คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บอกเลิกสัญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,021 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1183/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าค้างชำระ & การบอกเลิกสัญญาทางไปรษณีย์ลงทะเบียน การแจ้งผลถึงผู้รับสำคัญกว่าการได้รับ
สัญญาเช่าบ้านที่ผู้ให้เช่าและผู้เช่าทำต่อกันระบุไว้ชัดแจ้งว่า ผู้เช่าต้องชำระค่าเช่าในวันสิ้นเดือนตามปฏิทินทุกๆ เดือนนั้น เมื่อผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าเมื่อถึงวันสิ้นเดือนตามปฏิทิน ผู้เช่าก็ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดชำระค่าเช่าแล้ว
การบอกกล่าวเลิกการเช่าซึ่งผู้ให้เช่าส่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เจ้าหน้าที่ผู้ส่งบันทึกว่า "ผู้รับไม่ยอมรับ ขอคืน" นั้น ถือได้ว่าการแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาเช่ามีผลแล้วนับแต่เวลาที่ไปถึงผู้เช่าเป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934-936/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าช่วงตัดไม้ผิดกฎหมาย: โจทก์บอกเลิกสัญญาได้โดยไม่ต้องรับผิดค่าเสียหาย
การที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ตัดไม้เผาถ่านได้แล้วไปทำสัญญาให้จำเลยซึ่งไม่ได้รับอนุญาตเข้าดำเนินการตัดไม้เผาถ่านอีกทอดหนึ่ง แล้วต่อมาโจทก์ถูกทางราชการสั่งห้ามมิให้เช่าช่วงและได้ทำทัณฑ์บนไว้ว่าจะไม่ฝ่าฝืน โจทก์จึงบอกเลิกสัญญากับจำเลยก่อนกำหนดเวลาในสัญญาที่ทำไว้ ดังนี้ จำเลยจะเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาจากโจทก์ไม่ได้ เพราะการได้รับอนุญาตทำไม้นั้นเป็นการเฉพาะตัวซึ่งจำเลยก็รู้อยู่แล้ว แต่ได้เข้าทำสัญญาโดยเสี่ยงต่ออุปสรรคที่จะเกิดขึ้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934-936/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าช่วงตัดไม้เผาถ่าน: การบอกเลิกสัญญาเนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายและการดำเนินการที่ไม่ได้รับอนุญาต
การที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ตัดไม้เผาถ่านได้แล้วไปทำสัญญาให้จำเลยซึ่งไม่ได้รับอนุญาตเข้าดำเนินการตัดไม้เผาถ่านอีกทอดหนึ่งแล้วต่อมาโจทก์ถูกทางราชการสั่งห้ามมิให้เช่าช่วงและได้ทำทัณฑ์บนไว้ว่าจะไม่ฝ่าฝืนโจทก์จึงบอกเลิกสัญญากับจำเลยก่อนกำหนดเวลาในสัญญาที่ทำไว้ดังนี้ จำเลยจะเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาจากโจทก์ไม่ได้เพราะการได้รับอนุญาตทำไม้นั้นเป็นการเฉพาะตัวซึ่งจำเลยก็รู้อยู่แล้ว แต่ได้เข้าทำสัญญาโดยเสี่ยงต่ออุปสรรคที่จะเกิดขึ้น(ประชุมใหญ่ ครั้งที่15/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 567/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฟ้องขับไล่ได้เมื่อบอกเลิกสัญญาแล้ว และไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในเขตสุขาภิบาล
การเช่าห้องที่ไม่มีหนังสือเป็นหลักฐานผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ มิใช่เป็นการฟ้องร้องบังคับคดีให้ชำระหนี้ตามสัญญาเช่าแต่อย่างใด
ห้องเช่าอยู่ในเขตสุขาภิบาล ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติให้อนุโลมเข้ารับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ เช่นเดียวกับเคหะในเขตเทศบาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาใหม่จากการบอกเลิกสัญญาเดิมและการตอบแทนกัน การมอบหมายกิจการและวัสดุเพื่อทุ่นค่าใช้จ่ายถือเป็นสัญญาที่ผูกพันได้
