คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิเรียกร้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,733 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอม และสิทธิเรียกร้องเงินคืนหลังชำระหนี้
โจทก์จำเลยตกลง ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ถ้า โจทก์เห็นว่าคำพิพากษาดังกล่าวไม่ถูกต้องอย่างไรก็ชอบที่จะอุทธรณ์ฎีกาให้ศาลสูงแก้ไขได้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 โจทก์จะมายื่นฟ้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาเพิกถอนคำพิพากษาของศาลนั้นเองไม่ได้ เพราะคำพิพากษามีผลผูกพันคู่ความนับตั้งแต่วันที่ได้อ่านแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2360/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าล่วงเวลา/วันหยุดพักผ่อน: ไม่ผูกติดกับการเลิกจ้าง, ค่าพักผ่อนผูกติดกับการเลิกจ้าง
เงินค่าล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณี เป็นเงินที่ นายจ้าง ต้องจ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานนอกเวลาทำงานปกติและเพื่อตอบแทนการทำงานในวันหยุดตามประเพณี ดังนี้ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างได้ทำงานล่วงเวลาและทำงานในวันหยุดตามประเพณี โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยซึ่งเป็นนายจ้าง กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องก็ต่อเมื่อจำเลยได้เลิกจ้างโจทก์.
สิทธิเรียกร้องค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีนั้นตกอยู่ในบังคับของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 45 แสดงว่าสิทธิเรียกร้องนี้ย่อมเกิดมีขึ้นต่อเมื่อนายจ้างได้เลิกจ้างลูกจ้างแล้ว ดังนี้เมื่อจำเลยมิได้เลิกจ้างโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีจากจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2238/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินค่าหุ้นของสมาชิกสหกรณ์โดยเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา: สิทธิของสมาชิก vs. สิทธิของเจ้าหนี้
ม. และ อ. ร่วมกันลงชื่อท้ายคำร้องในฐานะผู้แทนของผู้ร้องและร่วมกันลงชื่อแต่งตั้งให้ ส. เป็นทนายความมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาและดำเนินกระบวนพิจารณาต่าง ๆ แทนผู้ร้องด้วยแม้ว่า ม. จะลงชื่อในฐานะผู้เรียงและพิมพ์คำร้องแต่ผู้เดียวเมื่อ ส. ยื่นฎีกาแทนผู้ร้องจึงถือว่าเป็นฎีกาของผู้ร้องหาใช่เป็นฎีกาของ ม. เป็นการส่วนตัวไม่
เงินค่าหุ้นแม้จะเป็นทุนสำรองของผู้ร้อง แต่จำเลยที่ 2 ก็ยังมีสิทธิเรียกเอาคืนได้เพราะจำเลยที่ 2 เป็นผู้ชำระเงินค่าหุ้นดังกล่าว ระเบียบข้อบังคับต่างๆ ของผู้ร้องมิใช่กฎหมาย เป็นระเบียบภายในที่ใช้บังคับระหว่างผู้ร้องกับสมาชิก ไม่มีผลผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา การอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยที่ 2 จึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2238/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยที่ 2 โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีชอบแล้ว แม้เป็นทุนของผู้ร้อง แต่จำเลยยังมีสิทธิเรียกร้องคืนได้
ม. และ อ. ร่วมกันลงชื่อท้ายคำร้องในฐานะผู้แทนของผู้ร้องและร่วมกันลงชื่อแต่งตั้งให้ ส. เป็นทนายความมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาและดำเนินกระบวนพิจารณาต่าง ๆ แทนผู้ร้องด้วย แม้ว่า ม.จะลงชื่อในฐานะผู้เรียงและพิมพ์คำร้องแต่ผู้เดียว เมื่อ ส.ยื่นฎีกาแทนผู้ร้องจึงถือว่าเป็นฎีกาของผู้ร้อง หาใช่เป็นฎีกาของม. เป็นการส่วนตัวไม่ เงินค่าหุ้นแม้จะเป็นทุนสำรองของผู้ร้อง แต่จำเลยที่ 2 ก็ยังมีสิทธิเรียกเอาคืนได้ เพราะจำเลยที่ 2 เป็นผู้ชำระเงินค่าหุ้นดังกล่าว ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ของผู้ร้องมิใช่กฎหมาย เป็นระเบียบภายในที่ใช้บังคับระหว่างผู้ร้องกับสมาชิก ไม่มีผลผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา การอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยที่ 2 จึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2238/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินค่าหุ้นของสมาชิกสหกรณ์โดยเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา แม้ข้อบังคับสหกรณ์จะระบุเป็นทุน แต่สมาชิกยังมีสิทธิเรียกร้องคืนได้
