พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,615 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3911/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการมรดกตามพินัยกรรม: ผู้รับพินัยกรรมมีสิทธิเป็นผู้จัดการมรดก แม้มีข้อโต้แย้งเรื่องทรัพย์สิน
ผู้คัดค้านที่ 1 บรรยายคำคัดค้านไว้แล้วว่า ผู้คัดค้านที่ 1เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยเป็นผู้รับพินัยกรรมและมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย จึงไม่จำต้องแนบพินัยกรรมมาท้ายคำคัดค้านด้วย การที่คำคัดค้านระบุว่าเจ้ามรดกยกทรัพย์สินให้ผู้คัดค้านที่ 1เพียงผู้เดียว แต่ชั้นพิจารณาได้ความตามพินัยกรรมว่า ทรัพย์สินรายการที่ 1 เจ้ามรดกได้ทำสัญญาจะขายให้บุคคลภายนอก เงินที่ได้ยกให้กับผู้คัดค้านที่ 1 ส่วนหนึ่ง กับยกให้ ส. อีกส่วนหนึ่งส่วนทรัพย์รายการที่ 2 ตกได้แก่ผู้คัดค้านที่ 1 ทั้งหมด เช่นนี้เป็นเรื่องพยานหลักฐานที่นำสืบได้ความไม่เต็มบริบูรณ์ตามคำคัดค้านและก็ยังได้ความว่าผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกอยู่ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าผู้ที่อ้างเทปบันทึกเสียงเป็นพยานจะต้องถอดข้อความในเทปออกมา หรือต้องนำเทปมาเปิดในขณะพิจารณาคดีของฝ่ายที่อ้างเองหรือฝ่ายตรงข้าม เพราะการนำสืบเสียงพูดเป็นการนำสืบวัตถุพยาน พินัยกรรมฉบับหลังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับทรัพย์มรดกรายเดียวกับที่ระบุไว้ในพินัยกรรมฉบับก่อนเท่านั้น มีผลเป็นการเพิกถอนพินัยกรรมฉบับก่อนเฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์มรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1697 สิทธิของผู้ร้องที่จะได้รับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมฉบับก่อนจึงระงับ ส่วนข้อกำหนดในการตั้งผู้จัดการมรดกยังคงมีผลอยู่แต่ตามพินัยกรรมระบุให้ผู้ร้อง ด.และช. เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน ถ้าผู้ใดตาย ให้ผู้มีชีวิตอยู่ดำเนินการแทน ดังนั้นเมื่อด.ตายผู้ร้องต้องร่วมกับช. จัดการมรดกของเจ้ามรดก การที่ผู้ร้องขอให้ศาลตั้งเฉพาะผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกจึงขัดต่อเจตนารมณ์ของเจ้ามรดก และเมื่อผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำร้องคัดค้านโดยขอให้ตั้งผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกด้วยเป็นอำนาจของศาลที่จะพิจารณาว่าสมควรตั้งผู้ใด ปรากฏว่าผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมจึงสมควรตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของเจ้ามรดก ส่วนผู้ร้องไม่ได้เป็นทายาทโดยธรรมและไม่มีส่วนได้รับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม ศาลล่างทั้งสองตั้งผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกจึงเหมาะสม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3883/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันภัยต้องมีผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่เอาประกัน หากไม่มีสิทธิในการฟ้อง
เมื่อไม่ปรากฏว่า บ. ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันเกิดเหตุจากเจ้าของเดิมก่อนนำมาทำสัญญาประกันภัยไว้กับโจทก์ จึงไม่อาจรับฟังว่า บ. เป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถคันดังกล่าวขณะที่โจทก์รับประกันภัยไว้ กรมธรรม์ประกันภัยระหว่างโจทก์กับ บ. จึงไม่ผูกพันคู่สัญญา ตาม ป.พ.พ. มาตรา 863 แม้โจทก์จะได้ชดใช้ค่าเสียหายแทน บ. ไปก็ไม่ได้รับช่วงสิทธิตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสาม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3882/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเชื่อโดยสุจริตและสิทธิในการประกอบอาชีพ: การกระทำเพื่อรักษาสิทธิเดิมไม่เป็นความผิด