โจทก์ได้เข้าทำสัญญารับเหมาก่อสร้างตลาดให้จำเลย แต่ทำไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาและว่าจะดำเนินการก่อสร้างเองต่อไป ถ้ามีเงินเหลือจะคืนให้โจทก์ ให้โจทก์จัดการมอบหมายกิจการก่อสร้างตลาดทั้งหมดให้คณะกรรมการเพื่อเป็นการทุ่นรายจ่ายในการที่จะจัดซื้อต่อไป ฝ่ายโจทก์ก็สนองรับและได้มอบกิจการกับวัสดุก่อสร้างที่เหลืออยู่ ณ ที่ก่อสร้าง และที่โจทก์เก็บไว้ที่อื่นให้คณะกรรมการ ทั้งโจทก์ได้เข้าเป็นลูกจ้างรายวันเพื่อมีโอกาศดูแลควบคุมให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปโดยสมควรและถูกต้อง เพื่อหวังจะได้เงินที่เหลือดังนี้ แสดงให้เห็นว่า มีการตอบแทนกัน ก่อให้เกิดเป็นสัญญาขึ้นใหม่ซึ่งมีผลบังคับได้ มิใช่เป็นเรื่องจะให้เงินโดยเสน่หาอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาใหม่เกิดจากการตอบแทนหลังบอกเลิกสัญญาเดิม ไม่ใช่การให้โดยเสน่หา
โจทก์ได้เข้าทำสัญญารับเหมาก่อสร้างตลาดให้จำเลย แต่ทำไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จำเลยจึงบอกเลิกสัญญา และว่าจะดำเนินการก่อสร้างเองต่อไปถ้ามีเงินเหลือจะคืนให้โจทก์ ให้โจทก์จัดการมอบหมายกิจการก่อสร้างตลาดทั้งหมดให้คณะกรรมการเพื่อเป็นการทุ่นรายจ่ายในการจัดซื้อต่อไปฝ่ายโจทก์ก็สนองรับ และได้มอบกิจการกับวัสดุก่อสร้างที่เหลืออยู่ ณ ที่ก่อสร้างและที่โจทก์เก็บไว้ที่อื่นให้คณะกรรมการทั้งโจทก์ได้เข้าเป็นลูกจ้างรายวัน เพื่อมีโอกาสดูแลควบคุมให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปโดยสมควรและถูกต้อง เพื่อหวังจะได้เงินที่เหลือดังนี้ แสดงให้เห็นว่ามีการตอบแทนกันก่อให้เกิดเป็นสัญญาขึ้นใหม่ซึ่งมีผลบังคับได้มิใช่เป็นเรื่องจะให้เงินโดยเสน่หาอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1474/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าสิ้นอายุ vs. การบอกเลิกสัญญาจากข้อรับรอง: ศาลฎีกาเน้นประเด็นวันสิ้นสุดสัญญาเช่าเป็นมูลฟ้อง
ฟ้องขับไล่ที่ถือเอาเหตุที่สัญญาเช่าสิ้นอายุเป็นมูลฟ้องด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหลังบอกเลิกสัญญา และข้อยกเว้นการยึดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 288 ให้อำนาจแต่เพียงร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึด ไม่มีข้อบัญญัติให้ผู้ร้องว่ากล่าวหรือเรียกร้องในกรณีอื่น เมื่อผู้ร้องขัดทรัพย์หาว่าโจทก์จำเลยทำให้ผู้ร้องเสียหายและเรียกค่าเสียหายจากโจทก์จำเลยเนื่องจากการถูกยึดทรัพย์ ผู้ร้องก็ต้องเสนอข้อหาโดยทำเป็นคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 จะเรียกร้องมาในคำร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ทำสัญญารับจ้างเหมาสร้างทางไว้กับผู้ร้องขัดทรัพย์ก่อนถูกเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ โดยมีข้อกำหนดในสัญญาว่า "ถ้ามีการเลิกสัญญาโดยผู้รับจ้างเหมาผิดสัญญาด้วยประการใด ๆ สัมภาระสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของผู้รับจ้างเหมาที่นำไปไว้ในบริเวณที่ก่อสร้าง ผู้รับจ้างเหมายอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้างทั้งหมด ผู้รับจ้างเหมาจะนำเอาไปไม่ได้" และมีข้อสัญญาให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ในเมื่อผู้รับจ้างเหมาผิดสัญญา