ม. และ อ. ร่วมกันลงชื่อท้ายคำร้องในฐานะผู้แทนของผู้ร้องและร่วมกันลงชื่อแต่งตั้งให้ ส. เป็นทนายความมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาและดำเนินกระบวนพิจารณาต่างๆ แทนผู้ร้องด้วยแม้ว่า ม. จะลงชื่อในฐานะผู้เรียงและพิมพ์คำร้องแต่ผู้เดียวเมื่อ ส. ยื่นฎีกาแทนผู้ร้องจึงถือว่าเป็นฎีกาของผู้ร้องหาใช่เป็นฎีกาของ ม. เป็นการส่วนตัวไม่
เงินค่าหุ้นแม้จะเป็นทุนสำรองของผู้ร้อง แต่จำเลยที่ 2 ก็ยังมีสิทธิเรียกเอาคืนได้เพราะจำเลยที่ 2 เป็นผู้ชำระเงินค่าหุ้นดังกล่าว ระเบียบข้อบังคับต่างๆ ของผู้ร้องมิใช่กฎหมาย เป็นระเบียบภายในที่ใช้บังคับระหว่างผู้ร้องกับสมาชิก ไม่มีผลผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา การอายัดเงินค่าหุ้นของจำเลยที่ 2จึงชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2190/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คคืนเงินค้างชำระหุ้นส่วน: การโอนเช็คด้วยเจตนาฉ้อฉลทำให้ผู้รับโอนไม่มีสิทธิเรียกร้อง
จำเลยที่ 1 มีอาชีพเป็นผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ จำเลยที่ 2ว.และส.เข้าหุ้นส่วนกันสร้างภาพยนตร์โทรทัศน์โดยว. ลงทุนด้วยเงินสดจำเลยที่ 2 และ ส. ลงทุนด้วยแรงงานโดยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้จากกิจการสร้างภาพยนตร์นั้น ส่วนโจทก์เป็นหุ้นส่วนร่วมกับ ว.20เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่ว. นำมาลงและเป็นทนายความประจำสำนักงานภาพยนตร์ของ ว. จำเลยที่ 1เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทโดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลัง มอบให้ว.โดยมีข้อตกลงว่าว. จะบังคับให้ใช้เงินตามเช็คได้ต่อเมื่อภาพยนตร์ที่ร่วมกันสร้างได้ฉายทาง โทรทัศน์ จนมีกำไร เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ออกให้แก่ ว. ผู้ทรงคนก่อนเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญาหุ้นส่วน เมื่อ ว. ยังไม่ปฏิบัติตามสัญญาหุ้นส่วนโดยไม่จัดการชำระบัญชีกันให้ถูกต้อง แล้วกลับโอนเช็คให้โจทก์มาฟ้องจำเลยทั้งสอง โดยโจทก์รู้ถึงข้อตกลงในการเข้าหุ้นส่วนดังกล่าวเป็นการยืมมือโจทก์ฟ้อง ย่อมถือว่าโจทก์กับ ว. คบคิดกันฉ้อฉลจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2165/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อผิดนัดชำระและการสละสิทธิ: ผลกระทบต่อสิทธิเรียกร้องค่าเช่าซื้อ
โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ ไปจากจำเลย แล้วชำระค่าเช่าซื้อไม่ตรงตาม กำหนดเวลาในสัญญา แม้จำเลยจะยอมรับค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระและคิดดอกเบี้ย ในระหว่างผิดนัดด้วย โดย ไม่ถือว่าการไม่ชำระค่าเช่าซื้อตาม กำหนดในสัญญาเป็นการผิดสัญญาก็ตาม แต่ ต่อมาจำเลยได้ ไปยึดรถคืนเนื่องจากโจทก์ค้างชำระค่าเช่าซื้อถึง 9 งวดโจทก์ยินยอมให้จำเลยนำรถกลับไป และทำบันทึกข้อตกลงกับจำเลยว่าโจทก์จะนำค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระทั้งหมดไปชำระแก่จำเลยภายในเวลาที่กำหนด หากพ้นกำหนดถือว่าโจทก์สละสิทธิตาม สัญญาเช่าซื้อ เมื่อโจทก์ไม่ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างแก่จำเลยตาม บันทึกข้อตกลงถือได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา และโจทก์จำเลยได้ เลิกสัญญาเช่าซื้อ กันตาม บันทึกข้อตกลงดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีสิทธิขอคืนค่าเช่าซื้อที่ชำระไปจากจำเลยและเรียกค่าเสียหาย คงมีสิทธิเรียกราคาตัวถัง และดั๊ม ที่โจทก์ต่อ ขึ้นจากจำเลยได้ เมื่อหักค่าเสื่อมราคาแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนเช็คที่ปราศจากมูลหนี้โดยเจตนาฉ้อฉล ทำให้ผู้รับโอนไม่มีสิทธิเรียกร้อง
จำเลยกู้เงินจาก ส.สามีอ. จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระหนี้ดังกล่าวให้แก่ ส.โดยมอบให้อ. เป็นผู้รับไปต่อมาก่อนเช็คดังกล่าวถึงกำหนดชำระ ส. ขอร้องให้จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้ใหม่โดยบอกว่า อ. มิได้นำเช็คที่ยังไม่ได้ขึ้นเงินที่ธนาคาร ไปมอบให้แก่ ส. จำเลยจึงสั่งจ่ายเช็คให้ใหม่แทนเช็คพิพาท เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ปราศจากมูลหนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาจาก อ. โดยรู้ว่าเป็นเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกันระหว่างจำเลยกับ ส.แล้วนำไปเข้าบัญชีที่ธนาคาร ซึ่งเท่ากับโจทก์กระทำโดยไม่สุจริต ถือได้ว่าโจทก์กับ อ. คบคิดกันฉ้อฉลจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย.
