คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ซื้อขาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,032 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมือเปล่า แม้ไม่สมบูรณ์ตาม กม. แต่การสละสิทธิครอบครองทำให้ผู้ซื้อได้สิทธิครอบครอง
ซื้อขายที่ดินมือเปล่าโดยไม่ได้ทำเป็นหนังสือย่อมไม่สมบูรณ์ตาม ก.ม.แต่เมื่อผู้ขายได้สละสิทธิ์ครอบครองให้ตกไปยังผู้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อก็ได้สิทธิ์ครอบครองนั้นทันที

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 325/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินเดิมแปลงเป็นสินสมรส-สินส่วนตัว: การซื้อขายทรัพย์สินทดแทนและผลของการไม่ได้จดทะเบียน
ขายนาสินเดิมไปแล้วเอาเงินไปซื้อนาอีกแปลงหนึ่งในวันเดียวกันนั้นเองดังนี้แสดงให้เห็นชัดว่าได้ทรัพย์ใหม่นั้นมาแทนทรัพย์เก่าทรัพย์ใหม่ที่ได้มาจึงเป็นสินเดิม
มาตรา 1464 บัญญัติไว้เป็นหลักกว้างๆ รวมทั้งสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ว่าการยกให้สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ใดให้เป็นสินส่วนตัวให้ทำเป็นหนังสือโดยไม่บัญญัติว่าจะต้องจดทะเบียนหรือไม่ก็เมื่อการยกอสังหาริมทรัพย์ให้กันโดยธรรมดา กฎหมายบังคับให้จดทะเบียนจึงจะสมบูรณ์ ดังนั้นการยกอสังหาริมทรัพย์ใดให้เป็นสินส่วนตัวก็จะต้องจดทะเบียนด้วยจึงจะสมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1751/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริตและสิทธิครอบครองปรปักษ์ ผู้ซื้อมีสิทธิเหนือกว่าหากจดทะเบียนสิทธิ
ตามคำให้การของจำเลยอ่านรวมกันพออนุมานได้ว่าจำเลยโต้เถียงเรื่องการซื้อขายที่พิพาทว่าเป็นการไม่สุจริต ก็ถือว่าจำเลยโต้เถียงว่าโจทก์ทำการโดยไม่สุจริตแล้ว
ในข้อโต้เถียงเรื่องทุจริตหรือไม่นั้นมี ป.พ.พ.มง 6 บัญญัติเป็นข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลทุกคนกระทำการโดยสุจริต ฉะนั้นเมื่อจำเลยโต้เถียงว่าโจทก์กระทำการโดยไม่สุจริต จำเลยย่อมมีหน้าที่พิสูจน์แสดงหักล้างข้อสันนิษฐานนี้
ที่ดินซึ่งเป็นที่มีโฉนดเป็นหลักฐาน แม้หากจำเลยจะได้ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งอยู่ภายในโฉนดมาโดยปรปักษ์ต่อเจ้าของเดิมเป็นเวลากว่า 10 ปี แล้วก็ตามจำเลยมิได้จดทะเบียนเป็นสิทธิตาม ป.พ.พ.ม.1299 วรรค 2 จะยกสิทธิครอบครองอันยังมิได้จดทะเบียนนั้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้ได้ที่มาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโอนซื้อขายกันต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยชอบด้วย ก.ม.แล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเรือโดยผู้ไม่มีสิทธิ กรรมสิทธิไม่ตกแก่ผู้ซื้อแม้สุจริต ทายาทมีสิทธิเรียกร้องทรัพย์มรดก
ผู้เช่าเรือฉ้อโกง เอาเรือของเจ้าของไปขายให้แก่ผู้อื่น โดยปลอมคนว่าเป็นเจ้าของเรือ และลงชื่อเจ้าของเรือปลอมในสัญญาซื้อขายที่อำเภอแม้ผู้ซื้อจะรับซื้อไว้โดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิในเรือนั้น เจ้าของเรือย่อมมีสิทธิในเรือนั้น เจ้าของเรือย่อมมีสิทธิเรียกคืนและให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายนั้นได้
แม้ผู้ตายจะมีบุตรและภิริยาอยู่ก็ดี บิดาของผู้ตายก็เป็นทายาทและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเหมือนกัน บิดาของผู้ตาย จึงมีสิทธิฟ้องเรียกร้องทรัพย์มรดกของผู้ตายจากผู้ที่ไม่มีสิทธิยึดถือคืนมาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387-389/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งสิทธิในที่ดินหลังมีการซื้อขายแล้ว การฟ้องต้องรวมผู้ซื้อเป็นจำเลย
