พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,032 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อทรัพย์สินจากผู้ไม่มีสิทธิโอน กรรมสิทธิไม่ตกแก่ผู้ซื้อ แม้จะซื้อโดยสุจริต เจ้าของเดิมมีสิทธิเรียกคืนได้
ซื้อเรือมาดไว้จากผู้ที่ยักยอกเจ้าของมา แม้จะซื้อไว้โดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิเจ้าของย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนได้
โจทก์ฟ้องเรียกเรือคืนจากจำเลย ๆ ให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า เรือพิพาทเป็นทรัพย์ของผู้อื่น และจำเลยซื้อจากผู้นั้น โดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตเท่านั้น ดังนี้ ประเด็นข้อที่ว่า ผู้ขายเป็นพ่อค้าขายเรือหรือไม่ จึงไม่ต้องวินิจฉัยและจำเลยไม่มีสิทธิจะยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาได้
โจทก์ฟ้องเรียกเรือคืนจากจำเลย ๆ ให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า เรือพิพาทเป็นทรัพย์ของผู้อื่น และจำเลยซื้อจากผู้นั้น โดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตเท่านั้น ดังนี้ ประเด็นข้อที่ว่า ผู้ขายเป็นพ่อค้าขายเรือหรือไม่ จึงไม่ต้องวินิจฉัยและจำเลยไม่มีสิทธิจะยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงซื้อขายและการเป็นผู้เสียหาย: ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนถูกหลอกลวง ย่อมเป็นผู้เสียหาย
จำเลยได้หลอกลวงขอซื้อน้ำอัดลมไปจากหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด แล้วไม่ยอมชำระราคา กลับปฏิเสธว่าไม่ได้มาติดต่อขอซื้อน้ำอัดลม ดังนี้ ถือได้ว่าผู้จัดการนั้นเป็นผู้เสียหาย เพราะเป็นผู้ถูกหลอกลวง ส่วนน้ำอัดลมจะเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือไม่ หาเป็นเหตุกระทำให้ผู้จัดการ ซึ่งเป็นผู้เสียหายอยู่แล้วกลายเป็นมิใช่ผู้เสียหายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้หลังการเสียชีวิตของผู้ทำสัญญาเดิม และการเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเนื่องจากผู้ซื้อไม่สุจริต
มารดาทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่เขา โดยได้รับเงินค่าที่ดินนั้นไว้บางส่วน และส่งมอบที่ดินให้เขาครอบครองแล้ว ครั้นมารดาถึงแก่กรรม บุตรผู้เป็นทายาทได้ไปขอรับเงินค่าที่ดินนั้นเพิ่มเติมจากผู้ซื้อ และรับว่าจะปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินนั้น ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินให้แก่เขา แล้ว กลับเอาที่ดินไปจดทะเบียนการซื้อขายกันที่อำเภอ เมื่อปรากฎว่าญาติผู้ซื้อรับโอนที่ดินรายนี้ไว้โดยไม่สุจริต ล่วงรู้ถึงพฤติการณ์อันทำให้ผู้ซื้อคนแรกเป็นเจ้าหนี้ผู้ขายต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายรายหลังนี้ได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินให้แก่เขา แล้ว กลับเอาที่ดินไปจดทะเบียนการซื้อขายกันที่อำเภอ เมื่อปรากฎว่าญาติผู้ซื้อรับโอนที่ดินรายนี้ไว้โดยไม่สุจริต ล่วงรู้ถึงพฤติการณ์อันทำให้ผู้ซื้อคนแรกเป็นเจ้าหนี้ผู้ขายต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายรายหลังนี้ได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายห้องเช่าเพื่อเลี่ยงสัญญาเช่า เป็นโมฆะ
