คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,691 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3519/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามสัญญาจะซื้อขาย: ต่างฝ่ายต่างมีหนี้และสิทธิในการเรียกร้องให้ปฏิบัติตามสัญญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาบังคับให้จำเลยไปโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายโดยปลอดจำนองภายใน 90 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด โดยให้โจทก์ชำระเงินให้จำเลยจำนวน 12,800,000 บาท ในวันโอนกรรมสิทธิ์ เมื่อโจทก์จำเลยต่างไม่พร้อมที่จะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยปลอดการจำนองและชำระเงินกันตามกำหนด 90 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด และผลของคำพิพากษาเป็นการบังคับทั้งโจทก์และจำเลยเช่นนี้ การที่ศาลชั้นต้นเห็นว่า เมื่อฝ่ายโจทก์ไม่ชำระเงินให้จำเลย 12,800,000 บาท ภายใน 90 วัน นับแต่คดีถึงที่สุดจำเลยก็ไม่ต้องโอนที่ดินให้แก่โจทก์ตามสัญญาต่างตอบแทนแต่อย่างใด ก็เท่ากับเป็นการบังคับเอาแก่โจทก์ฝ่ายเดียว ทั้งที่จำเลยยังไม่สามารถโอนที่ดินให้แก่โจทก์โดยปลอดการจำนองได้ แม้กำหนดระยะเวลา 90 วัน ตามคำพิพากษาได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็มีเหตุที่โจทก์จะไม่ชำระเงินแก่จำเลยเพราะจำเลยยังไม่ไถ่ถอนจำนองที่ดินเพื่อโอนให้แก่โจทก์โดยปลอดการจำนองได้ ดังนั้นจำเลยจะยกเหตุดังกล่าวขึ้นเป็นข้ออ้างไม่ต้องโอนที่ดินแก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหาได้ไม่ เมื่อหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวเป็นกรณีที่ต่างฝ่ายต่างมีหนี้ต่อกันแล้วเช่นนั้น โจทก์จำเลยก็มีสิทธิร้องขอให้บังคับคดีต่อกันได้ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3519/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน: ศาลสั่งให้บังคับคดีทั้งสองฝ่ายเมื่อจำเลยยังไม่ได้ไถ่ถอนจำนอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์โดยปลอดจำนองภายใน90วันนับแต่คดีถึงที่สุดและให้โจทก์ชำระเงินให้จำเลยในวันโอนกรรมสิทธิ์แสดงว่าเป็นการบังคับทั้งโจทก์และจำเลยการที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าเมื่อโจทก์ไม่ชำระเงินให้จำเลยภายใน90วันนับแต่คดีถึงที่สุดจำเลยก็ไม่ต้องโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ทั้งที่จำเลยยังไม่สามารถโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์โดยปลอดจำนองได้เท่ากับเป็นการบังคับเอาแก่โจทก์ฝ่ายเดียวจำเลยจึงยกเหตุดังกล่าวขึ้นอ้างเพื่อไม่ต้องโอนที่ดินพิพาทหาได้ไม่โจทก์จำเลยจึงมีสิทธิร้องขอให้บังคับคดีต่อกันได้ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3507/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับชั้นการอุทธรณ์คำสั่งศาล: คำสั่งเกี่ยวกับบังคับคดีต้องอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ก่อน
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 292 (2) ซึ่งมิได้บัญญัติให้คู่ความอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไปยังศาลฎีกาได้เลย ดังนั้นโจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ตามลำดับชั้นศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 223 โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นไปยังศาลฎีกาโดยตรงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ประมูลซื้อทรัพย์บังคับคดีในการเพิกถอนการขายทอดตลาดครั้งใหม่ หากเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่แจ้งวันนัดและราคาต่ำกว่าเดิม
ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตามป.วิ.พ.มาตรา296วรรคสองมีความหมายกว้างกว่าบุคคลผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรา280เพราะมาตรา296วรรคสองมิได้เจาะจงตัวบุคคลไว้โดยเฉพาะเช่นมาตรา280 ผู้ร้องเป็นผู้ประมูลซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีในครั้งแรกโดยให้ราคาสูงสุดแต่ผู้ร้องไม่ชำระราคาเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ประกาศขายทอดตลาดเป็นครั้งที่สองมีผู้ให้ราคาสูงสุดซึ่งต่ำกว่าการขายทอดตลาดครั้งแรกผู้ร้องจึงต้องรับผิดในส่วนที่ขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา516และตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีพ.ศ.2522ข้อ88ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตามมาตรา296วรรคสองมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลอดที่ดำเนินการไปโดยฝ่าฝืนกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการแบ่งสินสมรสหลังหย่า แม้ตกลง 'เรื่องทรัพย์สินไม่มี' และการบังคับคดีกรรมสิทธิ์รวม
