พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: สถานที่รับของกลางสำคัญกว่าสถานที่จับกุม ฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงต้องยกฟ้อง
รับของโจรในเขตต์จังหวัดหนึ่ง แต่จับของกลางได้ในอีกจังหวัดหนึ่ง ถือว่าความผิดฐานรับของโจรกระทำผิดสำเร็จในจังหวัดที่รับของโจร และไม่ถือว่าเป็นความผิดต่อเนื่องกันเมื่อฟ้องโจทก์ระบุว่า เหตุเรื่องรับของโจรเกิดในเขตต์จังหวัดที่จับของกลางได้ ถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับฟ้องต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: สถานที่รับของสำคัญกว่าสถานที่จับกุม ฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงต้องยกฟ้อง
รับของโจรในเขตจังหวัดหนึ่ง แต่จับของกลางได้ในอีกจังหวัดหนึ่งถือว่า ความผิดฐานรับของโจรกระทำผิดสำเร็จในจังหวัดที่รับของโจรและไม่ถือว่าเป็นความผิดต่อเนื่องกัน เมื่อฟ้องโจทก์ระบุว่า เหตุเรื่องรับของโจรเกิดในเขตจังหวัดที่จับของกลางได้ ถือว่า ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับฟ้อง ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจนจำเลยไม่เข้าใจข้อกล่าวหา ศาลยกฟ้องตามวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า จำเลยทั้ง 3 บังอาจใช้กำลังกายและศาตราวุธทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จำเลยที่ 1บาดเจ็บสาหัส จำเลยที่ 2 ไม่บาดเจ็บ จำเลยที่ 3 บาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254,256 ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยคนใดย่อมไม่อาจเข้าใจว่า ต้องหาว่าทำร้ายจำเลยคนใดอย่างไร ถึงบาดเจ็บสาหัสหรือไม่และจะลงโทษตาม มาตรา 258 ก็ไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 731/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการพิสูจน์ความตายจากบาดแผล ศาลยกฟ้องเนื่องจากโจทก์มิได้พิสูจน์ความเชื่อมโยงระหว่างบาดแผลกับการเสียชีวิต
การที่ผู้ตายเมาได้เงื้อขวานจะทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้ขวานทำร้ายผู้ตาย 1 ทีถูกที่เหนือขมับซ้ายเป็นบาดแผลยาว 3.9 ซ.ม. ลึกจดกระโหลกศีรษะเล็กน้อย ผู้ตายอยู่ได้ 9 วันตาย โจทก์มิได้นำสืบว่าผู้ตายได้ตายด้วยบาดแผลนี้หรือไม่ ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวไม่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายต่อทางราชการต้องพิสูจน์ได้ การกระทำที่ไม่มีความเสียหายหรือความเสียหายไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้อง
คดีที่โจทก์หาว่า จำเลยปลอมหนังสือสำคัญในราชการนั้น เมือข้อเท็จจริงได้ความว่า ทางราชการไม่เสียหายแล้ว ส่วนข้อที่ว่าอาจจะเกิดการเสียหายหรือไม่นั้น หากกรณีเป็นที่สงสัย โจทก์6้องนำสืบให้ได้ความชัด มิฉะนั้น ไม่ถือว่าอาจจะเกิดการเสียหายและศาลพิพากษายกฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 866-870/2484)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นทำให้ตายโดยประมาท ทำให้ต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยทำให้คนตายโดยประมาท ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1782/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องรับของโจร: โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยฟังว่าจำเลยไม่รู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย
ในคดีฟ้องหาว่าจำเลยรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้องศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยรับไว้โดยไม่รู้ว่า เป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย, จึงพิพากษายืน ดังนี้โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219
(อ้างฎีกาที่ 1344/2492)
(อ้างฎีกาที่ 1344/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1782/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาข้อเท็จจริงในคดีรับของโจร: เมื่อศาลชั้นต้น/อุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาไม่ได้
ในคดีฟ้องหาว่าจำเลยรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยรับไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายจึงพิพากษายืน ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 (อ้างฎีกาที่ 1344/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ: ความเชื่อโดยสุจริตของผู้แจ้งเป็นเหตุยกฟ้อง
ความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 นั้น มีหลักเกณฑ์สำคัญอยู่ประการหนึ่งว่าผู้แจ้งได้รู้อยู่แล้วว่าความที่เอาไปแจ้งนั้นเป็นความเท็จฉะนั้นเมื่อจำเลยเอา ความไปแจ้งแก่เจ้าพนักงานตามที่จำเลยเชื่อว่าเป็นความจริงแล้วจำเลยก็ไม่มีความผิดตามมาตรา 118
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องตามศาลชั้นต้น แม้ฟังข้อเท็จจริงต่างกัน
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ตามศาลชั้นต้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงต่างกันมา ผลแห่งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็คงยกฟ้องโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้นนั่นเอง ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 (และตามตัวอย่างฎีกาที่ 497/2491)