พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยมีหน้าที่ส่งคืนทรัพย์เช่า แม้จะมอบให้บุคคลภายนอก และต้องจัดการเรียกคืนการครอบครอง
ผู้ให้เช่าฟ้องขอให้ผู้เช่าส่งมอบทรัพย์ที่เช่าคืน เพราะเลิกสัญญาเช่ากันแล้ว ผู้เช่าให้การว่าทรัพย์ที่เช่านั้น บุคคลภายนอกได้ยึดหน่วงไว้โดยอ้างว่า ผู้ให้เช่าค้างชำระค่าเช่า และทำของของเขาเสียหายจึงไม่สามารถส่งคืนได้ จึงขอให้เรียกบุคคลภายนอกนั้นเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยเช่นนี้ ศาลย่อมมีคำสั่งให้หมายเรียกบุคคลภายนอกนั้นเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยได้และเมื่อบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยแล้ว ศาลก็ย่อมพิพากษาบังคับให้บุคคลภายนอกนั้นส่งมอบทรัพย์ที่เช่าแก่ผู้ให้เช่าได้ไม่เป็นการนอกคำขอท้ายฟ้องเพราะถือได้ว่าคำขอย่อมบังคับเอาแก่จำเลยทุกคนโดยร่วมกันและแทนกัน
เช่าทรัพย์เขามาโดยได้รับมอบทรัพย์ที่เช่ามาจากเขา แล้วครั้นเมื่อเลิกสัญญาเช่ากัน ไม่ส่งคืนทรัพย์ที่เขาแก่เขา กลับเอาไปมอบแก่บุคคลภายนอก ครั้นเขาทวงคืน จึงไปขอจากบุคคลภายนอก ๆ ไม่ยอมคืนให้ ดังตนชอบที่จะต้องจัดการเรียกคืนการครอบครองตามสิทธิของตน ถ้าไม่+ารดังกล่าวแล้ว จะอ้าง+เป็นเหตุสุดวิสัยในการชำระหนี้ ไม่ได้
เช่าทรัพย์เขามาโดยได้รับมอบทรัพย์ที่เช่ามาจากเขา แล้วครั้นเมื่อเลิกสัญญาเช่ากัน ไม่ส่งคืนทรัพย์ที่เขาแก่เขา กลับเอาไปมอบแก่บุคคลภายนอก ครั้นเขาทวงคืน จึงไปขอจากบุคคลภายนอก ๆ ไม่ยอมคืนให้ ดังตนชอบที่จะต้องจัดการเรียกคืนการครอบครองตามสิทธิของตน ถ้าไม่+ารดังกล่าวแล้ว จะอ้าง+เป็นเหตุสุดวิสัยในการชำระหนี้ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อที่ดินโดยสุจริต: คุ้มครองเหนือการครอบครองโดยไม่จดทะเบียน
ซื้อที่ดินมีโฉนดมาโดยสุจริต ได้โอนแก้ทะเบียนกันโดยสุจริตเรียบร้อยแล้ว เมื่อไปตรวจสอบเนื้อที่ดินจึงรู้ว่ามีผู้อื่นรุกล้ำเข้ามาทำนาในที่นั้นบางส่วน ดังนี้แม้จะได้ความว่าผู้ที่รุกล้ำเข้ามานั้นได้ปกครองทำนาส่วนนั้นอย่างเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้วก็ตาม เมื่อผู้นั้นไม่ได้จดทะเบียนสิทธิไว้ ก็ไม่อาจยกขึ้นมาตัดสิทธิของผู้ซื้อโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วได้ ผู้ซื้อจึงมีอำนาจฟ้องห้ามมิให้ผู้ครอบครองนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่นั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1627/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าช่วง: เมื่อผู้เช่าช่วงทำสัญญาโดยตรงกับผู้ให้เช่า ผู้เช่าเดิมไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
โจกท์เช่าตึกแถวเขามา 16 ห้องแล้วแบ่งให้ผู้อื่นเช่าเสีย 2 ห้องโดยให้ผู้นั้นไปทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่าเองโดยตรง ภายหลังผู้นั้นเลิกการเช่า โจทก์จึงเข้าทำสัญญาเช่าห้อง 2 ห้องนั้นกับผู้ให้เช่าใหม่ แต่ปรากฎว่ามีจำเลยอยู่ในห้อง 2 ห้องตั้งแต่เมื่อผู้อื่นเช่าดังกล่าวแล้ว และไม่ยอมออก ดังนี้ โจทก์ยังหามีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยไม่ แต่เป็นเรื่องของผู้ให้เช่าจะต้องฟ้องจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการสละกรรมสิทธิในที่ดิน แม้มีโฉนด แต่การครอบครองก่อนและต่อเนื่องเป็นสำคัญ
ฟ้องของโจทก์มีว่า ยายโจทก์ได้ให้ศาลจ้าวจืนอาศัยปลูกสร้างศาลจ้าวลงในที่ดินพิพาทบัดนี้ที่ดินตกเป็นของโจทก์ ๆ จึงขอให้ขับไล่