โจทก์ไม่พอใจผู้เช่าเคหะของโจทก์ ได้เพียรพยายามจะให้ออกไปจากห้องเช่าทุกวิถีทางก็ไม่สำเร็จ จึงใช้วิธีขายเฉพาะตัวห้องพิพาทให้จำเลย โดยตกลงกันให้จำเลยรื้อห้องพิพาทไป ทั้งๆที่รู้อยู่ว่า ผู้เช่าก็ยังเช่าอยู่ เช่นนี้ย่อมเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และเป็นการตกลงที่ทำให้โจทก์ผู้ให้เช่าหลุดพ้นจากหน้าที่หรือภาระซึ่งมีอยู่ตามสัญญาเช่า คือถ้าต้องรื้อห้องไป หน้าที่หรือภาระที่ห้องจะต้องปลูกอยู่ในที่ดินตรงนั้นก็หลุดพ้นไปคือ โจทก์เอาที่ดินตรงนั้นไปทำประโยชน์อื่นได้ การตกลงเช่นนี้ เป็นการตกลงขัดกับ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯพ.ศ.2489 มาตรา 11(3) ข้อตกลงซื้อขายเฉพาะเพื่อให้รื้อถอนไป จึงตกเป็นโมฆะ โจทก์จะขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนห้องพิพาทไปมิได้(คดีนี้ผู้เช่าร้องสอดเข้าเป็นจำเลย)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401-402/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงซื้อขายด้วยวาจาไม่มีผลบังคับใช้หากไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือเงินมัดจำ
โจทก์ตกลงให้จำเลยใส่ชื่อเป็นผู้ซื้อ หากโจทก์มีเงินมาชำระให้จำเลยเมื่อไรจำเลยยอมโอนคืนที่ 2 แปลงที่จำเลยซื้อไว้ให้โจทก์ ดังนี้ เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ หรือวางเงินมัดจำไว้ ข้อตกลงดังกล่าวด้วยปากเปล่าโจทก์จะฟ้องขอให้ศาลบังคับคดีหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำพิพากษาในคดีซื้อขายที่ดินต่อบุคคลภายนอก: กรรมสิทธิไม่ได้มาจากคำพิพากษาเดิม
ฟ้องอ้างว่าจำเลยเป็นตัวแทนซื้อที่ดินให้ตนขอให้บังคับจำเลยโอนที่รายนั้นแก่ตน จำเลยปฏิเสธต่อสู้ว่าจำเลยซื้อของจำเลยเองกับตัดฟ้องว่าการตั้งตัวแทนไปซื้อที่ดินไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้และคู่ความท้าเอาแพ้ชนะกันด้วยข้อตัดฟ้องข้อเดียวศาลวินิจฉัยว่าการตั้งตัวแทนไปประมูลซื้อที่ดินที่ขายทอดตลาดไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงพิพากษาให้จำเลยโอนที่ให้โจทก์ ดังนี้หาใช่เป็นคำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิแห่งที่รายพิพาทเป็นคูณแก่โจทก์ไม่ ฉะนั้นโจทก์จะอาศัยคำพิพากษานั้นไปใช้ยันบุคคลภายนอกตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 145 วรรค 2 (2) ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องยักยอกทรัพย์เคลือบคลุม หากไม่ชัดเจนเรื่องกรรมสิทธิ์ผลกำไรจากการซื้อขาย ศาลยกฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยได้รับมอบเงินเพื่อไปซื้อข้าวเปลือกไว้ขายเอากำไร แล้วนำเงินมาส่งแก่เจ้าของ จำเลยได้มีเจตนาทุจริตยักยอกเงินจำนวนดังกล่าวเสีย ดังนี้ เป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะเป็นฟ้องที่อาจตีความได้หลายนัย คือไม่กล่าวว่าผลกำไรจากการซื้อขายข้าวนั้นตกเป็นของใครจึงอาจตกเป็นของจำเลยผู้วิ่งเต้นซื้อขาย ส่วนเจ้าของเงินได้แต่ค่าป่วยการ เช่นการกู้ยืมหรือว่ากำไรนั้นแบ่งกันเป็นทำนองหุ้นส่วน หรือว่ากำไรเป็นของเจ้าของเงินแต่ผู้เดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304-305/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในรถยนต์โอนทันทีเมื่อซื้อขาย การจดทะเบียนไม่ใช่หลักฐานกรรมสิทธิ์
การซื้อขายรถยนต์นั้น เมื่อการซื้อขายสำเร็จแล้วกรรมสิทธิ+รถยนต์ก็โอนไปยังผู้ซื้อทันที เลขมากมายและทะเบียนรถยนต์นั้นมิใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิ ตามกฎหมายแพ่งแต่อย่างใด เป็นเรื่องการควบคุมการใช้ยานพาหนะเท่านั้น
มอบรถยนต์ให้เขาไปขายให้เขาจึงได้จัดการขายไป โดยมอบรถยนต์แก่ผู้ซื้อไปแล้ว และรับชำระราคาบางส่วนแล้ว ดังนี้ ในกรณีเช่นนี้ การซื้อขายก็ดี การตั้งตัวแทนก็ดี กฎหมายมิได้บังคับให้หาหลักฐานเป็นหนังสือ
