดยจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างจริงจังดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การควบคุมตัวในฐานะอันธพาลและการกระทำโดยมิชอบของเจ้าพนักงานสอบสวน
การที่โจทก์ถูกจำเลยควบคุมในข้อหาเป็นบุคคลอันธพาลตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 นั้น มิใช่เป็นโทษหรือเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 18 และ 39 แม้จำเลยจะกระทำเพื่อแกล้งโจทก์ก็ไม่เป็นผิดตามมาตรา 200

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การควบคุมตัวบุคคลในข้อหาเป็นอันธพาลและการกระทำโดยมิชอบของเจ้าพนักงาน
การที่โจทก์ถูกจำเลยควบคุมในข้อหาเป็นบุคคลอันธพาลตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 21 นั้น มิใช่เป็นโทษหรือเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 และ39 แม้จำเลยจะกระทำเพื่อแกล้งโจทก์ก็ไม่เป็นผิดตาม มาตรา 200
of 148