พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,032 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายเรือนพิพาทที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์ลวงจำเลย ทำให้จำเลยเสียสิทธิในการโอนกรรมสิทธิ์
โจทก์ขายเรือนให้จำเลย ชำระราคาเสร็จ และส่งมอบเรือนกันแล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนเพราะโจทก์ลวงจำเลยทั้งที่จำเลยใคร่ที่จะให้โอน โจทก์เรียกเรือนคืนไม่ได้จำเลยบังคับให้จดทะเบียนโอนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2137/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสลากกินแบ่งเป็นหุ้น มิใช่การพนัน หากไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์เกินกว่าค่าเป็นนายหน้า
การที่จำเลยที่ 1 ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมา 20 ฉบับ ราคา 210 บาท แล้วนำมาทำหุ้น 100 หุ้น โดยพิมพ์ใบรวมหุ้นให้ผู้ซื้อถือไว้ ถ้าถูกสลากก็แบ่งกันตามส่วน แล้วขายให้จำเลยที่ 2 ไปราคา 225 บาท จำเลยที่ 2 เอาไปขายฉบับละ 2.50 บาท ขายหมดจะได้กำไร 25 บาท การที่จำเลยทำเช่นนี้เป็นการดำเนินการค้าอย่างธรรมดา หาใช่เป็นผู้เสี่ยงโชคแห่งการได้หรือเสียในการออกสลากไม่ จึงไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ. การพนัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2137/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อหารผลประโยชน์ ไม่ถือเป็นการพนัน หากไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์จากการเสี่ยงโชค
การที่จำเลยที่ 1 ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมา 20 ฉบับราคา 210 บาท แล้วนำมาทำหุ้น 100 หุ้นโดยพิมพ์ใบรวมหุ้นให้ผู้ซื้อถือไว้ ถ้าถูกสลากก็แบ่งกันตามส่วนแล้วขายให้จำเลยที่ 2 ไปราคา 225 บาท จำเลยที่ 2 เอาไปขายฉบับละ 2.50 บาทขายหมดจะได้กำไร 25 บาทการที่จำเลยทำเช่นนี้เป็นการดำเนินการค้าอย่างธรรมดา หาใช่เป็นผู้เสี่ยงโชคแห่งการได้หรือเสียในการออกสลากไม่จึงไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติการพนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตที่ดินพิพาท การซื้อขาย และสิทธิครอบครอง การรุกล้ำพื้นที่
เพียงแต่ชายคาเรือนยื่นเกินจากแนวเขตที่ดินของตนเข้าไปในที่ดินของผู้อื่น หาทำให้ที่ดินใต้ชายคาเป็นสิทธิแก่เจ้าของเรือนในทางครอบครองไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิโดยการครอบครองปรปักษ์หลังการซื้อขายโดยมิได้จดทะเบียน และประเด็นการยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเดิมเจ้ามรดกได้จำนองไว้แล้วได้โอนขายให้โจทก์ได้หักกลบลบหนี้จำนองแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนปลดหนี้จำนองและทำหนังสือสัญญาซื้อขายต่อหอทะเบียนที่ดิน แต่โจทก์ได้ยึดถือครอบครองมาโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์โดยทางครอบครอง
จำเลย(ทายาทเจ้ามรดก)ต่อสู้เพียงว่าเจ้ามรดกไม่ได้ขายและมิได้ทำใบมอบฉันทะให้โจทก์ไปโอนกรรมสิทธิดังฟ้อง เป็นแต่มอบที่พิพาทให้โจทก์ทำต่างดอกเบี้ย เจ้ามรดกและจำเลยเคยไปขอไถ่จำนองแต่โจทก์ผัดผ่อนเรื่อยมา หากโจทก์มีใบมอบฉันทะ ก็เป็นใบมอบฉันทะปลอม
ดังนี้ในชั้นอุทธรณ์ฎีกาจำเลยยกปัญหาข้อ ก.ม.ว่าสัญญาจำนองยังไม่ระงับไปเพราะใบมอบฉันทะไม่มีวันเดือนปีเป็นใบมอบฉันทะที่ไม่ชอบด้วย ก.ม.ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้นทั้งกรณีเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลสูงจึงไม่รับพิจารณาให้