จำเลยตั้งแผงขายผลไม้ที่บริเวณสันรางน้ำและขอบรางน้ำริมถนนซึ่งอยู่ใกล้ทางเข้าตลาดมานานหลายปีแล้ว ถัดจากแผงของจำเลยเข้าไปเป็นแผงขายปลาของโจทก์ร่วมซึ่งเช่ามาจากผู้ดูแลตลาด โจทก์ร่วมได้ยกแผงของจำเลยออกแล้วเทพื้นปูนซีเมนต์บริเวณที่ตั้งแผงทั้งของโจทก์ร่วมและจำเลยในยามวิกาลเวลา 23 นาฬิกาเศษ เมื่อเทพื้นแล้วได้ยกแผงขายของของโจทก์ร่วมมาตั้งแทน โดยติดขาแผงไว้กับพื้นซีเมนต์ด้วย ต่อมาวันรุ่งขึ้นเวลาประมาณ 9 นาฬิกาจำเลยทำพื้นซีเมนต์บริเวณที่ตั้งแผงของจำเลยเสียหาย แต่กรณีมีเหตุให้ฟังได้ว่าจำเลยเชื่อว่าแผงของจำเลยตั้งอยู่ในที่ดินสาธารณะ และหากจำเลยไม่ทุบพื้นซีเมนต์งัดไม้แบบและขาโต๊ะของโจทก์ร่วมออก จำเลยก็ไม่สามารถตั้งลังและแผงขายของของตนได้ เช่นนี้ การที่จำเลยกระทำดังกล่าวจึงเป็นเพียงเพื่อจะตั้งแผงขายผลไม้ตามที่ขายอยู่เป็นประจำวันด้วยความเชื่อโดยสุจริตว่าตนมีสิทธิที่จะกระทำได้เท่านั้น หาเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3712/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหน้าที่ชำระภาษีบำรุงท้องที่ของทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครอง แม้เกิดหลังศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์
การที่เจ้าพนักงานประเมินแจ้งการประเมินไปยังจำเลย ซึ่งเป็น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อให้ชำระภาษีบำรุงท้องที่ประจำปีพ.ศ. 2531 ของลูกหนี้ตามแบบแจ้งการประเมิน ภ.บ.ท.9 เป็นการปฏิบัติตามวิธีการ ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508มาตรา 48 เพื่อให้จำเลยซึ่งมีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้อุทธรณ์โต้แย้งการประเมินต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ ตามมาตรา 49 หากเห็นว่าการประเมินไม่ถูกต้องมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91 นอกจากนี้พ.ร.บ. ล้มละลายฯ มาตรา 105 ก็บัญญัติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระหนี้นั้นต่อศาลหาได้ให้แจ้งความเห็นไปยังผู้ขอรับชำระหนี้ไม่ ทั้งความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่มีผลบังคับ เพราะศาลอาจวินิจฉัย เป็นอย่างอื่นได้ ความเห็นหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์จึงไม่ทำให้ผู้ขอรับชำระหนี้เสียหาย การที่จำเลยมีหนังสือไปยังผู้อำนวยการเขตแจ้งว่าหนี้ภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. 2531 เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นภายหลัง พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดไม่อาจขอรับชำระได้ เท่ากับเป็นเพียงการ แจ้งความคิดเห็นของจำเลยไปยังผู้อำนวยการเขตเท่านั้น ไม่มีผล ผูกพันให้โจทก์จำต้องยื่นคำร้องคัดค้านคำวินิจฉัยของจำเลยต่อ ศาลในคดีล้มละลายตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 146 การที่จำเลย ไม่ชำระค่าภาษีบำรุงท้องที่และเงินเพิ่มตามกฎหมายแก่โจทก์ เป็นการ โต้แย้งสิทธิโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าภาษีดังกล่าว จากจำเลยต่อศาลภาษีอากรกลางได้ ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลภาษีอากร และวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 7 ที่ดินอันเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้มีอยู่ในขณะที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดนั้น จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีหน้าที่เข้าไปจัดการ เมื่อจำเลยยังจัดการ ไม่เสร็จโดยมิได้จำหน่ายที่ดินดังกล่าวแล้วเกิดหนี้ค่าภาษีบำรุง ท้องที่ขึ้นตามกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินที่จำเลยมีหน้าที่จัดการ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชำระค่าภาษีบำรุงท้องที่แทนลูกหนี้แก่โจทก์ และเมื่อการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ของเจ้าพนักงานประเมินถูกต้อง และชอบด้วยกฎหมายแล้วดังนั้นจำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินค่าภาษีบำรุงท้องที่นั้นแก่โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อกับสิทธิการเรียกร้องคืนทรัพย์สิน: การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและการรู้เห็นเป็นใจ
