คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อตกลง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงหักทอนบัญชีเบิกเงินกับดอกเบี้ย: บัญชีเดินสะพัดไม่ต้องทำเป็นหนังสือ
จำเลยออกเช็คเบิกเงินจากธนาคารโจทก์ ถ้าหักทอนบัญชีเงินฝากจำเลยเบิกเงินไปเท่าใด จำเลยยอมเสียดอกเบี้ยเป็นรายเดือนเท่าที่ไม่นำเงินเข้าบัญชีหักทอนกัน ข้อตกลงดังนี้เข้าลักษณะบัญชีเดินสะพัดตามมาตรา 856 ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์บังคับให้ชำระหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเบื้องต้นยังไม่เป็นสัญญา จำเลยต้องคืนมัดจำพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
เอกสารว่ารับเงินมัดจำแล้ว จะทำสัญญาก่อสร้างให้ถูกต้องในวันที่ 20 ฯ และชำระเงินอีกจำนวนหนึ่ง ดังนี้โจทก์จำเลยเถียงกันเรื่องรายละเอียดได้ตกลงกันแล้วหรือไม่กรณีจึงเป็นที่สงสัย ยังไม่นับว่ามีสัญญากัน จำเลยต้องคืนมัดจำและเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง ซึ่งถือว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่วันนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2694/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันตามคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง และข้อตกลงรอฟังคำพิพากษาคดีอาญา
โจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีที่ผู้ว่าคดีศาลแขวงเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีอาญา โจทก์จำเลยจึงต้องผูกพันตามคำพิพากษาในคดีนั้น เพราะถือว่าผู้ว่าคดีฟ้องคดีที่โจทก์เป็นผู้เสียหายนั้นเอง(อ้างฎีกาที่ 1134-1135/2509)
โจทก์จำเลยตกลงกันในคดีนี้ว่าขอให้ศาลรอฟังคำพิพากษาถึงที่สุดของคดีอาญาเสียก่อนถ้า ผลที่สุดของคดีอาญาเป็นอย่างไร โจทก์จำเลยจะถือตาม ดังนี้ เมื่อศาลในคดีอาญาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้ประมาทโจทก์จะรื้อฟื้นข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นฝ่ายประมาท ขอให้สืบพยานในข้อนี้ขึ้นอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1888/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงคืนรถยนต์พร้อมชำระหนี้ส่วนที่เหลือ ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่เป็นการแปลงหนี้
โจทก์ขายรถยนต์ให้แก่จำเลย แล้วจำเลยไม่ชำระราคาให้โจทก์ครบตามกำหนดที่ตกลงกันไว้ โจทก์ทวงถาม โจทก์กับจำเลยจึงตกลงกันว่า จำเลยยอมคืนรถยนต์ที่ซื้อมาให้โจทก์และยอมชำระเงินที่ค้าง 26,000 บาทให้โจทก์ด้วยข้อตกลงเช่นนี้ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะไม่ใช่สัญญาระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน แต่เป็นเพียงการแปลงหนี้ระหว่างโจทก์กับจำเลยเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1888/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงคืนรถยนต์พร้อมชำระหนี้ที่ค้าง ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่เป็นการแปลงหนี้
โจทก์ขายรถยนต์ให้แก่จำเลย แล้วจำเลยไม่ชำระราคาให้โจทก์ครบตามกำหนดที่ตกลงกันไว้ โจทก์ทวงถาม โจทก์กับจำเลยจึงตกลงกันว่า จำเลยยอมคืนรถยนต์ที่ซื้อมาให้โจทก์และยอมชำระเงินที่ค้าง 26,000 บาทให้โจทก์ด้วยข้อตกลงเช่นนี้ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะไม่ใช่สัญญาระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน แต่เป็นเพียงการแปลงหนี้ระหว่างโจทก์กับจำเลยเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1222/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน: สิทธิเรียกร้องโดยตรง & ดอกเบี้ย - จำเป็นต้องมีข้อตกลง
โจทก์ผู้ทรงใช้สิทธิเรียกร้องโดยตรงกับจำเลยผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินมิได้เรียกร้องกับผู้สลักหลังหรือบุคคลอื่นซึ่งต้องรับผิดตามตั๋วนั้น การใช้สิทธิดังกล่าว จึงไม่ใช่การใช้สิทธิไล่เบี้ยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 968
เมื่อจำเลยผู้ออกตั๋วไม่ได้เขียนข้อความกำหนดให้เรียกดอกเบี้ยไว้โจทก์ย่อมเรียกดอกเบี้ยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งที่ดินระหว่างการพิจารณาคดี: ศาลมีอำนาจพิพากษาตามข้อตกลงได้
