พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,182 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ให้แก่ตัวแทนหรือญาติใกล้ชิดของเจ้าหนี้ หากเจ้าหนี้ให้สัตยาบัน ถือว่าการชำระหนี้สมบูรณ์
โจทก์ชำระหนี้ค่าซื้อที่ดินที่ซื้อจากจำเลยให้แก่มารดาจำเลยและน้องชายจำเลยซึ่งอยู่บ้านเดียวกับจำเลย แล้วแจ้งให้จำเลยทราบในเวลาต่อมา แต่จำเลยกลับเพิกเฉยมิได้ปฏิเสธหรือโต้แย้ง และมิได้ใช้สิทธิติดตามทวงถามคงปล่อยให้โจทก์ครอบครองที่ดินที่ซื้อขาย จนล่วงเลยกำหนดเวลาชำระหนี้ถึง 8-9 ปี ย่อมถือได้ว่าจำเลย ได้ให้สัตยาบันรับรองการชำระหนี้ของโจทก์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงลายมือชื่อในตั๋วสัญญาใช้เงินโดยมิได้ระบุว่าทำแทนผู้อื่น ถือเป็นผู้รับผิดชอบในหนี้โดยตรง
เมื่อจำเลยลงลายมือชื่อของตนโดยมิได้เขียนแถลงว่า กระทำการแทนบุคคลอีกคนหนึ่งลงไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงิน จำเลยจะอ้างว่าตนกระทำแทนบุคคลอื่นและขอนำพยานเข้าสืบประกอบข้ออ้างของตนหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงลายมือชื่อในตั๋วสัญญาใช้เงินโดยมิได้ระบุว่าลงแทนผู้อื่น ย่อมเป็นผู้รับผิดตามตั๋วเงินนั้น
เมื่อจำเลยลงลายมือชื่อของตนโดยมิได้เขียนแถลงว่า กระทำการแทนบุคคลอีกคนหนึ่งลงไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงิน จำเลยจะอ้างว่าตนกระทำแทนบุคคลอื่นและขอนำพยานเข้าสืบประกอบข้ออ้างของตนหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2323/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจรับเงินกู้: ตัวแทนกระทำภายในขอบอำนาจ ตัวการต้องรับผิด แม้ตัวการไม่ได้รับเงิน
ผู้กู้ทำหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับเงินที่กู้จากผู้ให้กู้ถือว่าผู้รับมอบอำนาจเป็นตัวแทนของผู้กู้ ผู้กู้ต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของตัวแทนของตนซึ่งกระทำไปภายในขอบอำนาจการที่ตัวแทนของผู้กู้ได้รับเงินจากผู้ให้กู้แล้ว แต่มิได้นำไปให้ผู้กู้หาทำให้สัญญากู้ไม่สมบูรณ์ไม่ ผู้ให้กู้ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกเงินกู้จากผู้กู้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2122/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินร่วมกัน แม้ไม่ได้ลงชื่อในสัญญากู้ ผู้รับประโยชน์ย่อมมีหน้าที่รับผิดชอบหนี้ร่วมกัน
จำเลยที่ 1 เป็นสามี จำเลยที่ 2 เป็นภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันจำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์เพื่อซื้อบ้านมาอยู่อาศัยด้วยกันและซื้อทรัพย์สินอื่นมาใช้ร่วมกัน เมื่อจำเลยทั้งสองเลิกร้างกัน จำเลยที่ 2 ได้ฟ้องแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวจากจำเลยที่ 1 จึงถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ยอมรับเอาประโยชน์จากการที่จำเลยที่ 1 ไปกู้เงินโจทก์และยินยอมให้จำเลยที่ 1 กระทำไปในฐานะตัวแทนอันมีผลให้จำเลยที่ 2 มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของบ้านและทรัพย์สินอื่นด้วย ฉะนั้นแม้ในสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์จะมีชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้กู้คนเดียวก็ตาม จำเลยที่ 2 ก็ต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการของจำเลยที่ 1 ในการกู้เงินโจทก์รายนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1