จำเลย(ทายาทเจ้ามรดก)ต่อสู้เพียงว่าเจ้ามรดกไม่ได้ขายและมิได้ทำใบมอบฉันทะให้โจทก์ไปโอนกรรมสิทธิดังฟ้อง เป็นแต่มอบที่พิพาทให้โจทก์ทำต่างดอกเบี้ย เจ้ามรดกและจำเลยเคยไปขอไถ่จำนองแต่โจทก์ผัดผ่อนเรื่อยมา หากโจทก์มีใบมอบฉันทะ ก็เป็นใบมอบฉันทะปลอม
ดังนี้ในชั้นอุทธรณ์ฎีกาจำเลยยกปัญหาข้อ ก.ม.ว่าสัญญาจำนองยังไม่ระงับไปเพราะใบมอบฉันทะไม่มีวันเดือนปีเป็นใบมอบฉันทะที่ไม่ชอบด้วย ก.ม.ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้นทั้งกรณีเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลสูงจึงไม่รับพิจารณาให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์และการซื้อขายโดยไม่สุจริต
ในโฉนดมีชื่อของนางหอมพี่น้องของจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิแต่ข้อเท็จจริงได้ความว่าที่พิพาทบางส่วนในโฉนดนี้จำเลยครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยครอบครองมาโดยอาศัยสิทธิของนางหอมอย่างใด ก็ต้องฟังว่าจำเลยครองมาโดยเจตนาเป็นเจ้าของ โดยถือว่าบิดามารดายกให้ตามข้อต่อสู้ของจำเลยๆ จึงได้กรรมสิทธิ
คดีนี้แม้โจทก์จะได้ซื้อกรรมสิทธิที่ดินมาจากนางหอม ได้จดทะเบียนสิทธิและเสียค่าตอบแทน แต่เมื่อได้ความตามคำของโจทก์เองว่าโจทก์ได้เห็นจำเลยทำนาพิพาทตั้งแต่ก่อนโจทก์ซื้อ ประกอบกับพฤติการณ์ที่โจทก์ขอซื้อที่พิพาทจากจำเลย ดังได้กล่าวมาดังนี้แล้ว ต้องฟังว่าโจทก์ทราบอยู่ดีก่อนแล้วว่าจำเลยครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาทอยู่ การได้มาซึ่งที่พิพาทของโจทก์จึงเป็นไปโดยไม่สุจริตจะใช้ยันแก่จำเลยหาได้ไม่
คดีนี้แม้โจทก์จะได้ซื้อกรรมสิทธิที่ดินมาจากนางหอม ได้จดทะเบียนสิทธิและเสียค่าตอบแทน แต่เมื่อได้ความตามคำของโจทก์เองว่าโจทก์ได้เห็นจำเลยทำนาพิพาทตั้งแต่ก่อนโจทก์ซื้อ ประกอบกับพฤติการณ์ที่โจทก์ขอซื้อที่พิพาทจากจำเลย ดังได้กล่าวมาดังนี้แล้ว ต้องฟังว่าโจทก์ทราบอยู่ดีก่อนแล้วว่าจำเลยครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาทอยู่ การได้มาซึ่งที่พิพาทของโจทก์จึงเป็นไปโดยไม่สุจริตจะใช้ยันแก่จำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์เรือนที่รื้อถอนได้หลังซื้อขาย แต่ไม่จดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดิน ย่อมตกเป็นของเจ้าของที่ดินที่ซื้อโดยสุจริตและจดทะเบียน
การซื้อขายเรือนโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่กรมการอำเภอโดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะได้รื้อเอาไปภายในกำหนด 3 วันนั้นเป็นการขายสังหาริมทรัพย์
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเรือนกับเจ้าของเดิม ณ ที่ว่าการอำเภอโดยตกลงกันว่าจะรื้อเรือนไปภายใน 3 วัน แต่แล้วโจทก์กลับไม่รื้อเรือนไปตามข้อตกลงและกลับยอมให้เจ้าของเดิมเช่าเรือนพิพาทต่อไปอีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี ถ้าโจทก์จะมีสิทธิเหนือพื้นดินของเจ้าของเดิมก็ต้องจดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ป.พ.พ. ม.1299 จึงจะใช้ยันจำเลยผู้ซื้อซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ แต่คดีนี้ปรากฏว่าไม่มีนิติกรรมจดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและโดยเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นหลักฐานอีกด้วยเรือนซึ่งเป็นส่วนความย่อมติดไปกับที่ดิน จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในเรือนนี้ด้วย.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2499).
