พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,834 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิผู้อื่นโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงเพื่อปกป้องบิดาจากทำร้ายร่างกาย
การที่ผู้ตายซึ่งมีอายุ 30 ปี ทำร้ายบิดาจำเลยซึ่งมีอายุ 50 ปีโดยไม่มีทางสู้กันและผู้ตายกำลังจะกระทืบบิดาจำเลย ซ้ำอีกจำเลยอายุเพียง 16 ปี ใช้ปืนยิงผู้ตาย 1 นัด แล้วผู้ตายเข้าแย่งปืนจากจำเลยจนปืนลั่นอีก 1 นัด เป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของบิดาจำเลยให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงโดยพอสมควรแก่เหตุการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกาย: พยานหลักฐานไม่ชัดเจนว่าใครทำร้ายใคร ศาลยกฟ้อง
พยานหลักฐานโจทก์ได้ความเพียงว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 กับพวกฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ 3 ที่ 5 กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งชุลมุนทำร้ายกัน ยังฟังไม่ได้ชัดว่าใครทำร้ายใครอย่างไร จึงลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 5 ในข้อหาทำร้ายร่างกายตามฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกาย: พยานหลักฐานไม่ชัดเจนว่าใครทำร้ายใคร ทำให้ไม่สามารถลงโทษได้
พยานหลักฐานโจทก์ได้ความเพียงว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 กับพวกฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ 3 ที่ 5 กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งชุลมุนทำร้ายกันยังฟังไม่ได้ชัดว่าใครทำร้ายใครอย่างไร จึงลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 5 ในข้อหาทำร้ายร่างกายตามฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายร่วมกัน: การพิจารณาความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรม และการรอการลงโทษ
จำเลยกับพวกยืนล้อมผู้เสียหายทั้งสองอยู่ในห้องที่เกิดเหตุในระยะใกล้ ส่วนผู้เสียหายยืนอยู่ห่างกันเพียง 5 เมตร ครั้นผู้เสียหายทั้งสองถูกคนเอาผ้าคลุมศีรษะแล้ว จำเลยกับพวกก็กลุ้มรุมทำร้ายผู้เสียหายทั้งสองทันทีในเวลาใกล้ชิดกัน ตามพฤติการณ์พอถือว่าจำเลยได้ลงมือกระทำผิดพร้อมกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายร่วมกัน: พิจารณาความพร้อมกันของการกระทำเพื่อกำหนดว่าเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรม
จำเลยกับพวกยืนล้อมผู้เสียหายทั้งสองอยู่ในห้องที่เกิดเหตุในระยะใกล้ ส่วนผู้เสียหายยืนอยู่ห่างกันเพียง 5 เมตร ครั้นผู้เสียหายทั้งสองถูกคนเอาผ้าคลุมศรีษะแล้ว จำเลยกับพวกก็กลุ้มรุมทำร้ายผู้เสียหายทั้งสองทันทีในเวลาใกล้ชิดกันตามพฤติการณ์พอถือว่าจำเลยได้ลงมือกระทำผิดพร้อมกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1840/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด ศาลพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยกับพวกประมาณ 4-5 คนได้เข้ามาพูดจาหาเรื่องวิวาทกับผู้เสียหายโดยพวกจำเลยคนหนึ่งถามผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายตอบก็ชกผู้เสียหายแล้วชักมีดออกมาแทงที่ท้อง ขณะผู้เสียหายยืนงงอยู่ พวกของจำเลยอีกคนหนึ่งก็เข้ามาแทงซ้ำที่หน้าอก โดยจำเลยกับพวกที่เหลือกันพวกผู้เสียหายไว้ไม่ให้เข้าไปช่วย เป็นการแทงโดยมีโอกาสเลือกแทงผู้เสียหายมีบาดแผลที่หน้าท้องส่วนบนขวายาว 2 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ลึกเข้าไปในช่องท้องถูกลำไส้เล็ก แผลที่หน้าอกขวายาว 2 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ลึก 0.5 เซนติเมตร แพทย์ผู้ให้การรักษาเบิกความว่าต้องผ่าหน้าท้องเพื่อเย็บเส้นเลือดและลำไส้เล็กที่ขาดภายใน เลือดตกในช่องท้อง 150 ลูกบาศก์เซนติเมตรแผลที่หน้าอกติดซี่โครง ถ้าไม่ติดซี่โครงก็ทะลุปอดถ้ารักษาไม่ทันตายแน่นอน ลักษณะการแทงและผลการรักษาส่อแสดงว่ามีเจตนาจะฆ่าให้ตาย จำเลยกับพวกต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายภรรยาจนถึงแก่ความตาย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าเป็นการทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