ในการวินิจฉัยในประเด็นตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่าการโอนเช็คพิพาทระหว่างโจทก์กับ อ. ได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยหรือไม่ ศาลจำต้องพิจารณา ถึงมูลฐานซึ่งเป็นต้นเหตุให้โจทก์รับสลักหลังเช็คพิพาทจาก อ. เมื่อพิจารณา จากทางนำสืบของจำเลยแล้วปรากฏว่า ต้นเหตุที่โจทก์รับสลักหลังเช็คพิพาทจาก อ.ก็เนื่องมาจากโจทก์กับอ.เป็นญาติ กัน และโจทก์ประกอบวิชาชีพทนายความ อ. ซึ่งทราบเรื่องที่จำเลยออกเช็คฉบับใหม่แทนเช็คพิพาทแล้วไปปรึกษากับโจทก์เพื่อหาทางให้ได้รับเงินตามเช็คพิพาทโดยให้โจทก์รับสลักหลังเช็คนั้นแล้วนำมาฟ้องจำเลย เพราะหากให้ อ.ฟ้องเองจำเลยย่อมต่อสู้อ. โดยอาศัยความเกี่ยวพันระหว่างจำเลยกับ อ. ได้ เช่นนี้ ตามรูปเรื่องถือได้ว่าอยู่ในประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลย ศาลย่อมนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาวินิจฉัยได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกสำนวน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเหมา การบอกเลิกสัญญา ค่าปรับ และสิทธิเรียกร้องหลังบอกเลิกสัญญา
เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว สัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยย่อมระงับลง โจทก์จำเลยจึงต้องกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม ดังนั้น โจทก์จึงหามีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าปรับตามสัญญาจากจำเลยอีกต่อไปไม่ โจทก์คงมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายดังที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสี่เท่านั้น
จำเลยส่งมอบงานงวดที่ 9 ให้แก่โจทก์เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามสัญญาไป 97 วัน โจทก์จึงจ่ายเงินค่าจ้างงานงวดดังกล่าวให้จำเลยไม่เต็มโดยหักค่าปรับที่ส่งมอบงานล่าช้าตามสัญญาวันละ 2,000 บาทออกโดยจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระค่าปรับในการส่งมอบงานงวดที่ 9 ล่าช้าให้แก่โจทก์ไปแล้ว สิทธิเรียกร้องขอลดค่าปรับก็เป็นอันขาดไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรก ศาลจะหยิบยกค่าปรับส่วนนี้มาวินิจฉัยลดให้จำเลยอีกย่อมเป็นการไม่ชอบ.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการบอกเลิกสัญญาและการชำระค่าปรับ กรณีส่งมอบงานล่าช้า สิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว สัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยย่อมระงับลง โจทก์ จำเลยจึงต้อง กลับคืนสู่ฐานะ ดั่งที่เป็นอยู่เดิม ดังนั้น โจทก์จึงหามีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าปรับตาม สัญญาจากจำเลยอีกต่อไป โจทก์คงมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายดังที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสี่ เท่านั้น จำเลยส่งมอบงานงวดที่ 9 ให้แก่โจทก์เมื่อพ้นกำหนดเวลาตาม สัญญาไป 97 วัน โจทก์จึงจ่ายเงินค่าจ้างงานงวดดังกล่าวให้จำเลยไม่เต็มโดย หักค่าปรับที่ส่งมอบงานล่าช้าตาม สัญญาวันละ 2,000 บาท ออกโดยจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าจำเลยได้ ชำระค่าปรับในการส่งมอบงานงวดที่ 9 ล่าช้าให้แก่โจทก์ไปแล้ว สิทธิเรียกร้องขอลดค่าปรับก็เป็นอันขาดไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรกศาลไม่ชอบที่จะหยิบยกค่าปรับส่วนนี้มาลดให้จำเลยอีก.
of 174