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเรือนกับเจ้าของเดิม ณ ที่ว่าการอำเภอโดยตกลงกันว่าจะรื้อเรือนไปภายใน 3 วัน แต่แล้วโจทก์กลับไม่รื้อเรือนไปตามข้อตกลงและกลับยอมให้เจ้าของเดิมเช่าเรือนพิพาทต่อไปอีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี ถ้าโจทก์จะมีสิทธิเหนือพื้นดินของเจ้าของเดิมก็ต้องจดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ป.พ.พ. ม.1299 จึงจะใช้ยันจำเลยผู้ซื้อซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ แต่คดีนี้ปรากฏว่าไม่มีนิติกรรมจดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและโดยเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นหลักฐานอีกด้วยเรือนซึ่งเป็นส่วนความย่อมติดไปกับที่ดิน จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในเรือนนี้ด้วย.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2499).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ ที่ดินพิพาท การซื้อขายที่ไม่สุจริต และการโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การฟ้องคดีโดยได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องนั้น ไม่ต้องคัดสำเนาใบมอบอำนาจให้จำเลยพร้อมกับฟ้อง
เมื่อโจทก์กล่าวในฟ้องแล้วว่า ต้นฉบับใบมอบอำนาจอยู่ในสำนวนอีกคดีหนึ่งในศาลนั้นเองแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิที่จะไม่ต้องยื่นหรือส่งสำเนาเอกสารนั้นต่อศาลเดียวกันในคดีนี้อีก
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องความนั้น เมื่อศาลไม่สงสัยว่าไม่ใช่ใบมอบอำนาจที่แท้จริงแล้ว ก็ไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 47
ผู้จัดการมรดกนั้นจะมีได้ก็แต่โดยพินัยกรรมหรือศาลแต่งตั้งเท่านั้น
เมื่อโจทก์กล่าวในฟ้องแล้วว่า ต้นฉบับใบมอบอำนาจอยู่ในสำนวนอีกคดีหนึ่งในศาลนั้นเองแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิที่จะไม่ต้องยื่นหรือส่งสำเนาเอกสารนั้นต่อศาลเดียวกันในคดีนี้อีก
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องความนั้น เมื่อศาลไม่สงสัยว่าไม่ใช่ใบมอบอำนาจที่แท้จริงแล้ว ก็ไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 47
ผู้จัดการมรดกนั้นจะมีได้ก็แต่โดยพินัยกรรมหรือศาลแต่งตั้งเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเสนอซื้อ-ขายไม้สัก: การกำหนดราคา เงื่อนเวลา 'โดยด่วน' และผลของการไม่ตอบรับ
ข้อความที่กล่าวว่า "ข้าพเจ้าจึงขอความกรุณารับซื้อไม้สักนี้ต่อไป ส่วนราคานั้นทางการจะขายเท่าใดแล้วแต่จะเห็นสมควร" เป็นคำแสดงความประสงค์ใครจะขอซื้อโดยขอให้อีกฝ่ายหนึ่งกำหนดราคามาก่อน หามีลักษณะเป็นคำเสนอไม่
คำว่าโดยด่วนนั้นเป็นเงื่อนเวลาหมายความว่าโดยรวดเร็ว เมื่อโจทก์ทราบคำเสนอจำเลยก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2495 จนวันที่ 26 เดือนเดียวกันก็ยังไม่ตอบสนองรับ จึงถือได้ว่าเกินกำหนดเวลาของคำว่าโดยด่วนแล้วคำเสนอของจำเลยย่อมสิ้นสุดเลิกถอนแล้ว
คำว่าโดยด่วนนั้นเป็นเงื่อนเวลาหมายความว่าโดยรวดเร็ว เมื่อโจทก์ทราบคำเสนอจำเลยก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2495 จนวันที่ 26 เดือนเดียวกันก็ยังไม่ตอบสนองรับ จึงถือได้ว่าเกินกำหนดเวลาของคำว่าโดยด่วนแล้วคำเสนอของจำเลยย่อมสิ้นสุดเลิกถอนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเสนอซื้อขายไม้ การเจรจาต่อรอง และผลของการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนเวลา
ข้อความที่กล่าวว่า'ข้าพเจ้าจึงขอความกรุณารับซื้อไม้สักนี้ต่อไป ส่วนราคานั้นทางการจะขายเท่าใดแล้วแต่จะเห็นสมควร'เป็นคำแสดงความประสงค์ใคร่จะขอซื้อโดยขอให้อีกฝ่ายหนึ่งกำหนดราคามาก่อน หามีลักษณะเป็นคำเสนอไม่
คำว่าโดยด่วนนั้นเป็นเงื่อนเวลาหมายความว่าโดยรวดเร็วเมื่อโจทก์ทราบคำเสนอของจำเลยก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2495 จนวันที่ 26 เดือนเดียวกันก็ยังไม่ตอบสนองรับจึงถือได้ว่าเกินกำหนดเวลาของคำว่าโดยด่วนแล้ว คำเสนอของจำเลยย่อมสิ้นสุดเพิกถอนแล้ว
คำว่าโดยด่วนนั้นเป็นเงื่อนเวลาหมายความว่าโดยรวดเร็วเมื่อโจทก์ทราบคำเสนอของจำเลยก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2495 จนวันที่ 26 เดือนเดียวกันก็ยังไม่ตอบสนองรับจึงถือได้ว่าเกินกำหนดเวลาของคำว่าโดยด่วนแล้ว คำเสนอของจำเลยย่อมสิ้นสุดเพิกถอนแล้ว