สัญญาเช่าซื้อระบุว่า กรณีเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เช่าซื้อในระหว่างอายุสัญญา เช่น ถูกขโมย ต้องอัคคีภัย วาตภัยอุปัทวเหตุใด ๆ หรือการกระทำใด ๆ จนทรัพย์สินที่เช่าซื้อเสียหายหรือสูญหาย ผู้เช่ายินยอมรับผิดชดใช้เงินค่าเช่าซื้อที่ยังค้างชำระอยู่ทั้งสิ้น ข้อสัญญาดังกล่าวแสดงวัตถุประสงค์อยู่ในตัวว่าผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อต้องการราคาค่าเช่าซื้อเป็นสำคัญผู้เช่าซื้อจะนำทรัพย์ที่ให้เช่าซื้อไปใช้อย่างไรก็ได้เมื่อทราบว่ารถจักรยานยนต์ของกลางถูกยึดแล้ว ผู้ร้องยังรับค่าเช่าซื้อต่อมาอีกไม่ได้บอกเลิกสัญญาหรือติดตามเอารถจักรยานยนต์คืน ทั้งไม่เคยขอรับคืนจากพนักงานสอบสวน การที่ผู้ร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ถือว่า ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดจึงไม่มีสิทธิร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลาง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนของกลางในคดีพนัน ผู้ร้องเป็นเจ้าของและของกลางไม่ได้ใช้ในการกระทำผิด ศาลฎีกายืนคืนของกลาง
++ เรื่อง ความผิดต่อพระราชบัญญัติการพนัน (ชั้นขอคืนของกลาง) ++
++ โจทก์ฎีกา ++
++
++ คำพิพากษาสั่งออก - รอย่อ
++ แจ้งการอ่านแล้ว / โปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++
++
ในคดีร้องขอคืนของกลาง เมื่อได้ความว่าโทรทัศน์ของกลางมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดซึ่งศาลไม่มีอำนาจสั่งริบ จึงต้องคืนโทรทัศน์ของกลางให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของ
++ โจทก์ฎีกา ++
++
++ คำพิพากษาสั่งออก - รอย่อ
++ แจ้งการอ่านแล้ว / โปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++
++
ในคดีร้องขอคืนของกลาง เมื่อได้ความว่าโทรทัศน์ของกลางมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดซึ่งศาลไม่มีอำนาจสั่งริบ จึงต้องคืนโทรทัศน์ของกลางให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3321/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเลิกการล้มละลายทำให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สิ้นอำนาจในการเพิกถอนการโอนทรัพย์สิน
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลย ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 135(2) เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจที่จะจัดกิจการและทรัพย์สินของจำเลยต่อไป รวมตลอดทั้งไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการโอนหรือการจำนอง ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22,114,115 ศาลฎีกาจึงไม่จำเป็นต้องสั่งคำร้องขอถอนฎีกาของผู้รับโอนและพิจารณาฎีกาของผู้รับโอนและฎีกาของผู้รับจำนองต่อไป ให้จำหน่ายคดีเสีย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากละเมิดต่อทรัพย์สินที่ดูแลรักษา แม้ไม่ใช่เจ้าของ
โจทก์มีหน้าที่จัดหา ติดตั้ง ครอบครอง ดูแลและรักษาสัญญาณไฟจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยเมื่อจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดทำให้สัญญาณไฟจราจรในขณะอยู่ในความครอบครองของโจทก์เสียหาย แม้โจทก์จะไม่ใช่เจ้าของโจทก์ก็จะต้องทำการจัดหา ติดตั้งและบำรุงรักษาสัญญาณไฟจราจรนั้นให้มีสภาพดีเช่นเดิมตามหน้าที่ โจทก์ย่อมเสียหายจากการกระทำละเมิด จึงมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายต่อทรัพย์สินที่อยู่ในการครอบครองและดูแลรักษา: ผู้มีหน้าที่ดูแลมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายได้
เมื่อจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2โดยขับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2 ซึ่งเอาประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 3ชนสัญญาณไฟจราจรในขณะอยู่ในความครอบครองของโจทก์จนได้รับความเสียหาย แม้โจทก์จะไม่ใช่เจ้าของสัญญาณไฟจราจรดังกล่าวแต่โจทก์มีหน้าที่จัดหา ติดตั้ง ครอบครองและบำรุงรักษาให้สัญญาณไฟจราจรที่ได้รับความเสียหายนั้นมีสภาพดีเช่นเดิม โจทก์จึงเสียหายจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 2 และที่ 3ต้องร่วมรับผิดในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ตามกฎหมาย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสาม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2752/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งวันขายทอดตลาด: บุคคลผู้มีส่วนได้เสียเฉพาะทรัพย์สินที่ถูกบังคับคดี
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 มิได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินนั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ต้องแจ้งวันขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 1 ทราบก็ได้