พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,033 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบในคดีครอบครองปรปักษ์: ผู้กล่าวอ้างสิทธิในที่ดินมีหน้าที่นำสืบก่อน
จำเลยให้การปฏิเสธฟ้อง และจำเลยก็เป็นผู้ครอบครองที่พิพาทเมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยบุคคลที่สามได้โอนขายให้ หน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกอยู่แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1518/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ส.ค.1 ไม่สร้างสิทธิในที่ดิน หากไม่ได้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ได้ครอบครองก่อน จึงมีสิทธิเหนือจำเลย
การแจ้งการครอบครองที่ดินตามแบบส.ค.1 นั้น ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้แจ้งประการใด เว้นแต่ผู้แจ้งจะได้สิทธิครอบครองอยู่แล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับการนำสืบพยานในคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เดียวกัน ศาลต้องให้โจทก์นำสืบก่อน
คดีอาญามูลกรณีเดียวกันซึ่งผู้ว่าคดีฯฟ้องโจทก์เป็นจำเลยสำนวนหนึ่งฐานทะเลาะวิวาทกับนายเจียวไซกับพวกในที่สาธารณสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 แล้ว โจทก์ยื่นฟ้องนายเจียวไซกับพวกเป็นจำเลยฐานทำร้ายร่างกายโจทก์ถึงอันตรายตามมาตรา 295 อีกสำนวนหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาโดยให้ผู้ว่าคดีฯในสำนวนแรกนำสืบก่อน นั้น จะสั่งให้จำเลยในสำนวนหลังซึ่งเป็นพยานของผู้ว่าคดีฯ สำนวนแรกนำสืบในฐานะเป็นจำเลยในสำนวนหลังไปเลยทีเดียว แล้วจึงให้โจทก์คดีนี้นำสืบทีหลังในฐานะเป็นโจทก์คดีนี้และเป็นจำเลยคดีแรกด้วยไม่ได้ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 174
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมศาลที่สั่งให้เป็นพับเป็นเงินที่โจทก์ต้องได้รับคืน แม้ศาลอุทธรณ์จะสั่งให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับไปทั้งสองฝ่าย และศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไขเรื่องค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นสั่งแต่ประการใด ดังนี้ ค่าธรรมเนียมที่โจทก์เสียไปในระหว่างดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นก็ต้องพับแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 479/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายไม่ตัดสิทธิเช่าเดิม โจทก์ฟ้องขับไล่ไม่ได้
การที่จำเลยทำสัญญาจะซื้อที่พิพาทซึ่งจำเลยเช่าอยู่นั้น ไม่ได้แสดงหรือสันนิษฐานว่าจำเลยได้ตกลงเลิกการเช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีในศาลแขวง: สิทธิอุทธรณ์ของโจทก์และจำเลยตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวง
คดีที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะทำการพิจารณาพิพากษาได้นั้นเมื่อศาลแขวงได้ทำการพิจารณาพิพากษาแล้วการที่คู่ความจะอุทธรณ์คำพิพากษาจึงต้องบังคับตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 22 กรณีเช่นนี้ฝ่ายโจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้เลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยนอกฟ้อง: ศาลต้องพิจารณาเฉพาะเหตุที่โจทก์ยกมาเท่านั้น
เมื่อฟ้องของโจทก์ข้อ 3 บรรยายว่า 'บัดนี้โจทก์ทราบว่าจำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่า โดยเอาตึกที่เช่านี้บางส่วนไปให้เช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์โจทก์จึงไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อไปโจทก์ได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่าไปยังจำเลยดังสำเนาท้ายคำฟ้องจำเลยรับทราบแล้วไม่ปฏิบัติตามโจทก์จึงจำต้องมาขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง' ดังนี้เห็นได้ว่า โจทก์ยกเหตุเช่าช่วงเป็นข้ออ้างขอให้ศาลขับไล่ หาได้ยกเหตุอื่นใด (สิทธิบอกเลิกการเช่าอย่างสัญญาเช่าธรรมดา) เป็นข้ออ้างไม่ข้อวินิจฉัยของศาลล่างที่นอกเหนือจากประเด็นเช่าช่วง จึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยรับสารภาพความผิดฐานหนึ่ง ศาลพิพากษาลงโทษตามคำรับสารภาพ โจทก์ไม่อาจนำสืบความผิดฐานอื่นได้
ผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงในข้อหาฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สั่งว่าคดีมีมูลเฉพาะข้อหาฐานรับของโจร โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องจำเลยต่อศาลอาญา ในข้อหาฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรจำเลยรับสารภาพรับของโจร ดังนี้ ถือว่า จำเลยรับสารภาพเต็มตามฟ้องในความผิดฐานหนึ่งแล้ว ศาลก็พิพากษาลงโทษจำเลยตามคำรับของจำเลย โจทก์จะโต้แย้งขอนำสืบให้เป็นความผิดอีกฐานหนึ่งไม่ได้ เพราะจะเป็นการนำสืบให้กลายเป็นความผิด 2 ฐานไป
(อ้างฎีกาที่ 1801/2493)
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลอาญา ฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งศาลแขวงสั่งว่าคดีมีมูลเฉพาะฐานรับของโจร ศาลอาญาจึงประทับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานรับของโจร และจำเลยรับสารภาพ ฐานรับของโจรและศาลลงโทษไปแล้ว โจทก์จะฎีกาขอให้รับประทับฟ้องทั้งฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร จึงไม่เป็นสาระแก่คดี อันควรได้รับการวินิจฉัย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 242(1), 247 และ ป.วิ.อ. มาตรา 15
(อ้างฎีกาที่ 1801/2493)
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลอาญา ฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งศาลแขวงสั่งว่าคดีมีมูลเฉพาะฐานรับของโจร ศาลอาญาจึงประทับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานรับของโจร และจำเลยรับสารภาพ ฐานรับของโจรและศาลลงโทษไปแล้ว โจทก์จะฎีกาขอให้รับประทับฟ้องทั้งฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร จึงไม่เป็นสาระแก่คดี อันควรได้รับการวินิจฉัย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 242(1), 247 และ ป.วิ.อ. มาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยเลือกปฏิบัติตามคำพิพากษาลำดับหลังไม่ได้ หากยังสามารถปฏิบัติตามลำดับแรกได้โดยโจทก์ไม่ยินยอม
เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยโอนทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์ หรือมิฉะนั้นให้จำเลยใช้เงินพร้อมด้วยดอกเบี้ย (คือราคาทรัพย์พิพาท) แก่โจทก์ เช่นนี้ จำเลยจะเลือกปฏิบัติตามคำพิพากษาลำดับหลังในเมื่อจำเลยยังสามารถปฏิบัติตามลำดับแรก โดยโจทก์ไม่ยินยอมด้วยนั้น ไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1486/2493 และ 1346/2494)
(อ้างฎีกาที่ 1486/2493 และ 1346/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยเลือกปฏิบัติตามคำพิพากษาลำดับหลังไม่ได้ หากยังสามารถปฏิบัติตามลำดับแรกได้โดยโจทก์ไม่ยินยอม
เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยโอนทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์หรือมิฉะนั้นให้จำเลยใช้เงินพร้อมด้วยดอกเบี้ย(คือราคาทรัพย์พิพาท)แก่โจทก์ เช่นนี้ จำเลยจะเลือกปฏิบัติตามคำพิพากษาลำดับหลังในเมื่อจำเลยยังสามารถปฏิบัติตามลำดับแรก โดยโจทก์ไม่ยินยอมด้วยนั้น ไม่ได้ (อ้างฎีกาที่1486/2493 และ 1346/2494)