โจทย์ฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ และขอทำลายนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทหลังกล่าวระหว่างจำเลยผู้ขาย กับบุคคลภายนอกผู้ซื้อ เมื่อคดีปรากฏว่า จำเลยได้ทำนิติกรรมจดทะเบียนขายที่รายพิพาท และส่งมอบการครอบครองให้ผู้ซื้อไปแล้ว ดังนี้ เมื่อมิได้ฟ้องผู้ซื้อเข้ามาเป็นจำเลยด้วย แม้ศาลจะวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ก็จะพิพากษาให้ทำลายหนังสือสัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยและผู้ซื้อไม่ได้ เพราะผู้ซื้อเป็นบุคคลภายนอกคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมือเปล่าและการสละการครอบครอง ทำให้ผู้ขายไม่มีสิทธิเรียกคืนได้
ที่ดินบ้านมือเปล่านั้นเมื่อทางพิจารณาไม่มีฝ่ายใดนำสืบว่า ที่บ้านนั้น เจ้าของได้มีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 มาแล้ว ก็ต้องถือว่าเจ้าของมีสิทธิครอบครองมือเปล่าธรรมดาเช่นเดียวกับที่นามือเปล่า เท่านั้น (อ้างฎีกาที่ 5/2495)
ขายที่บ้านมือเปล่า โดยทำหนังสือสัญญากันเอง แล้วมอบที่ดินให้ผู้ซื้อครอบครองแล้ว อันถือได้ว่าผู้ขายได้มีเจตนาสละการครอบครองให้เขาแล้ว ผู้ขายย่อมไม่มีสิทธิฟ้องเรียกที่ดินนั้นคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ไม่มีการโอนตามกฎหมาย
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดกัน โดยมิได้ไปทำโอนซื้อขายกันต่อเจ้าพนักงาน แต่ผู้ซื้อได้ปกครองเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมาเกิน 10 ปีแล้วดังนี้ ผู้ซื้อย่อมได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ซื้อขายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายต่อเจ้าพนักงาน หากครอบครองเกิน 10 ปี
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดกัน โดยมิได้ไปทำโอนซื้อขายกันต่อเจ้าพนักงานแต่ผู้ซื้อได้ปกครองเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมาเกิน 10 ปีแล้วดังนี้ ผู้ซื้อย่อมได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ซื้อขายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำต้องห้าม: ประเด็นซื้อขายที่เคยวินิจฉัยแล้วในคดีก่อน ศาลยกฟ้อง
คดีที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วห้ามมิให้คู่ความเดียวกันรื้อร้องฟ้องกันอีก ในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน เมื่อโจทก์และภริยาโจทก์แพ้คดีจำเลยในคดีก่อนโดยคดีถึงที่สุด ชั้นศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเงินที่ภริยาโจทก์ชำระให้ในคดีนั้นเป็นเงินที่ภริยาโจทก์ส่งเสียให้แก่จำเลยระหว่างต้องคดีฐานกบฏด้วยความกตัญญูมิได้มีการซื้อขายกันโดยสุจริตดังนี้โจทก์จะมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่เรียกเงินจำนวนนั้นคืน โดยอ้างว่าโจทก์ชำระไปโดยเจตนาเป็นสินจ้างตอบแทนในการซื้อขายกัน ซึ่งถ้าไม่มีการตกลงซื้อขายกันโจทก์ก็ไม่ชำระให้แก่จำเลยเช่นว่านี้ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำต้องห้าม: ประเด็นซื้อขายที่เคยวินิจฉัยแล้วในคดีเดิม
คดีที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วห้ามมิให้คู่ความเดียวกันรื้อร้องฟ้องกันอีก ในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน
เมื่อโจทก์และภริยาโจทก์แพ้คดีจำเลยในคดีก่อนโดยคดีถึงที่สุด ชั้นศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเงินที่ภริยาโจทก์ชำระให้ในคดีนั้นเป็นเงินที่ภริยาโจทก์ส่งเสียให้แก่จำเลยระหว่างต้องคดีฐานกบฎด้วยความกตัญญูมิได้มีการซื้อขายกันโดยสุจริต ดังนี้โจทก์จะมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่เรียกเงินจำนวนนั้นคืน โดยอ้างว่าโจทก์ชำระไปโดยเจตนาเป็นสินจ้างตอบแทนในการซื้อขายกัน ซึ่งถ้าไม่มีการตกลงซื้อขายกันโจทก์ก็ไม่ชำระให้แก่จำเลยเช่นว่านี้ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม
of 104