จำเลยกับผู้ตายเป็นสามีภริยากัน วันเกิดเหตุจำเลยกลับจากทำงานถึงบ้านไม่พบผู้ตาย จึงตามไปพบผู้ตายที่แพของ อ. จำเลยถามผู้ตายว่าทำไมไม่กลับบ้าน ผู้ตายว่าไม่กลับจะทำไม จำเลยว่าข้าวปลาทำไมไม่หุง ปล่อยให้ลูกหุงกินเอง ผู้ตายจึงว่าหุงกินเองไม่เป็นก็ช่างแม่มัน จำเลยจึงตบหน้าผู้ตายตกจากเก้าอี้ล้มลงไปที่พื้น ผู้ตายลุกขึ้นได้ก็ไปหยิบมีดวิ่งเข้าหาจำเลย จำเลยจึงหยิบเขียงบนโต๊ะเหวี่ยงไปที่ผู้ตาย ถูกผู้ตายล้มลงไป มีเลือดออกที่ศีรษะ จำเลยเข้าประคองผู้ตายและพาไปส่งโรงพยาบาล ผู้ตายมีบาดแผลฉกรรจ์คือศีรษะบริเวณท้ายทอยแตก เป็นแผลยาว 13 เซนติเมตร กว้าง 2 เซนติเมตร ลึกจดกะโหลกศีรษะ ผู้ตายถึงแก่ความตายในคืนนั้น เพราะเลือดคั่งในสมอง ลักษณะบาดแผลที่จำเลยเหวี่ยงเขียงไปที่ผู้ตายในขณะที่ผู้ตายถือมีดวิ่งเข้าหาจำเลยไม่น่าจะทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ที่ท้ายทอยของผู้ตาย บาดแผลอาจจะเกิดจากการที่ผู้ตายหงายหลังล้มลงไปก็ได้ แต่ก็ได้ความว่าเหตุที่ผู้ตายล้มลงไปก็เพราะจำเลยเหวี่ยงเขียงไปที่ผู้ตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายภรรยาจนถึงแก่ความตาย ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ว่าเป็นการทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ไม่เข้าข้อยกเว้นป้องกันตัว
จำเลยกับผู้ตายเป็นสามีภริยากัน วันเกิดเหตุจำเลยกลับจากทำงานถึงบ้านไม่พบผู้ตายจึงตามไปพบผู้ตายที่แพของ อ. จำเลยถามผู้ตายว่าทำไมไม่กลับบ้าน ผู้ตายว่าไม่กลับจะทำไมจำเลยว่าข้าวปลาทำไมไม่หุงปล่อยให้ลูกหุงกินเองผู้ตายจึงว่าหุงกินเองไม่เป็นก็ช่างแม่มันจำเลยจึงตบหน้าผู้ตายตกจากเก้าอี้ล้มลงไปที่พื้น ผู้ตายลุกขึ้นได้ก็หยิบมีดวิ่งเข้าหาจำเลยจำเลยจึงหยิบเขียงบนโต๊ะเหวี่ยงไปที่ผู้ตาย ถูกผู้ตายล้มลงไป มีเลือดออกที่ศีรษะ จำเลยเข้าประคองผู้ตายและพาไปส่งโรงพยาบาลผู้ตายมีบาดแผลฉกรรจ์ คือ ศีรษะบริเวณท้ายทอยแตก เป็นแผลยาว 13 เซนติเมตร กว้าง 2 เซนติเมตร ลึกจดกะโหลกศีรษะผู้ตายถึงแก่ความตายในคืนนั้น เพราะเลือดคั่งในสมอง ลักษณะบาดแผลที่จำเลยเหวี่ยงเขียงไปที่ผู้ตายในขณะที่ผู้ตายถือมีดวิ่งเข้าหาจำเลยไม่น่าจะทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ที่ท้ายทอยของผู้ตาย บาดแผลอาจจะเกิดจากการที่ผู้ตายหงายหลังล้มลงไปก็ได้แต่ก็ได้ความว่าเหตุที่ผู้ตายล้มลงไปก็เพราะจำเลยเหวี่ยงเขียงไปที่ผู้ตายการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1637/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าจากพฤติกรรมร้ายแรงของสามี: ทำร้ายร่างกาย, ด่าทอ, คบชู้ และผลกระทบต่อบุตร
สามีตีภริยาบาดเจ็บ ด่าว่าโคตรพ่อโคตรแม่ เป็นการด่าภริยากับบุพการี มีสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาอย่างร้ายแรง ศาลพิพากษาให้หย่าตามคำฟ้องของภริยา บุตรหญิงอายุ 15 ปีควรอยู่ในปกครองมารดา ทั้งบิดาและมารดามีหน้าที่อุปการะบุตรด้วยกัน ศาลกำหนดให้สามีจ่ายเดือนละ 250 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน: ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
จำเลยเถียงกับผู้เสียหายเรื่องผู้เสียหายสงสัยว่าจำเลยเป็นชู้กับภริยาผู้เสียหาย จำเลยยิงผู้เสียหายด้วยปืนลูกซองสั้น 1 นัดในระยะ 1 วา เป็นแผลเล็กน้อยรักษาในโรงพยาบาล 2 วันก็กลับบ้านได้ แสดงว่าปืนไม่อาจทำให้ตายได้ เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,81 ไม่เป็นบันดาลโทสะหรือป้องกัน