กรรมการศาลจ้าว ซึ่งเป็นจำเลยให้การว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชนโดยได้รับค่าตอบแทนไป 300 บาท 10 ปีเศษแล้ว
จำเลยอ้างเอกสาร 2 ฉะบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าว ซึ่งโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน 300 บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสาร โจทก์ไปรับโฉนดมา จำเลยไม่ทราบดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง
กรรมการศาลจ้าว ซึ่งเป็นจำเลยให้การว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชนโดยได้รับค่าตอบแทนไป 300 บาท 10 ปีเศษแล้ว
จำเลยอ้างเอกสาร 2 ฉะบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าว ซึ่งโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน 300 บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสาร โจทก์ไปรับโฉนดมา จำเลยไม่ทราบดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองห้องเช่าและการบุกรุก: ผู้เช่าแจ้งยกเลิกการครอบครองแล้ว ผู้ให้เช่าเข้าครอบครองต่อ ย่อมไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
ผู้เช่าห้อง เมื่อจะออกจากห้องเช่าไปอยู่ที่อื่น ได้บอกผู้ให้เช่าและขอให้คนอื่นอาศัยอยู่ชั่วเวลา 1 เดือนนั้น ถือว่าผู้ให้เช่าเป็นผู้ครอบครองห้องเช่านั้นต่อมา ส่วนคนอื่นที่มาอาศัยอยู่นั้น เป็นเพียงผู้อาศัยเมื่อครบกำหนด 1 เดือนแล้วยังไม่ออกไปผู้ให้เช่าจึงจัดให้คนเข้ามานอนในห้องเช่านั้น ดังนี้ ผู้ให้เช่าและผู้ที่ผู้ให้เช่าจัดให้เข้านอนไม่มีผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 329
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายต้องมีข้อตกลงชัดเจน การครอบครองที่ดินเพื่อทำกินยังไม่ถือเป็นการซื้อขาย
ฟ้องขอให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายแต่ตามคำบรรยายฟ้องและข้อเท็จจริงที่สืบ หาได้มีการตกลงจะซื้อขายต่อกันไม่ดังนี้ ศาลบังคับให้ไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716-717/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์, เงื่อนไขการโอน, การซื้อขาย, การครอบครอง, ฟ้องแย้ง
ทะเบียนรถยนต์ไม่เหมือนโฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นเอกสารอันเป็นที่ตั้งแห่งกรรมสิทธิ์ทะเบียนรถยนต์เป็นแต่พยานหลักฐานอย่างหนึ่ง ที่แสดงว่าผู้มีชื่อเป็นเจ้าของรถ
การซื้อขายรถยนต์ โดยฝ่ายผู้ซื้อรับมอบรถไป และต่างตกลงกันว่าฝ่ายผู้ซื้อจะต้องชำระราคาให้หมดเสียก่อนผู้ขายจึงจะโอนทะเบียนให้นั้นเป็นเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 459 ซึ่งกรรมสิทธิ์ในรถยังไม่โอนไปยังผู้ซื้อ
เงินประมูลราคาทรัพย์สินพิพาทซึ่งฝ่ายที่ประมูลได้นำเงินมาวางศาลไว้โดยมีข้อตกลงกันว่า 'ในที่สุดใครชนะคดีก็มีสิทธิได้เงินนั้นไป' นั้นหมายถึงชนะคดีเมื่อคดีถึงที่สุด เมื่อคู่ความตกลงกันใหม่ในศาลดังกล่าวแล้วแม้การยึดจะได้ทำตามมาตรา 254 ก็ต้องถือว่าเรื่องได้ผ่านมาตรา 254 ไปแล้วจะนำมาตรา 260 มาใช้เพื่อถอนการยึดคืนเงินให้จำเลยไปทันทีไม่ได้
ชั้นฎีกาหากคู่ความมิได้ยกประเด็นข้อใดโต้เถียงศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
จำเลยซึ่งฟ้องแย้งด้วยนั้น หากแพ้คดีนอกจากจะต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมที่แพ้คดีตามฟ้องโจทก์แล้ว ศาลให้จำเลยที่ฟ้องแย้งต้องใช้ค่าฤชาธรรมเนียมโจทก์ในกรณีที่ฟ้องแย้งถูกยกฟ้องนั้นด้วยอีกส่วนหนึ่ง