มอบรถยนต์ให้เขาไปขายให้เขาจึงได้จัดการขายไป โดยมอบรถยนต์แก่ผู้ซื้อไปแล้ว และรับชำระราคาบางส่วนแล้ว ดังนี้ ในกรณีเช่นนี้ การซื้อขายก็ดี การตั้งตัวแทนก็ดี กฎหมายมิได้บังคับให้หาหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304-305/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนทันทีเมื่อซื้อขายสำเร็จ เลขทะเบียนไม่ใช่หลักฐานกรรมสิทธิ์ การซื้อขาย/ตั้งตัวแทนไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ
การซื้อขายรถยนต์นั้น เมื่อการซื้อขายสำเร็จแล้วกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ก็โอนไปยังผู้ซื้อทันทีเลขหมายและทะเบียนรถยนต์นั้นมิใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิ์ ตามกฎหมายแพ่งแต่อย่างใด เป็นเรื่องการควบคุมการใช้ยานพาหนะเท่านั้น
มอบรถยนต์ให้เขาไปขายให้เขาจึงได้จัดการขายไป โดยมอบรถยนต์แก่ผู้ซื้อไปแล้ว และรับชำระราคาบางส่วนแล้วดังนี้ ในกรณีเช่นนี้ การซื้อขายก็ดี การตั้งตัวแทนก็ดี กฎหมายมิได้บังคับให้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ
มอบรถยนต์ให้เขาไปขายให้เขาจึงได้จัดการขายไป โดยมอบรถยนต์แก่ผู้ซื้อไปแล้ว และรับชำระราคาบางส่วนแล้วดังนี้ ในกรณีเช่นนี้ การซื้อขายก็ดี การตั้งตัวแทนก็ดี กฎหมายมิได้บังคับให้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดก่อนคำพิพากษา แม้ผู้ซื้อสุจริตก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจฟ้องเรียกทรัพย์คืน
การยึดทรัพย์จำเลยก่อนคำพิพากษานั้น แม้การยึดทรัพย์เจ้าพนักงานจะมิได้แจ้งให้จำเลยทราบเพราะไม่พบตัวจำเลยก็ไม่ทำให้การยึดนั้นเสียไป
จำเลยซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา แก่ผู้ซื้อ แม้ผู้ซื้อจะซื้อโดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิตามนัยแห่ง ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 259,305 และในภายหลังปรากฎว่าจำเลยถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เพราะมีผู้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่สามารถเข้าครอบครองทรัพย์ที่ถูกยึดดังกล่าวข้างต้นได้ เนื่องจากเมื่อซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดกันแล้ว ผู้ซื้อก็ขนเอาทรัพย์นั้นไปหมด โดยผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นได้รู้เห็น ดังนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องให้ผู้ซื้อทรัพย์นั้นกับผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้น ส่งทรัพย์ที่เอาไปได้ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องใช้ราคา
จำเลยซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา แก่ผู้ซื้อ แม้ผู้ซื้อจะซื้อโดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิตามนัยแห่ง ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 259,305 และในภายหลังปรากฎว่าจำเลยถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เพราะมีผู้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่สามารถเข้าครอบครองทรัพย์ที่ถูกยึดดังกล่าวข้างต้นได้ เนื่องจากเมื่อซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดกันแล้ว ผู้ซื้อก็ขนเอาทรัพย์นั้นไปหมด โดยผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นได้รู้เห็น ดังนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องให้ผู้ซื้อทรัพย์นั้นกับผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้น ส่งทรัพย์ที่เอาไปได้ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องใช้ราคา