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องที่ดินก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาคู่ความแถลงไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลว่า "ตกลงกันได้แล้วโดยตกลงกันแบ่งที่ดินคนละครึ่ง โดยจำเลยได้ด้านทิศเหนือ โจทก์ได้ด้านทิศใต้ โจทก์จำเลยตกลงจะไปแบ่งกันเอง และจะแถลงให้ศาลทราบ" ต่อมาโจทก์ได้ยื่นคำร้องอ้างว่าข้อตกลงนั้นทำให้โจทก์เสียเปรียบ เพราะจะได้แต่ที่ดอนซึ่งเป็นป่า ขอให้เรียกจำเลยมาทำความตกลงกันใหม่จำเลยแถลงคัดค้านว่า ข้อตกลงนั้นเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ขอให้ศาลพิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ดังนี้ ศาลชอบที่จะพิพากษาไปตามข้อตกลงนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 เพราะข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงกันในประเด็นแห่งคดีโดยมิได้มีการถอนคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงประนีประนอมในศาล: ศาลมีอำนาจพิพากษาตามข้อตกลงได้ แม้ยังไม่เด็ดขาด
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องที่ดิน ก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษา คู่ความแถลงไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลว่า'ตกลงกันได้แล้ว โดยตกลงกันแบ่งที่ดินคนละครึ่ง โดยจำเลยได้ด้านทิศเหนือ โจทก์ได้ด้านทิศใต้ โจทก์จำเลยตกลงจะไปแบ่งกันเอง และจะแถลงให้ศาลทราบ'ต่อมาโจทก์ได้ยื่นคำร้องอ้างว่าข้อตกลงนั้นทำให้โจทก์เสียเปรียบ เพราะจะได้แต่ที่ดอนซึ่งเป็นป่า ขอให้เรียกจำเลยมาทำความตกลงกันใหม่จำเลยแถลงคัดค้านว่า ข้อตกลงนั้นเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ขอให้ศาลพิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ดังนี้ ศาลชอบที่จะพิพากษาไปตามข้อตกลงนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 เพราะข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงกันในประเด็นแห่งคดีโดยมิได้มีการถอนคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งวันตอกเข็มเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นเพียงข้อตกลงเพื่อขจัดข้อโต้แย้งเรื่องระยะเวลาก่อสร้าง หากมีการชำระเงินค่าตอกเข็มแล้ว การไม่แจ้งถือไม่ได้ว่าผิดสัญญา
ผู้ให้เช่าสร้างกับผู้เช่าสร้างตกลงกันว่า "เมื่อครบ 1ปีนับแต่วันที่ผู้เช่าสร้างลงมือตอกเข็มแล้ว ผู้เช่าสร้างยังก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญา ผู้เช่าสร้างยินยอมให้ค่าตอบแทนแก่ผู้ให้เช่าสร้างจนกว่าจะสร้างเสร็จ เพื่อขจัดข้อโต้เถียงในเรื่องระยะเวลาก่อสร้างหนึ่งปี ว่าจะครบกำหนดวันใด ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าวันแรกที่ผู้เช่าสร้างลงมือตอกเข็ม ผู้เช่าสร้างต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าสร้างทราบเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเป็นวันลงมือตอกเข็ม เป็นการเริ่มต้นการก่อสร้าง" การที่กำหนดให้ผู้เช่าสร้างแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรนี้ไว้เห็นว่า เพียงเพื่อขจัดข้อโต้เถียงในการเริ่มนับระยะเวลาเท่านั้นซึ่งถ้าผู้เช่าสร้างยังก่อสร้างไม่เสร็จภายในกำหนด ก็จะต้องเสียค่าตอบแทนให้ผู้ให้เช่าสร้าง และยังมีสัญญาบังคับให้จำเลยซื้ออาคารเก่าโดยชำระเงินในวันทำสัญญาจำนวนหนึ่งชำระในวันตอกเข็มอีกจำนวนหนึ่งด้วย ดังนี้ เมื่อได้ความว่าจำเลยได้ชำระเงินในวันตอกเข็มให้โจทก์ตามใบรับเงินวันที่ 6กรกฎาคม 2510 แล้ว ข้อที่จำเลยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรถึงวันตอกเข็ม ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยผิดสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2488/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงให้ศาลชี้ขาดข้อพิพาทที่ดินและการไม่ปฏิบัติตามคำชี้ขาด
การที่คู่ความตกลงกันให้ศาลไปตรวจดูที่พิพาท แล้วให้ศาลชี้ขาดตามที่เห็นสมควรโดยคู่ความยินยอมตามที่ศาลชี้ขาดนั้นหาใช่เป็นการตกลงกันหรือประนีประนอมยอมความกันในประเด็นแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 ไม่ เพราะศาลยังต้องชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีอีกว่าที่พิพาทควรจะเป็นของใครเพียงใด คดีจึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 138 แต่เมื่อศาลตรวจดูที่พิพาทแล้ว เห็นว่า ไม่อาจชี้ชัดลงไปได้ว่าเป็นของฝ่ายใด จึงพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทออกเป็นสองส่วนให้โจทก์จำเลยได้ฝ่ายละส่วน โจทก์จะอุทธรณ์ว่าที่พิพาทมีลักษณะเหมือนของโจทก์ ควรให้โจทก์ชนะคดีตามฟ้อง ดังนี้หาได้ไม่ เพราะเท่ากับไม่ยอมปฏิบัติตามคำชี้ขาดของศาลตามที่ตกลงไว้นั่นเอง เมื่อไม่ปรากฏว่าคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นเป็นไปโดยมิชอบ ศาลสูงก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่น
of 118