การซื้อขายรถยนต์ โดยฝ่ายผู้ซื้อรับมอบรถไป และต่างตกลงกันว่าฝ่ายผู้ซื้อจะต้องชำระราคาให้หมดเสียก่อนผู้ขายจึงจะโอนทะเบียนให้นั้นเป็นเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 459 ซึ่งกรรมสิทธิ์ในรถยังไม่โอนไปยังผู้ซื้อ
เงินประมูลราคาทรัพย์สินพิพาทซึ่งฝ่ายที่ประมูลได้นำเงินมาวางศาลไว้โดยมีข้อตกลงกันว่า 'ในที่สุดใครชนะคดีก็มีสิทธิได้เงินนั้นไป' นั้นหมายถึงชนะคดีเมื่อคดีถึงที่สุด เมื่อคู่ความตกลงกันใหม่ในศาลดังกล่าวแล้วแม้การยึดจะได้ทำตามมาตรา 254 ก็ต้องถือว่าเรื่องได้ผ่านมาตรา 254 ไปแล้วจะนำมาตรา 260 มาใช้เพื่อถอนการยึดคืนเงินให้จำเลยไปทันทีไม่ได้
ชั้นฎีกาหากคู่ความมิได้ยกประเด็นข้อใดโต้เถียงศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
จำเลยซึ่งฟ้องแย้งด้วยนั้น หากแพ้คดีนอกจากจะต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมที่แพ้คดีตามฟ้องโจทก์แล้ว ศาลให้จำเลยที่ฟ้องแย้งต้องใช้ค่าฤชาธรรมเนียมโจทก์ในกรณีที่ฟ้องแย้งถูกยกฟ้องนั้นด้วยอีกส่วนหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนมิอาจทำให้ได้กรรมสิทธิ์ แม้จะครอบครองเป็นเวลานาน
การที่จำเลยครอยครองที่พิพาทแทนโจทก์ แม้จะช้านานเพียงไร ผู้ครอบครองก็จะเอาของที่ผู้ที่ตนครอบครองแทนนั้นเป็นสิทธิเสียมิได้ เพราะมิใช่เป็นการครอบครองในฐานเป็นเจ้าของ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696-700/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครอง ทำให้เจ้าของเดิมหมดสิทธิฟ้องร้อง
คำให้การของจำเลยที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงข้อต่อสู้ถึงสิทธิครอบครองและสิทธิฟ้องร้องแล้ว
จำเลยครอบครองที่ดินอยู่และได้คัดค้านการที่โจทก์นำรังวัดที่พิพาทเพื่อออกโฉนดถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ หากโจทก์มิได้ฟ้องร้องเอาคืนการครอบครองใน 1 ปี ย่อมหมดสิทธิฟ้องร้องตาม มาตรา 1375
แม้จำเลยจะได้เคยเช่าที่พิพาทต่อโจทก์ แต่การที่จำเลยร้องคัดค้านดังกล่าวถือว่าจำเลยได้แสดงเจตนาเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครองตามมาตรา 1381
จำเลยครอบครองที่ดินอยู่และได้คัดค้านการที่โจทก์นำรังวัดที่พิพาทเพื่อออกโฉนดถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ หากโจทก์มิได้ฟ้องร้องเอาคืนการครอบครองใน 1 ปี ย่อมหมดสิทธิฟ้องร้องตาม มาตรา 1375
แม้จำเลยจะได้เคยเช่าที่พิพาทต่อโจทก์ แต่การที่จำเลยร้องคัดค้านดังกล่าวถือว่าจำเลยได้แสดงเจตนาเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครองตามมาตรา 1381
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินของศาลเจ้า: การครอบครองที่ดินอุทิศ แม้ไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง แต่ถือเป็นทรัพย์สินของศาลเจ้าได้
การที่มีผู้ซื้อที่ดินห้องแถวอุทิศให้ศาลเจ้าก่อนประกาศใช้กฎกระทรวงนั้น แม้จะไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงข้อ 5 ก็ตาม แต่เมื่อประกาศใช้กฎกระทรวงก็ได้ขึ้นบัญชีเป็นทรัพย์สมบัติของศาลเจ้า และได้ครอบครองมาตั้ง 50 ปีแล้วดังนี้จึงเป็นที่ของศาลเจ้าอยู่ในความปกครองของรัฐบาล
เมื่อทางราชการแต่งตั้งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการปกครองศาลเจ้าผู้นั้นก็มีอำนาจฟ้องผู้มีมาครอบครองโดยไม่มีสิทธิได้
เมื่อทางราชการแต่งตั้งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการปกครองศาลเจ้าผู้นั้นก็มีอำนาจฟ้องผู้มีมาครอบครองโดยไม่มีสิทธิได้