เมื่อจำเลยกู้เงินของสมาคมโจทก์ คือ เอาเงินของสมาคมโจทก์ไปจำเลยก็มีหน้าที่ต้องใช้เงินคืนแก่สมาคมโจทก์ จำเลยจะโต้แย้งว่าสมาคมโจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์ในการให้กู้เงิน ไม่มีอำนาจฟ้องนั้นไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1804/2500)
เมื่อจำเลยกู้เงินของสมาคมโจทก์ คือ เอาเงินของสมาคมโจทก์ไปจำเลยก็มีหน้าที่ต้องใช้เงินคืนแก่สมาคมโจทก์ จำเลยจะโต้แย้งว่าสมาคมโจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์ในการให้กู้เงิน ไม่มีอำนาจฟ้องนั้นไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1804/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2101/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาตัวแทน vs. จ้างทำของ: ความรับผิดของตัวการเมื่อตัวแทนผิดสัญญาซื้อขาย
จ. ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำสัญญากับบริษัท ว. มีข้อความสำคัญว่า ผู้ว่าจ้าง (จ) ตกลงให้ผู้รับจ้าง (ว) ขายหรือเลหลังที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างได้ในราคาไม่ต่ำกว่า 2,000,000 บาท หรือหากต่ำกว่าราคานี้ก็ต่อเมื่อผู้รับจ้าง (ว) ได้รับความยินยอมจากผู้ว่าจ้าง (จ) ให้ขายได้ ดังนี้ ย่อมมีความหมายว่า ถ้ามีผู้ซื้อเสนอขอซื้อในราคาที่กำหนดไว้นี้แล้ว ว. มีอำนาจเป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะซื้อขายกับผู้ขอซื้อได้เลยและสัญญานั้นมีผลผูกพัน จ. และเมื่อ ว. ทำสัญญาจะซื้อขายกับผู้ขอซื้อไว้ในนามของ ว. แต่เวลาจะโอนกรรมสิทธิ์ จ. ซึ่งเป็นเจ้าของต้องจัดการโอนให้ ไม่ใช่ว่า ว. จะทำการโอนขายไปเป็นผลสำเร็จได้เองดังนี้ แม้ ว. จะเป็นผู้มีอาชีพประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าขายทอดตลาดก็ไม่ทำให้สัญญาระหว่าง จ. กับ ว. เป็นเรื่อง ตัวแทนค้าต่าง
ว. เป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะขายที่ดินพร้อมด้วยตึกแถวให้โจทก์ แล้ว จ. กลับโอนที่ดินและตึกแถวนั้นให้ผู้อื่นไป ถ้าไม่สามารถโอนที่ดินและตึกนั้นให้โจทก์ได้ จ. จะต้องคืนเงินที่ ว. รับไว้จากโจทก์และต้องเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินที่คืนนั้น นอกจากนี้ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีกด้วย
ตัวแทนของเจ้าของทำสัญญาจะขายที่ดินและตึกแถวให้โจทก์แล้วเจ้าของกลับโอนที่ดินและตึกนั้นให้ผู้อื่นไป การที่เคยมีผู้มาขอซื้อที่ดินและตึกนั้นจากโจทก์ในราคาเป็นเงินจำนวนหนึ่งเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษเท่ากับราคาที่มีผู้มาขอซื้อนั้น แต่ถือได้ว่าที่ดินและตึกนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นแน่นอนซึ่งเป็นความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นจากการไม่ชำระหนี้ของฝ่ายเจ้าของที่ดินและตึก ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ตามจำนวนที่เห็นสมควร
