คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีมรดก: การขาดข้อโต้แย้งสิทธิและผลกระทบต่อสิทธิของโจทก์
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายซึ่งเป็นบิดา โดยเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้ว โจทก์มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตาย แต่จำเลยอ้างว่าโจทก์ไม่มีสิทธิรับมรดก เพราะโจทก์มิใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายและขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายเช่นนี้คำฟ้องของโจทก์มิได้มีคำขอเกี่ยวกับสิทธิในมรดกมิได้แสดงให้ปรากฏว่าโจทก์ได้ถูกโต้แย้งสิทธิหรือการกระทำของจำเลยมีผลกระทบกระเทือนต่อสิทธิของโจทก์อย่างใดโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องและอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นกล่าวในชั้นฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกทายาทหลายคน แม้มีทายาทบางส่วนไม่ร้องสอด ไม่ทำให้สิทธิส่วนแบ่งของทายาทอื่นเปลี่ยนแปลง
โจทก์มีพี่น้องร่วมบิดามารดาซึ่งเป็นทายาทลำดับผู้สืบสันดานเช่นเดียวกันรวม 7 คน แม้ ฮ. ทายาทคนหนึ่งจะถึงแก่กรรมแล้ว แต่ยังมีผู้สืบสันดานรับมรดกแทนที่ ดังนั้นต้องแบ่งมรดกเป็น 7 ส่วนการที่ทายาทอีก 5 คน มิได้ร้องสอดเข้ามาในคดีนี้ไม่เป็นเหตุให้โจทก์และจำเลยมีสิทธิได้รับมรดกทั้งหมดเพียง 2 คน คนละครึ่งโจทก์คงได้รับส่วนแบ่งเพียง 1 ใน 7 ตามสิทธิของตนและกรณีเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแบ่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นที่มิได้ร้องสอดเข้ามาในคดีอันจะเป็นการต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1749

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: ฟ้องคดีเกิน 10 ปี นับจากเจ้ามรดกถึงแก่กรรม และไม่มีการครอบครอง
โจทก์ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนด 10 ปี นับแต่เจ้ามรดกถึงแก่กรรมโดยโจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทด้วยตนเองและไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสุดท้ายจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ได้รู้หรือควรรู้ถึงความตายของเจ้ามรดกเมื่อไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดก: การครอบครองมรดกโดยทายาทและผู้ครอบครองแทนกันต่อเนื่อง แม้พ้นกำหนดอายุความตามกฎหมาย
เมื่อบิดาถึงแก่กรรม ทายาทมิได้ขอแบ่งมรดกหากแต่มารดา ได้ครอบครองที่ดินพิพาททั้งเพื่อตนเองและแทนบุตรทุกคน เมื่อมารดา ถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ กับ ส.ซึ่งต่างก็เป็นบุตรยังคงครอบครองที่ดินพิพาทร่วมกันและแทนกันตลอดมา โจทก์จึงมีสิทธิที่จะฟ้องให้แบ่งที่ดินพิพาทอันเป็นมรดกของบิดามารดาได้ตาม มาตรา1748แม้ว่าจะเป็นเวลาภายหลังที่บิดามารดาถึงแก่กรรมไปแล้ว 40 ปีเศษและ 4 ปีเศษ ตามลำดับ ล่วงพ้นกำหนดเวลาตาม มาตรา1754 แล้วก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกชั่วคราว ต้องมีเหตุผลสมควร มิใช่เพียงเพื่อประโยชน์ในการจัดการมรดกของผู้ถูกเสนอเท่านั้น
คดีพิพาทกันเรื่องแต่งตั้งผู้จัดการมรดก จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายเป็นการชั่วคราวโดยอ้างว่า จำเลยเป็นทายาทตามพินัยกรรมและเจ้ามรดกตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ถ้าจำเลยไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกชั่วคราว กองมรดกจะได้รับความเสียหาย ดังนี้ ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะแต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกชั่วคราว เพราะโจทก์จำเลยพิพาทกันเพียงว่า โจทก์หรือจำเลยคนใดคนหนึ่งสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย มิได้พิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องเอาทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายแต่อย่างใด ประโยชน์ของจำเลยอยู่ที่การจะได้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมูลที่ดินมรดก: การคิดค่าธรรมเนียมจากราคาทรัพย์สินทั้งหมด และการแบ่งส่วนกรรมสิทธิ์
การคิดค่าธรรมเนียมการขายโดยวิธีประมูลระหว่างคู่ความว่าเป็นจำนวนเท่าใดนั้น จะต้องคิดจากราคาทรัพย์สินทั้งหมดที่ขายได้ โดยไม่ยกเว้นให้แก่ส่วนนอกที่พิพาท ส่วนคู่ความฝ่ายใดจะต้องรับผิดเพื่อค่าฤชาธรรมเนียมที่คิดไว้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่คิดหักค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับจากทรัพย์ส่วนที่มิได้เป็นทรัพย์พิพาท จึงถูกต้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิรับมรดกของบุตรบุญธรรม vs น้องร่วมบิดามารดา: ผู้มีส่วนได้เสียในการจัดการมรดก
บุตรผู้เยาว์ทั้งสามของผู้ร้อง เป็นบุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย จึงถือว่าเป็นผู้สืบสันดานของผู้ตายเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 และเป็นทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิได้รับมรดกในลำดับที่ 1 ตามมาตรา1629. ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นเพียงน้องร่วมบิดามารดาเดียวกับผู้ตาย ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย ตามมาตรา1630 จึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตามมาตรา 1713
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ปกครองของบุตรผู้เยาว์ตามคำสั่งศาลเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงในการจัดการมรดก ร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำขอในฟ้องมรดก: ศาลอุทธรณ์ไม่อาจพิพากษาเกินคำขอ แม้ครอบครองร่วมกัน
โจทก์จำเลยครอบครองที่พิพาทร่วมกันตลอดมา แม้โจทก์จะฟ้องขอแบ่งมรดกที่พิพาทเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตายคดีโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความ
คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ขอส่วนแบ่งมรดกเพียง 1 ใน 5 ส่วน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้โจทก์ได้ส่วนแบ่งมรดก 1 ใน 2 ส่วนไม่ได้เพราะเกินคำขอในคำฟ้องของโจทก์(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 259/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุตรบุญธรรมก่อน บรรพ 5 ไม่มีสิทธิมรดก หากมิได้จดทะเบียนตามกฎหมาย
บุตรบุญธรรมก่อนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่มิได้ จดทะเบียนตามบรรพ 5 มิได้มีฐานะอย่างเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรม ไม่ใช่ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3122/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเกี่ยวกับสถานะทายาทเพื่อหวังผลประโยชน์ในการจัดการมรดก เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียประโยชน์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 จำคุกจำเลย 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
แม้โจทก์จะขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนจำเลยแถลงหมดพยานแล้วก็ตาม ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งรับระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และรับฟังเอกสารที่อ้างนั้นมาวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228
การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรง และเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งศาลจำต้องวินิจฉัย การที่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกว่าผู้ตายไม่มีภรรยาและบุตร และศาลเชื่อตามคำเบิกความ เป็นผลให้จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้ตายมีสิทธิรับมรดกและศาลได้แต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานลำดับต้นและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเป็นผู้เสียประโยชน์ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
of 179