พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,022 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในอาวุธปืนแยกจากใบอนุญาต ผู้มีชื่อในใบอนุญาตเป็นเพียงผู้ครอบครองและใช้
ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนไม่ใช่เป็นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ เป็นแต่เพียงเอกสารซึ่งแสดงว่า ผู้มีชื่อในใบอนุญาตเป็นผู้ครอบครองและใช้อาวุธปืน โดยได้รับอนุญาตเป็นผู้ครอบครองและใช้อาวุธปืนโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานแล้วเท่านั้น ส่วนผู้มีกรรมสิทธิ์ในปืนนั้น อาจเป็นบุคคลอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เอกสารปลอม (เครื่องหมายทะเบียนปืน) โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอม มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
อักษรและเลขหมายที่พานท้ายปืนอันเป็นเครื่องหมายทะเบียนอาวุธปืนของเจ้าพนักงานนั้น ไม่ใช่รอยตราของเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 251 แต่เป็นเอกสารตามมาตรา 1(7)
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าอักษรเลขหมายที่พานท้ายปืนของจำเลยเป็นของทำปลอมขึ้น เมื่อเจ้าพนักงานมาขอค้นจำเลยได้นำปืนดังกล่าวออกแสดงให้เจ้าพนักงานดูพร้อมใบอนุญาตของจำเลยดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยได้ใช้หรืออ้างเอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าอักษรเลขหมายที่พานท้ายปืนของจำเลยเป็นของทำปลอมขึ้น เมื่อเจ้าพนักงานมาขอค้นจำเลยได้นำปืนดังกล่าวออกแสดงให้เจ้าพนักงานดูพร้อมใบอนุญาตของจำเลยดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยได้ใช้หรืออ้างเอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืน สร้างความหวาดกลัวต่อประชาชน
จำเลยกระทำการปล้น โดยใช้ปืนยิงยางรถยนต์ที่ผู้เสียหายกับพวกโดยสารมา และยิงขู่อีก ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความหวาดหวั่นต่อประชาชนทั่วไปการกระทำของจำเลยจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืน สร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน
จำเลยกระทำการปล้น โดยใช้ปืนยิงยางรถยนต์ที่ผู้เสียหายกับพวกโดยสารมา และยิงขู่อีก ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความหวาดหวั่นต่อประชาชนทั่วไป การกระทำของจำเลยจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนของผู้อื่นที่ไม่รู้เห็นการกระทำผิด ไม่ควรริบเป็นของกลาง
เมื่อได้ความว่าปืนของกลางที่จับได้จากจำเลยเป็นปืนของผู้มีชื่อซื้อจากทางราชการขายทอดตลาด ยังไม่ได้ใบรับอนุญาต ในวันเกิดเหตุผู้มีชื่อได้นำไปฝากจำเลยไว้ ดังนี้ ปืนของกลางจึงเป็นปืนของผู้อื่นที่มิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดในคดีนี้ จึงยังไม่ควรริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนของผู้อื่นที่ไม่รู้เห็นการกระทำผิด การริบของกลาง
เมื่อได้ความว่าปืนของกลางที่จับได้จากจำเลยเป็นปืนของผู้มีชื่อซื้อจากทางราชการขายทอดตลาด ยังไม่ได้รับใบอนุญาตในวันเกิดเหตุผู้มีชื่อได้นำไปฝากจำเลยไว้ดังนี้ ปืนของกลางจึงเป็นปืนของผู้อื่นที่มิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดในคดีนี้ จึงยังไม่ควรรับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมรู้เห็นการใช้ปืนในการทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ริบปืนได้ แม้เจ้าของปืนไม่ได้ใช้เอง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยวิวาททำร้ายร่างกาย จำเลยรับสารภาพศาลลงโทษจำคุกคนละ 3 เดือน จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอคืนปืนของกลาง ศาลชั้นต้นสั่งว่าแม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้ใช้ปืนของกลางในการวิวาทและไม่ทราบว่าจำเลยที่ 2 ได้นำปืนของกลางมาใช้ในการวิวาท แต่จำเลยที 1 ได้ร่วมรู้เห็นและลงมือกระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นการริบทรัพย์ จำเลยที่ 1 อุทธรณ์เฉพาะข้อริบปืน ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 1 รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย พิพากษายืน คดีเช่นนี้จำเลยที่ 1 จะฎีกาว่าไม่รู้และมิได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 นำปืนไปใช้ในการวิวาทอีกต่อไปไม่ได้ เป็นการเถียงข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายพระภิกษุด้วยอาวุธปืน: ศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำคุกตามเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่าให้จำคุกจำเลยเพียง 6 เดือนและให้รอการลงโทษจำเลยตามมาตรา 41 ที่แก้ไขใหม่มีกำหนด 5 ปี นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้เป็นแก้มาก คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลฎีกายกฟ้องคดีฆ่าคนตายและพกพาอาวุธปืน เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาและมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แยกกะทงลงโทษจำคุกฐานฆ่าคนโดยเจตนากว่า 5 ปี และปรับฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลฎีกาไม่เชื่อว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายและปืนก็ไม่ใช่ของจำเลยและไม่ได้จับจากจำเลยศาลฎีกาย่อมพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนชั่วคราว ไม่ถือว่ามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองตามกฎหมาย
ปืนของกลางเป็นของผู้มีชื่อฝากจำเลยถือไว้ชั่วขณะที่ผู้มีชื่อไปซื้อบุหรี่ห่างจากที่จำเลยยืนคอยเพียง 10 วา ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในปืนนั้น เพราะจำเลยมิได้ยึดถือไว้เพื่อตน สิทธิครอบครอบยังอยู่แก่เจ้าของทั้งไม่เรียกว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.