ว. เป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะขายที่ดินพร้อมด้วยตึกแถวให้โจทก์ แล้ว จ. กลับโอนที่ดินและตึกแถวนั้นให้ผู้อื่นไป ถ้าไม่สามารถโอนที่ดินและตึกนั้นให้โจทก์ได้ จ. จะต้องคืนเงินที่ ว. รับไว้จากโจทก์และต้องเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินที่คืนนั้น นอกจากนี้ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีกด้วย
ตัวแทนของเจ้าของทำสัญญาจะขายที่ดินและตึกแถวให้โจทก์แล้วเจ้าของกลับโอนที่ดินและตึกนั้นให้ผู้อื่นไป การที่เคยมีผู้มาขอซื้อที่ดินและตึกนั้นจากโจทก์ในราคาเป็นเงินจำนวนหนึ่งเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษเท่ากับราคาที่มีผู้มาขอซื้อนั้น แต่ถือได้ว่าที่ดินและตึกนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นแน่นอนซึ่งเป็นความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นจากการไม่ชำระหนี้ของฝ่ายเจ้าของที่ดินและตึก ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ตามจำนวนที่เห็นสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2101/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาตัวแทนกับการรับผิดในสัญญาซื้อขาย: ตัวแทนมีหน้าที่คืนเงินและชดใช้ค่าเสียหายเมื่อผิดสัญญา
จ. ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำสัญญากับบริษัท ว.มีข้อความสำคัญว่าผู้ว่าจ้าง (จ) ตกลงให้ผู้รับจ้าง (ว) ขายหรือเลหลังที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างได้ในราคาไม่ต่ำกว่า 2,000,000 บาท หรือหากต่ำกว่าราคานี้ก็ต่อเมื่อผู้รับจ้าง (ว) ได้รับความยินยอมจากผู้ว่าจ้าง (จ) ให้ขายได้ ดังนี้ ย่อมมีความหมายว่า ถ้ามีผู้ซื้อเสนอขอซื้อในราคาที่กำหนดไว้นี้แล้ว ว. มีอำนาจเป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะซื้อขายกับผู้ขอซื้อได้เลยและสัญญานั้นมีผลผูกพันจ. และเมื่อ ว. ทำสัญญาจะซื้อขายกับผู้ขอซื้อไว้ในนามของ ว. แต่เวลาจะโอนกรรมสิทธิ์ จ. ซึ่งเป็นเจ้าของต้องจัดการโอนให้ ไม่ใช่ว่า ว. จะทำการโอนขายไปเป็นผลสำเร็จได้เองดังนี้ แม้ ว. จะเป็นผู้มีอาชีพประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าขายทอดตลาดก็ไม่ทำให้สัญญาระหว่าง จ. กับ ว. เป็นเรื่องตัวแทนค้าต่าง
ว. เป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะขายที่ดินพร้อมด้วยตึกแถวให้โจทก์ แล้ว จ. กลับโอนที่ดินและตึกแถวนั้นให้ผู้อื่นไป ถ้าไม่สามารถโอนที่ดินและตึกนั้นให้โจทก์ได้ จ. จะต้องคืนเงินที่ ว. รับไว้จากโจทก์และต้องเสีย ดอกเบี้ยสำหรับเงินที่คืนนั้น นอกจากนี้ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีกด้วย
ตัวแทนของเจ้าของทำสัญญาจะขายที่ดินและตึกแถวให้โจทก์แล้วเจ้าของกลับโอนที่ดินและตึกนั้นให้ผู้อื่นไป การที่เคยมีผู้มาขอซื้อที่ดินและตึกนั้นจากโจทก์ในราคาเป็นเงินจำนวนหนึ่งเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษเท่ากับราคาที่มีผู้มาขอซื้อนั้น แต่ถือได้ว่าที่ดินและตึกนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นแน่นอนซึ่งเป็นความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นจากการไม่ชำระหนี้ของฝ่ายเจ้าของที่ดินและตึก ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ตามจำนวนที่เห็นสมควร
ว. เป็นตัวแทนของ จ. ทำสัญญาจะขายที่ดินพร้อมด้วยตึกแถวให้โจทก์ แล้ว จ. กลับโอนที่ดินและตึกแถวนั้นให้ผู้อื่นไป ถ้าไม่สามารถโอนที่ดินและตึกนั้นให้โจทก์ได้ จ. จะต้องคืนเงินที่ ว. รับไว้จากโจทก์และต้องเสีย ดอกเบี้ยสำหรับเงินที่คืนนั้น นอกจากนี้ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีกด้วย
