พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,314 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าชดเชยจากการเลิกจ้าง สามารถส่งต่อให้ทายาทได้ตามกฎหมาย
จำเลยจ้างบิดาโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ ต่อมาจำเลยเลิกจ้างเพราะเหตุเกษียณอายุ แต่ไม่จ่ายค่าชดเชยให้ บิดาโจทก์ถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรม ทายาททั้งหลายย่อมมีสิทธิเรียกร้องเอาค่าชดเชยซึ่งจำเลยมิได้จ่ายให้โจทก์ได้ เพราะเป็นสิทธิเรียกร้องการชำระหนี้โดยทำนองซึ่งแต่ละคนอาจจะเรียกให้ชำระหนี้สิ้นเชิงได้ตามมาตรา 298 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โจทก์ซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่ง จึงมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกทายาทหลายคน แม้มีทายาทบางส่วนไม่ร้องสอด ไม่ทำให้สิทธิส่วนแบ่งของทายาทอื่นเปลี่ยนแปลง
โจทก์มีพี่น้องร่วมบิดามารดาซึ่งเป็นทายาทลำดับผู้สืบสันดานเช่นเดียวกันรวม 7 คน แม้ ฮ. ทายาทคนหนึ่งจะถึงแก่กรรมแล้ว แต่ยังมีผู้สืบสันดานรับมรดกแทนที่ ดังนั้นต้องแบ่งมรดกเป็น 7 ส่วนการที่ทายาทอีก 5 คน มิได้ร้องสอดเข้ามาในคดีนี้ไม่เป็นเหตุให้โจทก์และจำเลยมีสิทธิได้รับมรดกทั้งหมดเพียง 2 คน คนละครึ่งโจทก์คงได้รับส่วนแบ่งเพียง 1 ใน 7 ตามสิทธิของตนและกรณีเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแบ่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นที่มิได้ร้องสอดเข้ามาในคดีอันจะเป็นการต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1749
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก: การครอบครองมรดกโดยทายาทและผู้ครอบครองแทนกันต่อเนื่อง แม้พ้นกำหนดอายุความตามกฎหมาย
เมื่อบิดาถึงแก่กรรม ทายาทมิได้ขอแบ่งมรดกหากแต่มารดา ได้ครอบครองที่ดินพิพาททั้งเพื่อตนเองและแทนบุตรทุกคน เมื่อมารดา ถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ กับ ส.ซึ่งต่างก็เป็นบุตรยังคงครอบครองที่ดินพิพาทร่วมกันและแทนกันตลอดมา โจทก์จึงมีสิทธิที่จะฟ้องให้แบ่งที่ดินพิพาทอันเป็นมรดกของบิดามารดาได้ตาม มาตรา1748แม้ว่าจะเป็นเวลาภายหลังที่บิดามารดาถึงแก่กรรมไปแล้ว 40 ปีเศษและ 4 ปีเศษ ตามลำดับ ล่วงพ้นกำหนดเวลาตาม มาตรา1754 แล้วก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้สิทธิครอบครองโดยอายุความ แม้พินัยกรรมไม่สมบูรณ์ โจทก์ครอบครองเพื่อตนเอง ไม่ใช่แทนทายาท
บ.ซึ่งเป็นบิดาจำเลยทำพินัยกรรมยกนาพิพาทให้โจทก์โจทก์ได้เข้าครอบครองทำนาพิพาทตั้งแต่นั้นมา แม้พินัยกรรมจะไม่สมบูรณ์โจทก์ไม่ได้สิทธิตามพินัยกรรม แต่เมื่อบ.ตายโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนเอง ไม่ได้ครอบครองแทนทายาทของ บ.. โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองโดยไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คู่ความผูกพันตามคำพิพากษา: แม้ระบุฐานะผู้จัดการมรดก แต่ฟ้องฐานะทายาทก็ต้องผูกพันตามคำพิพากษา
แม้ในช่องคู่ความในคดีเดิม โจทก์จะระบุว่าจำเลยทั้งสองในฐานะผู้จัดการมรดกของ ป. เป็นจำเลย แต่ตามเนื้อหาของคำฟ้อง แสดงว่าโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองในฐานะทายาทผู้ครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ตายด้วย ผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวจึงเป็นคู่ความในฐานะส่วนตัวต้องผูกพันตามคำพิพากษาดังกล่าว ผู้ร้องจะมาอ้างในคดีใหม่อีกว่าทรัพย์พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนหลังคู่สัญญาสิ้นชีวิต สิทธิและหน้าที่ตกทอดแก่ทายาทตามกฎหมาย
สัญญามีใจความว่า เจ้าของที่ดินให้จำเลยสร้างอาคารในที่ดินแล้วเรียกค่าก่อสร้างจากผู้เช่าอาคารอาคารที่สร้างขึ้นยอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้สร้าง สัญญานี้เป็นสัญญาต่างตอบแทนแม้ต่อมาผู้ให้สร้างจะตายตามกฎหมายหรือโดยสภาพก็ไม่ใช่เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาย่อมตกทอดยังทายาท ทายาทต้องผูกพันตามสัญญานั้น ผู้จัดการมรดกถูกฟ้องตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3122/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเกี่ยวกับสถานะทายาทเพื่อหวังผลประโยชน์ในการจัดการมรดก เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียประโยชน์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 จำคุกจำเลย 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
แม้โจทก์จะขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนจำเลยแถลงหมดพยานแล้วก็ตาม ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งรับระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และรับฟังเอกสารที่อ้างนั้นมาวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228
การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรง และเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งศาลจำต้องวินิจฉัย การที่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกว่าผู้ตายไม่มีภรรยาและบุตร และศาลเชื่อตามคำเบิกความ เป็นผลให้จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้ตายมีสิทธิรับมรดกและศาลได้แต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานลำดับต้นและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเป็นผู้เสียประโยชน์ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
แม้โจทก์จะขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนจำเลยแถลงหมดพยานแล้วก็ตาม ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งรับระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และรับฟังเอกสารที่อ้างนั้นมาวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228
การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรง และเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งศาลจำต้องวินิจฉัย การที่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกว่าผู้ตายไม่มีภรรยาและบุตร และศาลเชื่อตามคำเบิกความ เป็นผลให้จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้ตายมีสิทธิรับมรดกและศาลได้แต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานลำดับต้นและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเป็นผู้เสียประโยชน์ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3122/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเกี่ยวกับสถานะทายาทเพื่อประโยชน์ในการจัดการมรดกเข้าข่ายความผิดฐานเบิกความเท็จ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177จำคุกจำเลย 2 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
แม้โจทก์จะขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนจำเลยแถลงหมดพยานแล้วก็ตาม ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งรับระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และรับฟังเอกสารที่อ้างนั้นมาวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 228
การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือไม่เป็นประเด็นโดยตรง และเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งศาลจำต้องวินิจฉัย การที่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ว่าผู้ตายไม่มีภรรยาและบุตร และศาลเชื่อตามคำเบิกความ เป็นผลให้จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้ตายมีสิทธิรับมรดกและศาลได้แต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานลำดับต้นและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเป็นผู้เสียประโยชน์ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
แม้โจทก์จะขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนจำเลยแถลงหมดพยานแล้วก็ตาม ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งรับระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และรับฟังเอกสารที่อ้างนั้นมาวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 228
การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือไม่เป็นประเด็นโดยตรง และเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งศาลจำต้องวินิจฉัย การที่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ว่าผู้ตายไม่มีภรรยาและบุตร และศาลเชื่อตามคำเบิกความ เป็นผลให้จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้ตายมีสิทธิรับมรดกและศาลได้แต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานลำดับต้นและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเป็นผู้เสียประโยชน์ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2858/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดก: กรณีบุตรต่างบิดาเป็นทายาทร่วมกัน
โจทก์และจำเลยเป็นบุตรของผู้วายชนม์แต่ต่างบิดากันย่อมเป็นเหตุผลอันหนึ่งที่สมควรตั้งบุคคลทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันเพื่อจะได้ช่วยกันระวังรักษาผลประโยชน์ของทายาทส่วนข้อที่ว่าผู้วายชนม์ได้ทรัพย์มรดกมาภายหลังจำเลยเกิดนั้น เมื่อจำเลยเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดก ก็ไม่ทำให้ข้อวินิจฉัยดังกล่าวเปลี่ยนแปลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2786/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้กองมรดกมีอำนาจฟ้องทายาท แม้ทายาทได้สละมรดกไปแล้ว เพื่อบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินในกองมรดก
โจทก์เป็นเจ้าหนี้กองมรดกย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นทายาทของผู้ตายให้ร่วมกันนำเงินและทรัพย์สินในกองมรดกมาชำระหนี้แก่โจทก์ได้ เป็นกรณีที่เจ้าหนี้กองมรดกฟ้องบังคับสิทธิเรียกร้องต่อทายาท เพื่อให้ได้รับการชำระหนี้จากทรัพย์สินในกองมรดกแม้ต่อมาจำเลยทั้งสองได้สละมรดกเสียในระหว่างพิจารณา โจทก์ก็ยังมีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์มิได้ฟ้องให้จำเลยต้องรับผิดเป็นส่วนตัว หากแต่ฟ้องในฐานะเป็นทายาทและก็เพื่อให้โจทก์ได้รับการชำระหนี้จากทรัพย์สินในกองมรดกดังกล่าวแล้ว