คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องร้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 993 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานรวม ไม่ยึดเพียงวันที่เบิกความไม่ตรงตามฟ้อง
การที่วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดหรือเกิดเหตุวันใดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจะต้องพิจารณา จากคำพยานหลักฐาน ทั้งหมดรวมกันแล้ว จึงจะชี้ขาดฟังเป็นข้อเท็จจริงว่าเหตุเกิดหรือจำเลยกระทำผิดวันใดแน่ หาใช่ว่าถ้าพยานโจทก์ คนหนึ่งหรือสองคนเบิกความถึงวันเกิดเหตุแตกต่างไปจากวันที่กล่าวในฟ้องแล้ว จะปรับเอาว่าข้อเท็จจริงตามทาง พิจารณาต่างกับฟ้องหรือว่าฟ้องผิดวันหาได้ไม่.
แม้พยานบุคคลถึง 2 คนเบิกความถึงวันเกิดเหตุผิดจากวันที่กล่าวในฟ้อง แต่ก็เป็นข้อถ้อยคำที่เลื่อนลอยไม่มีหลัก ฐานประกอบ และเบิกหลังจากวันเกิดเหตุนานซึ่งย่อมพลั้งเผลอผิดพลาด แต่โจทก์มีพยานหลักฐานอีกมากที่จะ
พิศูจน์ให้เป็นยุติได้ว่าวันเกิดเหตุตรงตามที่กล่าวในฟ้อง เช่นนี้ศาลก็ย่อมฟังว่าวันเกิดเหตุตรงตามฟ้อง./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฐานพยานเท็จต้องเสียหายโดยตรงจากพยานหลักฐานนั้นก่อน จึงจะฟ้องได้
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยให้โอนที่ดินให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา จำเลยสมคบกับพวกกระทำพยานหลักฐานเท็จ โดยจำเลยทำสัญญากู้เงินผู้อื่นแล้วให้ผู้อื่นมาฟ้องเรียกเงินกู้ต่อศาลและจำเลยยอมความยอมใช้เงินตามสัญญากู้ ซึ่งความจริงจำเลยไม่ได้เป็นหนี้สินตามสัญญากู้นั้นเลยดังนี้ เพียงเท่านี้ โจทก์ยังไม่ได้รับความเสียหายอย่างใดย่อมไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานกระทำพยานหลักฐานเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 157 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องยักยอกทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดชัดเจน และการหลอกลวงขายของเป็นความผิดตามกฎหมาย
ฟ้องหาว่า จำเลยยักยอกทรัพย์ แต่มิได้ระบุวันเวลาที่กล่าวหา เป็นแต่ระบุเดือนปีที่กล่าวหาทั้งเดือน และไม่ได้บรรยายด้วยว่าจำเลยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษาหรือเก็บรักษาทรัพย์หรือจัดการทรัพย์อย่างใดๆ นั้นศาลย่อมไม่รับพิจารณาข้อหาฐานยักยอกทรัพย์
ฟ้องหาว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงโจทก์ว่าจำเลยเป็นเจ้าของตู้เย็น ขอขายให้โจทก์ โจทก์หลงเชื่อรับซื้อไว้ ดังนี้ แม้จะมิได้กล่าวว่าหลงเชื่อว่าอย่างไรก็พอเข้าใจได้ว่าหลงเชื่อว่าเป็นทรัพย์ของจำเลยตามที่ใช้อุบายหลอกลวงนั้น คำว่าใช้อุบายหลอกลวงว่าจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ก็พอเข้าใจได้ว่า จำเลยเอาความเท็จมากล่าวว่าเป็นของจำเลย และเมื่อพิจารณาประกอบฟ้องอีกข้อหนึ่ง ที่ว่าโจทก์ไปที่ร้านค้าจำเลย ปรากฏว่าสิ่งของทั้งหมดไม่มีอยู่ในร้าน ถามจำเลยจำเลยว่าของเหล่านี้เดิมจำเลยเช่ามาจากเจ้าของ เจ้าของเอาไปหมดแล้ว เป็นการแสดงว่า ของที่กล่าวไม่ใช่ของจำเลย แต่จำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่าเป็นของจำเลย และขายให้โจทก์ จึงเป็นฟ้องที่ศาลควรรับฟ้องไว้พิจารณาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่การขายฝากและการฟ้องร้องเมื่อเกินกำหนดสัญญา
คดีที่ศาลนัดชี้สองสถานไว้ แต่ถึงวันนัด โจทก์จำเลยต่างแถลงไม่มีทางปรองดองกัน ขอให้นัดพิจารณาไป โจทก์รับเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเพียงเท่านี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183ไม่ ฉะนั้นคู่ความจึงมีสิทธิขอแก้ฟ้องหรือคำให้การได้ก่อนวันสืบพยาน
ขายฝากทรัพย์ไว้แก่เขาแล้วได้ติดต่อขอไถ่ถอนภายในกำหนดเขารับว่าจะรับการไถ่ถอน แต่ถึงกำหนด ก็ไม่มาผู้ขายฝากจึงร้องต่ออำเภอท้องที่ และนำเงินไปเพื่อไถ่ถอนที่อำเภอก่อนครบกำหนดตามสัญญา ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่การขายฝากภายในกำหนดโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้ผู้รับซื้อฝากรับการไถ่ถอนการขายฝากได้แม้จะฟ้องเมื่อเกินกำหนดสัญญาไปก็ดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิซื้อคืนที่ดินภายในกำหนดระยะเวลาตามสัญญา แม้ฟ้องหลังหมดกำหนดก็ชอบ