ตัวแทนของเจ้าของทำสัญญาจะขายที่ดินและตึกแถวให้โจทก์แล้วเจ้าของกลับโอนที่ดินและตึกนั้นให้ผู้อื่นไป การที่เคยมีผู้มาขอซื้อที่ดินและตึกนั้นจากโจทก์ในราคาเป็นเงินจำนวนหนึ่งเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษเท่ากับราคาที่มีผู้มาขอซื้อนั้น แต่ถือได้ว่าที่ดินและตึกนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นแน่นอนซึ่งเป็นความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นจากการไม่ชำระหนี้ของฝ่ายเจ้าของที่ดินและตึก ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ตามจำนวนที่เห็นสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจและตัวแทนในการซื้อขายที่ดิน: การกระทำของทนายความในฐานะตัวแทนจำเลย
การประพฤติปฏิบัติของ อ. ซึ่งได้รับมอบจากจำเลยที่ 1 นำโฉนดที่ดินของจำเลยที่ 1 ไปมอบให้บริษัทโจทก์ที่ 2 ขายทอดตลาดเมื่อโจทก์ที่ 2 รับโฉนดแล้วได้ติดต่อให้ อ. พาไปดูที่ดิน ต่อมา อ. ได้รับประกาศขายทอดตลาดแล้ว อ. และเจ้าหน้าที่ธนาคารจำเลยที่ 2 ได้ไปที่บริษัทโจทก์ที่ 2 ในวันขายทอดตลาดและร่วมปรึกษาหารือถึงการขายที่ดินและตกลงราคาขั้นต่ำให้ขาย ทั้งอยู่ด้วยในเวลาดำเนินการขายทอดตลาดจนเสร็จสิ้น ต้องถือว่าจำเลยที่1 มอบให้ อ. เป็นตัวแทนในเรื่องการขายทอดตลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจทางประจักษ์และโดยปริยายในการขายทอดตลาด: ตัวแทน, การปฏิบัติ, และผลผูกพัน
การประพฤติปฏิบัติของ อ. ซึ่งได้รับมอบจากจำเลยที่ 1 นำโฉนดที่ดินของจำเลยที่ 1 ไปมอบให้บริษัทโจทก์ที่ 2 ขายทอดตลาดเมื่อโจทก์ที่ 2 รับโฉนดแล้วได้ติดต่อให้ อ. พาไปดูที่ดินต่อมา อ.ได้รับประกาศขายทอดตลาดแล้ว อ. และเจ้าหน้าที่ธนาคารจำเลยที่ 2 ได้ไปที่บริษัทโจทก์ที่ 2 ในวันขายทอดตลาดและร่วมปรึกษาหารือถึงการขายที่ดินและตกลงราคาขั้นต่ำให้ขาย ทั้งอยู่ด้วยในเวลาดำเนินการขายทอดตลาดจนเสร็จสิ้น ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 มอบให้ อ. เป็นตัวแทนในเรื่องการขายทอดตลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม สัญญาที่ตัวแทนทำไปไม่ผูกพันโจทก์หากโจทก์ไม่ยินยอม
โจทก์มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวของโจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และฟ้องแย้งอ้างว่าจำเลยกับ อ. ได้ตกลงกันไว้ว่าจำเลยยอมย้ายออกจากตึกพิพาท โดย อ. ต้องสร้างตึกขึ้นใหม่ ให้จำเลยเช่า 15 ปี และจำเลยยอมจ่ายค่าก่อสร้างให้ อ. เป็นงวด ๆ ผิดนัดงวดใดให้ อ. ริบเงินที่ชำระแล้วได้ ถ้า อ. ไม่ก่อสร้างตามข้อตกลง อ. ยอมคืนเงินให้ ถ้าไม่คืน โจทก์ต้องรับผิดใช้คืนให้และให้จำเลยสร้างต่อจนเสร็จ ครั้นถึงกำหนดทำสัญญา อ. แจ้งว่าโจทก์ไม่ยอมรับรองตามที่ตกลงกันไว้ หากโจทก์มอบอำนาจแก่ อ. จริง อ. ย่อมเป็นตัวแทนโจทก์ ข้อตกลงนี้ย่อมผูกพันโจทก์ฟ้องแย้งเช่นนี้เท่ากับว่าถ้า อ. เป็นตัวแทนของโจทก์จริง ๆ แล้วจึงจะขอให้บังคับโจทก์ และแสดงอยู่ในตัวว่า อ. จะต้องไปเจรจากับโจทก์ให้ยอมรับรองข้อตกลงดังกล่าวอีกทีก่อน จึงไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและตัดสินชี้ขาดเข้าด้วยกันได้ ศาลย่อมไม่รับฟ้องแย้ง