ดังนี้ เมื่อผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างได้บอกเลิกสัญญาโดยจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา สัมภาระสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ถูกยึดโดยเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างตามข้อกำหนดในสัญญา แม้ถึงว่าการบอกเลิกสัญญานั้นจะกระทำภายหลังที่โจทก์ได้ยึดทรัพย์นี้แล้วก็ตาม โจทก์ก็ไม่มีสิทธิให้ขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าเมื่อลูกหนี้ล้มละลาย: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจปฏิเสธสิทธิของผู้อื่นได้
จำเลยเช่าที่ดินของผู้ร้องเพื่อปลูกสร้างเป็นโกดังเก็บสินค้าๆ มีเงื่อนไขในสัญญาเช่าว่า เมื่อสัญญาเช่าเลิกลงเพราะเหตุใดๆ บรรดาสิ่งปลูกสร้างทั้งสิ้นตกเป็นทรัพย์สินของผู้ให้เช่า และมีเงื่อนไขในสัญญาเช่าว่า เมื่อผู้เช่าถูกฟ้องคดีล้มละลาย ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าได้ ต่อมาจำเลยถูกฟ้องคดีล้มละลาย ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด ผู้ร้องจึงขอยกเลิกสัญญาเช่นรายนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะอ้างมาตรา ม.122 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ปฏิเสธการบอกเลิกสัญญาเช่าของผู้ร้องหาได้ไม่ เพราะความในมาตราดังกล่าวหมายถึงทรัพย์สินหรือสิทธิตามสัญญาที่ลูกหนี้จะพึงได้รับมา ไม่ใช่ทรัพย์สินหรือสิทธิตามสัญยาที่ผู้อื่นจะพึงได้รับไป การที่ผู้ร้องใช้สิทธิตามข้อตกลงในสัญญาเช่าบอกเลิกสัญญานั้น เป็นสิทธิตามสัญญาที่ผู้อื่นจะพึงได้รับไป หาใช่สิทธิตามสัญญาที่ลูกหนี้จะพึงได้รับมาไม่ จึงไม่อยู่ในวิสัยที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะพิจารณาว่าสิทธิตามสัญญาที่ผู้อื่นจะพึงได้รับไปเช่นนี้ มีภาระเกินควรกว่าประโยชน์ที่จะพึงได้แก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าหลังล้มละลาย: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อำนาจพิจารณา
จำเลยเช่าที่ดินของผู้ร้อง เพื่อปลูกสร้างเป็นโกดังเก็บสินค้า มีเงื่อนไขในสัญญาเช่าว่า เมื่อสัญญาเช่าเลิกลงเพราะเหตุใดๆ บรรดาสิ่งปลูกสร้างทั้งสิ้นตกเป็นทรัพย์สินของผู้ให้เช่า และมีเงื่อนไขในสัญญาเช่าว่า เมื่อผู้เช่าถูกฟ้องคดีล้มละลาย ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าได้ต่อมาจำเลยถูกฟ้องคดีล้มละลาย ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด ผู้ร้องจึงบอกเลิกสัญญาเช่ารายนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะอ้าง มาตรา 122 แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ปฏิเสธการบอกเลิกสัญญาเช่าของผู้ร้องหาได้ไม่
ความใน พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 122 นั้นหมายถึงทรัพย์สิน หรือสิทธิตามสัญญาที่ลูกหนี้จะพึงได้รับมาไม่ใช่ทรัพย์สิน หรือสิทธิตามสัญญาที่ผู้อื่นจะพึงรับไป การที่ผู้ร้องใช้สิทธิตามข้อตกลงในสัญญาเช่าบอกเลิกสัญญานั้น เป็นสิทธิตามสัญญาที่ผู้อื่นจะพึงได้รับไป หาใช่สิทธิตามสัญญาที่ลูกหนี้จะพึงได้รับมาไม่ จึงไม่อยู่ในวิสัยที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะพิจารณาว่าสิทธิตามสัญญาที่ผู้อื่นจะพึงได้รับไปเช่นนี้มีภาระเกินควรกว่าประโยชน์ที่จะพึงได้แก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้หรือไม่
of 103