โจทก์ขายนาให้จำเลยแล้วมีข้อสัญญากันว่า ต่อไปในวันข้างหน้าในระยะครบ 2 ปีเป็นจำนวนพ.ศ.2493 หรือ 2494 ถ้าโจทก์นำเงินมาซื้อคืนได้ จำเลยจะต้องขายนาคืนให้ นั้นย่อมหมายความว่า โจทก์มีสิทธิซื้อคืนได้ภายในระยะ 2 ปีนับแต่วันทำสัญญากันนั่นเอง สุดแต่จะไปครบ2 ปี ในปี พ.ศ.2493 หรือ พ.ศ.2494
โจทก์ฟ้องว่า ได้ไปขอซื้อนาคืนจากจำเลยในต้น พ.ศ. 2494 แต่จำเลยไม่ยอมขายคืนให้ ฯลฯ จำเลยไม่ได้ให้การกล่าวถึงหรือปฏิเสธความข้อนี้ประการใด จึงต้องถือว่าจำเลยรับในข้อเท็จจริงข้อที่โจทก์ฟ้องข้อนี้แล้ว
โจทก์ขายนาให้จำเลยโดยมีข้อสัญญากันว่า โจทก์มีสิทธิขอซื้อคืนได้ภายในกำหนด 2 ปี ครั้นต่อมาโจทก์ได้ขอซื้อคืนภายในระยะเวลา 2 ปีอันเป็นระยะเวลาที่โจทก์มีสิทธิขอซื้อคืนได้ เมื่อจำเลยไม่ยอมขาย ย่อมถือได้ว่าจำเลยผิดสัญญา โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาได้และโจทก์จะยื่นฟ้องเมื่อพ้นกำหนด 2 ปีแล้ว ก็ได้เพราะโจทก์ได้ขอซื้อคืนไว้ภายในระยะ 2 ปีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของนาฟ้องคืนนาได้ทันที แม้ยังไม่ครบ 60 วัน เหตุเป็นคนละเรื่องกับคำสั่ง คณะกรรมการอำเภอ
คณะกรรมการอำเภอมีคำสั่งให้ผู้เช่านาคืนนาที่เช่าให้แก่เจ้าของนาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 แต่ผู้เช่านาขัดขืนไม่ยอมคืนและยังคงเข้าทำนานั้นอยู่ต่อไปอีกเช่นนี้ เจ้าของนาชอบที่จะเสนอคดีพิพาทนั้นต่อศาลได้ทันที ไม่จำต้องรอให้พ้นกำหนด 60 วันตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 มาตรา 14 เพราะกรณีเป็นคนละเรื่องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดกโดยไม่สุจริตไม่ทำให้กรรมสิทธิของทายาทร่วมเสียไป สามารถฟ้องให้ศาลใส่ชื่อเป็นเจ้าของร่วมได้
ทายาทลำดับเดียวกันได้รับมรดดกเป็นที่ดินแล้ว ต่างได้ครอบครองเป็นเจ้าของร่วมกันมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว โดยยังมิได้โอนโฉนดกัน ครั้งภายหลังทายาทคนหนึ่งไปประกาศขอรับมรดกใส่ชื่อตนเป็นเจ้าของเสียแต่ผู้เดียว ดังนี้ เมื่อได้ความว่า การที่เพราะเชื่อถ้อยคำของทายาทคนแรกว่าจะลงชื่อตนเป็นผู้รับมรดกด้วย ฉะนั้นการรับมรดกของทายาทคนแรกจึงเป็นไปโดยไม่สุจริต หาทำให้ทายาทอีกคนหนึ่งขาดกรรมสิทธิในที่ดินมรดกนั้นไม่ ทายาทผู้นั้นมีสิทธิฟ้องของให้ศาลใส่ชื่อตนเป็นเจ้าของร่วมด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนในวันทำสัญญา แต่แก้ไขให้ถูกต้องก่อนฟ้อง ไม่กระทบการใช้สัญญากู้เป็นหลักฐาน
สัญญากู้ปิดอากรแสตมป์ในวันทำสัญญา ขาดอัตราไป 2 บาทต่อมาในวันยื่นฟ้อง ผู้ให้กู้ซึ่งเป็นโจทก์ปิดเพิ่มอีก 2 บาท ครบตามอัตราที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้วดังนี้ ย่อมใช้สัญญากู้นั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้ มิจำจะต้องเสียอากรและเงินเพิ่มอากรเพราะการที่จะรับผิดเสียอากรเพิ่มขึ้นเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ไม่กระทบกระทั่งถึงการที่จะฟังตราสารนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาสามัญ: ไม่ต้องมีผู้เสียหายร้องทุกข์ อัยการมีอำนาจฟ้องได้
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 132 นั้นมิใช่เป็นความผิดต่อส่วนตัว คดีชะนิดนี้พนักงานอัยการมีอำนาจยกขึ้นว่ากล่าวฟ้องร้องได้ โดยมิจำเป็นต้องรับคำทุกข์จากผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกที่ไม่ถูกต้องและการขอเป็นผู้จัดการมรดกใหม่
ฟ้องอ้างว่า จำเลยเข้าจัดการมรดกของผู้ตายโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอให้ถอดถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตาย และตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการแทนนั้น เมื่อปรากฏว่าทรัพย์อันอ้างว่าเป็นมรดกนั้นจะมีอยู่หรือไม่ก็ไม่ทราบ ทั้งอ้างว่าจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกโดยไม่ชอบอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุอันใดที่ศาลจะต้องพิจารณาในข้อถอดถอนจำเลย และตั้งโจทก์ในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกที่ไม่ปรากฏว่ามีอยู่หรือไม่
of 100