คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยาเสพติด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,473 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำผิดฐานจำหน่ายยาเสพติด: การมีส่วนร่วมในการเจรจาและขับรถส่งมอบถือเป็นตัวการร่วม
จำเลยที่ 3 ได้ร่วมนั่งอยู่ด้วยในโต๊ะ เดียวกันระหว่างที่มีการเจรจาซื้อขายเฮโรอีนกันก่อนที่จะมีการจับกุม และในวันถูกจับกุมจำเลยที่ 3 ก็เป็นคนขับรถมาให้จำเลยที่ 1 ไปยังที่นัดหมายเพื่อส่งมอบเฮโรอีน เช่นนี้แสดงให้เห็นได้โดยชัดเจนว่า จำเลยที่ 3ร่วมมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเฮโรอีนของกลางด้วย จึงเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องมิใช่เพียงแต่เป็นผู้สนับสนุนให้มีการกระทำผิดเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5931/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตามกฎหมายโดยไม่ต้องมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 7 (1) บัญญัติว่าเฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง ประเภท 1 แล้ว โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบว่ามีประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้เฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และปิดประกาศให้ประชาชนทราบแล้วอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5931/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตามกฎหมายแล้ว โจทก์ไม่ต้องพิสูจน์ประกาศกระทรวง
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7(1) บัญญัติว่าเฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง ประเภท 1 แล้ว โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบว่ามีประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้เฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และปิดประกาศให้ประชาชนทราบแล้วอีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5527/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองกัญชาแบ่งเป็นถุงเล็กหลายถุง แสดงเจตนาเพื่อจำหน่าย
การที่จำเลยมีกัญชาเป็นถุงใหญ่ ๑ ถุง และแบ่งเป็นถุงเล็ก อีก ๘ ถุงไว้ในครอบครอง แสดงว่าจำเลยแบ่งกัญชาเตรียมไว้เพื่อ จำหน่าย จึงมีความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5527/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองกัญชาแบ่งเป็นถุงเล็กหลายถุงถือเป็นการเตรียมเพื่อจำหน่าย มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
การที่จำเลยมีกัญชาเป็นถุงใหญ่ 1 ถุง และแบ่งเป็นถุงเล็กอีก 8 ถุงไว้ในครอบครอง แสดงว่าจำเลยแบ่งกัญชาเตรียมไว้เพื่อจำหน่าย จึงมีความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5309/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดร่วมกันครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย อิทธิพลสามีเป็นเหตุบรรเทาโทษ
จำเลยที่ 3 เป็นภริยาจำเลยที่ 2 บุคคลทั้งสองเป็นชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกัน ในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ไปพบปะพูดกับจำเลยที่ 1 ด้วยกันเมื่อจำเลยที่ 2 รับห่อเฮโรอีนจากจำเลยที่ 1 ใส่ถุงกระดาษถือมาที่ห้างสรรพสินค้าเที่ยวแรกแล้วจำเลยที่ 2 ก็ส่งให้แก่จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ได้เปิดดูแล้วคล้อง ถุงกระดาษไว้กับรถเข็นเด็กซึ่งมีบุตรนั่งอยู่พฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5309/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในคดียาเสพติด: ลดโทษจากอิทธิพลสามีผู้ติดยา
จำเลยที่ 3 เป็นภริยาจำเลยที่ 2 บุคคลทั้งสองเป็นชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกัน ในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 2และจำเลยที่ 3 ไปพบปะพูดกับจำเลยที่ 1 ด้วยกันเมื่อจำเลยที่ 2รับห่อเฮโรอีนจากจำเลยที่ 1 ใส่ถุงกระดาษถือมาที่ห้างสรรพสินค้าเที่ยวแรกแล้วจำเลยที่ 2 ก็ส่งให้แก่จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ได้เปิดดูแล้วคล้อง ถุงกระดาษไว้กับรถเข็นเด็กซึ่งมีบุตรนั่งอยู่พฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4955/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นฎีกาเกินกำหนด & ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน: ศาลฎีกาไม่รับฎีกาเนื่องจากเหตุสุดวิสัยไม่สมเหตุผล & วางโทษอาวุธปืนใหม่
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นรับฎีกาภายหลังระยะเวลาที่จะยื่นฎีกาได้สิ้นสุดลงแล้ว ดังนี้ จำเลยมีสิทธิจะขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาได้เฉพาะกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยเท่านั้น แต่พฤติการณ์ตามคำร้องของจำเลยที่อ้างว่า จำเลยไม่เข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ในการต่อสู้คดีว่าจำเลยมีสิทธิที่จะยื่นฎีกาภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทนายจำเลยเพิ่งทราบว่าศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาฎีกาแล้วจำเลย ไม่มีเจตนาที่จะไม่ยื่นฎีกาภายในกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดนั้น ไม่ใช่กรณีที่มีเหตุสุดวิสัย จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จำเลยจะขอขยายระยะเวลาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีมอร์ฟีน โคเคอีน และฝิ่นไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายในวาระเดียวกัน แม้วัตถุแห่งการกระทำความผิดจะต่างชนิดกัน แต่ต่างเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองพร้อมกระสุนปืนลูกซองและกระสุนปืนขนาด .32 ไว้ในครอบครองเป็นกรรมเดียวกัน แต่ศาลล่างทั้งสองวางโทษ 2 กระทง จึงไม่ชอบ แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์และฎีกาปัญหาข้อนี้แต่ปัญหานี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงวางโทษเสียใหม่ให้ถูกต้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4693/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติด: ความผิดสำเร็จ vs. พยายามกระทำความผิด
สิบตำรวจตรี ป.ล่อซื้อเฮโรอีนจากจำเลย สิบตำรวจตรี ป.เอาธนบัตรยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลังของจำเลยแล้วจำเลยเดินไปที่ป่าละเมาะหลังบ้าน จำเลยตกลงจะจำหน่ายเฮโรอีนให้ และที่เดินไปป่าหลังบ้านก็เพื่อจะนำเฮโรอีนมาให้เป็นการลงมือกระทำความผิดในข้อหาจำหน่ายเฮโรอีนแล้ว แต่จำเลยมีเฮโรอีนจำนวน 9 หลอด จำเลยยังไม่ได้แบ่งแยกเฮโรอีนส่งมอบให้แก่สิบตำรวจตรี ป.ยังไม่ทราบว่าธนบัตรที่สิบตำรวจตรี ป.ยัดใส่กระเป๋ามีจำนวนเท่าใด และจำเลยจะต้องมอบเฮโรอีนให้สิบตำรวจตรี ป.จำนวนเท่าใด ดังนี้ การซื้อขายหรือจำหน่ายเฮโรอีนยังไม่เป็นความผิดสำเร็จ โดยเป็นเพียงขั้นพยายามเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2517/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษตามกฎหมายยาเสพติด: ศาลต้องระบุมาตราและวรรคที่ผิดชัดเจน การแก้คำพิพากษาโดยอุทธรณ์ชอบแล้ว
พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 8เป็นบทกำหนดโทษที่แก้ไขใหม่ของมาตรา 76 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 8เท่ากับลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 76(ที่แก้ไขใหม่) ซึ่งความผิดตามมาตรา 76 ดังกล่าวมีหลายวรรคแต่ละวรรคกำหนดโทษไว้แตกต่างกัน การที่ศาลชั้นต้นไม่ระบุว่าจำเลยมีความผิดวรรคใดย่อมไม่ถูกต้อง ศาลอุทธรณ์แก้เสียให้ถูกต้องได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ.
of 148