การที่โจทก์ลงลายมือชื่อรับทราบข้อตกลงหย่าว่า "เรื่องทรัพย์สินไม่มี" แต่ต่อมาภายหลังจดทะเบียนหย่าแล้วโจทก์ทราบว่ามีสินสมรสที่โจทก์มีสิทธิจะแบ่งได้ตามกฎหมาย โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขอแบ่ง แม้โจทก์จะตั้งสิทธิเรียกร้องในการขอแบ่งว่านิติกรรมหย่าเป็นโมฆียะ และคดีฟังไม่ได้ว่า ข้อตกลงหย่าเป็นโมฆียะก็ตาม
ในการแบ่งสินสมรสศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากันตาม ป.พ.พ. มาตรา 1533 ที่ศาลล่างพิพากษาให้จดทะเบียนโอนหุ้นให้โจทก์ครึ่งหุ้นนั้น แม้จะไม่อาจแบ่งแยกหุ้นออกเป็นครึ่งหุ้นได้ก็ตาม แต่ในการบังคับตามคำพิพากษาในกรณีเช่นนี้เป็นการฟ้องขอแบ่งสินสมรสซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์รวม ต้องบังคับตาม ป.พ.พ. มาตรา 1364 เว้นแต่ศาลจะพิพากษาเป็นอย่างอื่น เมื่อศาลมิได้พิพากษาเป็นอย่างอื่น หากมีข้อขัดข้องในชั้นบังคับคดีก็ต้องดำเนินการตามบทกฎหมายดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3331/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจบังคับคดีประกัน จำเป็นต้องใช้ทนายของแผ่นดิน (พนักงานอัยการ) ไม่ใช่ศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดี
เมื่อมีการผิดสัญญาประกันจำเลยเกิดขึ้น พนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายของแผ่นดินต้องเป็นผู้ดำเนินคดีในการบังคับให้เป็นไปตามสัญญานั้นตามพ.ร.บ. พนักงานอัยการ พ.ศ.2498 มาตรา 11 (8) ซึ่งหมายถึงการขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีและจัดการอื่นใดในทางอรรถคดี รวมถึงการนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของผู้ประกันเพื่อเป็นผลให้ได้เงินค่าปรับตามคำสั่งศาล หาใช่หน้าที่ของศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของศาลไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3325/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกาศขายทอดตลาดที่ดินจำนอง: ข้อผิดพลาดในการคำนวณดอกเบี้ยไม่ถึงขั้นทำให้การบังคับคดีเป็นโมฆะ
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินโดยติดจำนองและคิดดอกเบี้ยเกิน 5 ปี อาจทำให้ผู้เข้าประมูลเข้าใจผิดในยอดหนี้จำนองซึ่งเป็นการไม่สมควร แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด จำเลยไม่มีสิทธิจะร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแก้ไขประกาศขายทอดตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3325/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหน้าที่ประกาศภาระจำนองตามจริง การโต้แย้งหนี้จำนองเป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับเจ้าหนี้จำนอง
เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยโดยติดจำนอง แม้จะระบุรวมดอกเบี้ยเกินกว่า 5 ปี ก็ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นผู้วินิจฉัยหากมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับหนี้จำนองอย่างใดก็เป็นเรื่องจำเลยต้องว่ากล่าวกับเจ้าหนี้จำนองซึ่งไม่เกี่ยวกับการขายทอดตลาดประกาศขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ถึงกับเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีสิทธิร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแก้ไขประกาศดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3325/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจประกาศขายทอดตลาดโดยระบุภาระหนี้จำนอง แม้ดอกเบี้ยเกิน 5 ปี ไม่ถือเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินโดยติดจำนองและคิดดอกเบี้ยเกิน5ปีอาจทำให้ผู้เข้าประมูลเข้าใจผิดในยอดหนี้จำนองซึ่งเป็นการไม่สมควรแต่ก็ไม่ถึงกับเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใดจำเลยไม่มีสิทธิจะร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแก้ไขประกาศขายทอดตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3316/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีรื้อโรงเรือนรุกล้ำที่ดิน: การรื้อเพียงบางส่วนไม่ถือว่าปฏิบัติตามคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองและบริวารรื้อโรงเรือนออกจากที่ดินของโจทก์แม้จะบรรยายมาด้วยว่าจำเลยทั้งสองปลูกโรงเรือนรุกล้ำที่ดินของโจทก์กว้างประมาณ2.50เมตรยาวประมาณ8เมตรก็เป็นเพียงการประมาณเอาเท่านั้นจำเลยทั้งสองให้การว่าไม่ได้ปลูกโรงเรือนรุกล้ำที่ดินของโจทก์ที่พิพาทเป็นของจำเลยทั้งสองศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือของจำเลยและศาลมีคำพิพากษาคดีถึงที่สุดว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ให้จำเลยทั้งสองและบริวารรื้อถอนโรงเรือนที่รุกล้ำออกไปไม่มีประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับแนวเขตที่พิพาทหากต่อมามีปัญหาเกี่ยวกับแนวเขตที่พิพาทก็เป็นปัญหาในชั้นบังคับคดีการที่จำเลยทั้งสองเพียงแต่รื้อห้องน้ำออกไปถือไม่ได้ว่าได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้วชอบที่ศาลจะสั่งให้ไปตรวจดูว่าโรงเรือนของจำเลยทั้งสองยังคงรุกล้ำที่ดินของโจทก์อีกหรือไม่
of 270