คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,887 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4473/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดเช็ค – คำพิพากษาศาลชั้นต้นถือเป็นสิ้นสุด แม้จะอยู่ในระหว่างอุทธรณ์
ผู้เสียหายเคยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในการกระทำความผิดเดียวกันกับคดีนี้จนศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แม้คดีดังกล่าวจะอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ก็ถือได้ว่าความผิดของจำเลยซึ่งได้ฟ้องนั้นได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว สิทธิของพนักงานอัยการโจทก์ที่จะนำคดีอาญาฟ้องจำเลยในความผิดเกี่ยวกับเช็คพิพาทรายเดียวกับคดีก่อนจึงระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4473/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีเช็ค: สิทธิฟ้องระงับหากมีคำพิพากษาแล้ว แม้จะอยู่ในระหว่างอุทธรณ์
ผู้เสียหายเคยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในการกระทำความผิดเดียวกันกับคดีนี้จนศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แม้คดีจะอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ก็ถือได้ว่าความผิดของจำเลยซึ่งได้ฟ้องนั้นได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว สิทธิของพนักงานอัยการโจทก์ที่จะนำคดีอาญามาฟ้องจำเลยคดีนี้ในความผิดเกี่ยวกับเช็คพิพาทรายเดียวกับคดีก่อนจึงระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับคดีหลังยึดทรัพย์ก่อนศาลตัดสิน: ผู้ร้องมีสิทธิจดทะเบียนได้จนกว่าจะมีการขายทอดตลาด
แม้โจทก์ยึดที่พิพาทก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องก็ตาม แต่ ต่อมาเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องย่อมถือได้ว่าผู้ร้องมีสิทธิตาม คำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๐ตราบใด ที่ยังไม่มีการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท ผู้ร้องย่อมใช้ สิทธิตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๗ ได้(คำพิพากษาฎีกาที่ ๗๓๘/๒๕๑๑ ประชุมใหญ่).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ร้องตามคำพิพากษา vs. สิทธิของเจ้าหนี้ในการยึดทรัพย์ก่อนมีคำพิพากษา
แม้โจทก์ยึดที่พิพาทก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องก็ตาม แต่ต่อมาเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องย่อมถือได้ว่าผู้ร้องมีสิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 ตราบใดที่ยังไม่มีการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท ผู้ร้องย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการยึดทรัพย์ชำระหนี้ vs. สิทธิของผู้ร้องตามคำพิพากษาให้โอนกรรมสิทธิ์
แม้โจทก์ยึดที่พิพาทก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้อง แต่เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องย่อมถือได้ว่าผู้ร้องมีสิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 ตราบใดที่ยังไม่มีการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท ผู้ร้องย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับตามคำพิพากษาหลังยึดทรัพย์ก่อนศาลตัดสิน: ผู้ร้องมีสิทธิจดทะเบียนได้จนกว่าจะมีการขายทอดตลาด
แม้โจทก์ยึดที่พิพาทก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยโอนขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องก็ตาม แต่ ต่อมาเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้องย่อมถือได้ว่าผู้ร้องมีสิทธิตาม คำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300ตราบใด ที่ยังไม่มีการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท ผู้ร้องย่อมใช้ สิทธิตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 ได้(คำพิพากษาฎีกาที่ 738/2511 ประชุมใหญ่).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4053/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาห้ามประกอบการค้า: การระบุวิธีการบังคับคดีเป็นสำคัญ
การดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาในคดีอาญานั้น นอกจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 248 บัญญัติไว้แล้วยังอาจดำเนินการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ได้อีกทางหนึ่ง ดังนั้น คำพิพากษาในคดีอาญาที่ห้ามมิให้จำเลยประกอบการค้าเลี้ยงสุกรในเขตเทศบาลอีกต่อไปจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นนั้น แม้ไม่อาจดำเนินการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 249 ได้ โจทก์ก็ยังอาจขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ได้ คำร้อง ของ โจทก์ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีระบุแต่เพียงว่า ขอศาลได้โปรดออกหมายบังคับคดีเพื่อให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาเท่านั้นหาได้ระบุโดยชัดแจ้งว่าจะบังคับคดีแก่จำเลยด้วยวิธีการอย่างไร คำร้อง ของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 275(3) ชอบที่จะยกคำร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4053/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาคดีอาญา: การขอให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาต้องระบุวิธีการบังคับคดี
การดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาในคดีอาญานั้น นอกจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 249 บัญญัติไว้แล้วยังอาจดำเนินการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ได้อีกทางหนึ่ง ดังนั้น คำพิพากษาในคดีอาญาที่ห้ามมิให้จำเลยประกอบการค้าเลี้ยงสุกรในเขตเทศบาลอีกต่อไปจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นนั้น แม้ไม่อาจดำเนินการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 249 ได้ โจทก์ก็ยังอาจขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ได้ คำร้อง ของ โจทก์ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีระบุแต่เพียงว่า ขอศาลได้โปรดออกหมายบังคับคดีเพื่อให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาเท่านั้นหาได้ระบุโดยชัดแจ้งว่าจะบังคับคดีแก่จำเลยด้วยวิธีการอย่างไรคำร้อง ของ โจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 275(3) ชอบที่จะยกคำร้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4015/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุคัดค้านคำพิพากษาโดยละเอียด ชี้เฉพาะเจาะจง ไม่ใช่แค่กล่าวอ้างโอกาสชนะคดี
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 อ้างเหตุว่าอาจชนะคดีโจทก์เพราะโจทก์ฟ้องให้ชำระเงินกู้มิได้ฟ้องบังคับจำนอง จะต้องฟ้องที่ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 1 แต่ตามคำฟ้องของโจทก์ระบุไว้ชัดแล้วว่าฟ้องบังคับจำนองด้วย จึงเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระ ส่วนคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 2 ที่ระบุว่า หากจำเลยที่ 2 มีโอกาสต่อสู้คดีแล้วจะต้องชนะคดีโจทก์ แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 2 จดทะเบียนจำนอง จำเลยที่ 2 ก็ไม่ควรต้องรับผิดเกินกว่า 600,000 บาทตามที่ระบุไว้ในสัญญาจำนอง ก็เป็นข้ออ้างลอย ๆ ไม่ได้แสดงเหตุโดยละเอียดชัดแจ้งว่าคำพิพากษาไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องอย่างไรคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองถือไม่ได้ว่าได้แสดงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยละเอียดชัดแจ้ง จึงเป็นคำขอที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4015/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุคัดค้านคำพิพากษาชัดแจ้ง การอ้างเหตุลอยๆ หรือขัดแย้งกับข้อเท็จจริงในคำฟ้อง ไม่เป็นเหตุให้พิจารณาใหม่
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 อ้างเหตุว่าอาจชนะคดีโจทก์เพราะโจทก์มิได้ฟ้องบังคับจำนอง จะต้องฟ้องที่ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 1 แต่ตามคำฟ้องของโจทก์ระบุไว้ชัดแล้วว่าฟ้องบังคับจำนองด้วยจึงเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระ ส่วนคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 2ที่ระบุว่า หากจำเลยที่ 2 มีโอกาสต่อสู้คดีแล้วจะต้องชนะคดีโจทก์แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 2 จดทะเบียนจำนอง จำเลยที่ 2 ก็ไม่ควรต้องรับผิดเกินกว่า 600,000 บาท ตามที่ระบุไว้ในสัญญาจำนอง ก็เป็นข้ออ้างลอย ๆ ไม่ได้แสดงเหตุโดยละเอียดชัดแจ้งว่าคำพิพากษาไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องอย่างไร คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองถือไม่ได้ว่าได้แสดงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยละเอียดชัดแจ้ง จึงเป็นคำขอที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง.
of 189