คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาเช่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,266 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1302-1303/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิโจทก์ในการบอกเลิกสัญญาเช่าแผงค้าและการฟ้องขับไล่ แม้จำเลยอ้างความสำคัญผิดหรือถูกข่มขู่
จำเลยเช่าแผงการค้าพิพาทจากโจทก์โดยไม่มีกำหนดเวลา แม้จำเลยจะมิได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบของโจทก์ก็ดี จำเลยลงชื่อยินยอมออกจากแผงพิพาทโดยความสำคัญผิดก็ดี ก็ไม่เป็นเหตุที่จะตัดสิทธิโจทก์ในอันที่จะบอกเลิกการเช่าแก่จำเลยโจทก์ มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมายที่จะบอกเลิกการเช่าแก่จำเลยได้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าแล้วจำเลยไม่ยอมออกจากแผงพิพาทที่เช่า โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1302-1303/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของแผงในการบอกเลิกสัญญาเช่าและการฟ้องขับไล่เมื่อผู้เช่าไม่ปฏิบัติตาม
จำเลยเช่าแผงการค้าพิพาทจากโจทก์โดยไม่มีกำหนดเวลา แม้จำเลยจะมิได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบของโจทก์ก็ดี จำเลยลงชื่อยินยอมออกจากแผงพิพาทโดยความสำคัญผิดก็ดี ก็ไม่เป็นเหตุที่จะตัดสิทธิโจทก์ในอันที่จะบอกเลิกการเช่าแก่จำเลย โจทก์มีสิทธิบริบูรณ์ตามกฎหมายที่จะบอกเลิกการเช่าแก่จำเลยได้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าแล้วจำเลยไม่ยอมออกจากแผงพิพาทที่เช่า โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าตู้สินค้า: สิทธิในพื้นที่ตั้งตู้ยังคงเป็นของผู้ให้เช่า ไม่ถือเป็นการบุกรุก
ตามสัญญาเช่าระบุว่าเช่าตู้ใส่สินค้าการระบุบริเวณที่ตั้งตู้ ก็เพื่อให้รู้ว่าตู้ที่เช่ากันเป็นตู้ใบไหน และบังคับมิให้ผู้เช่าเคลื่อนย้ายตู้นั้นไปที่อื่นอันจะทำให้ยากแก่ผู้ให้เช่าจะควบคุมดูแลรักษา หาใช่แสดงว่าเป็นการเช่าพื้นที่ที่ตั้งตู้ใส่สินค้าไม่พื้นที่ที่ตั้งตู้ จึงคงอยู่ในความครอบครองของผู้ให้เช่าซึ่งมีอำนาจที่จะเข้าไปหรือใช้ให้บุคคลอื่นเข้าไปได้ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957-958/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต้องเป็นข้อสำคัญในคดี หากประเด็นหลักเป็นเรื่องละเมิดหรือบุกรุก การเบิกความเกี่ยวกับสัญญาเช่าจึงไม่ถือเป็นความเท็จ
ในคดีแพ่งและคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างเป็นคดีนี้ว่าจำเลยเบิกความเท็จ มีประเด็นข้อพิพาทแต่เพียงว่า การที่โจทก์นำตู้และสิ่งของไปวางไว้บนทางเดินพิพาทเป็นการกระทำละเมิดต่อจำเลยหรือไม่ และมีความผิดฐานบุกรุกหรือไม่ไม่มีประเด็นว่าโจทก์เช่าห้องเลขที่ 111 ของจำเลยหรือไม่แต่อย่างใด ทั้งในคดีดังกล่าวโจทก์ก็ให้การและนำสืบรับว่าโจทก์เช่าห้องเลขที่ 111 ของจำเลยจริง เพียงแต่อ้างว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาเท่านั้นสัญญาเช่าจะได้ลงลายมือชื่อโจทก์ไว้หรือไม่ ไม่เป็นเหตุให้การวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทในคดีดังกล่าวมีผลแตกต่างออกไปแต่ประการใด ดังนั้น การที่โจทก์เบิกความในคดีดังกล่าวว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากจำเลยแต่โจทก์ไม่ได้ลงลายมือชื่อในสัญญาเช่าฉบับที่จำเลยยึดถือไว้จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีทั้งสองนั้น จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่า: ผู้รับโอนที่ดินต้องรับผิดชอบสัญญาเช่าเดิม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน จำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยให้การต่อสู้ไว้หลายประการ เช่น จำเลยไม่เคยติดค้างค่าเช่าและไม่เคยได้รับคำบอกกล่าวเลิกการเช่า โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบในข้อเท็จจริงตามที่โจทก์กล่าวอ้างและจำเลยมีหน้าที่นำสืบแก้ตามคำให้การจำเลย ในข้อเหล่านี้โจทก์จะอ้างว่าเป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับเจ้าของเดิม ไม่เกี่ยวกับโจทก์หาได้ไม่ เพราะโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วย ดังนี้ ศาลจะสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและตัดสินคดีไปย่อมเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าของผู้รับโอนที่ดิน และหน้าที่ในการนำสืบข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน จำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยให้การต่อสู้ไว้หลายประการ เช่น จำเลยไม่เคยติดค้างค่าเช่าและไม่เคยได้รับคำบอกกล่าวเลิกการเช่า โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบในข้อเท็จจริงตามที่โจทก์กล่าวอ้างและจำเลยมีหน้าที่นำสืบแก้ตามคำให้การจำเลย ในข้อเหล่านี้โจทก์จะอ้างว่าเป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับเจ้าของเดิม ไม่เกี่ยวกับโจทก์หาได้ไม่ เพราะโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วย ดังนี้ศาลจะสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและตัดสินคดีไปย่อมเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสัญญาเช่าที่ดิน: สิทธิเรียกร้องเริ่มเมื่อจำเลยไม่ส่งมอบที่ดิน แม้จะไม่ได้ระบุเวลาผิดสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างตึกแถวแล้วจำเลยผิดสัญญาไม่ยอมส่งมอบที่ดินแก่โจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ไม่อาจดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาได้ ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยผิดสัญญาเมื่อใด แต่โจทก์นำสืบว่าสัญญากันเสร็จโจทก์จะเข้าทำการก่อสร้าง จำเลยกลับไม่ยอมให้โจทก์เข้าไปทำการก่อสร้าง ดังนี้ สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะบังคับตามสัญญาเริ่มตั้งแต่วันทำสัญญาเป็นต้นไป โจทก์ฟ้องคดีเมื่อเกินกำหนด 10 ปีนับแต่วันดังกล่าว คดีโจทก์เป็นอันขาดอายุความฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163, 164 และ 169

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีสัญญาเช่าที่ดิน: เริ่มนับแต่วันผิดสัญญา หรือวันทำสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างตึกแถวแล้วจำเลยผิดสัญญาไม่ยอมส่งมอบที่ดินแก่โจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ไม่อาจดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาได้ ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยผิดสัญญาเมื่อใด แต่โจทก์นำสืบว่าสัญญากันเสร็จโจทก์จะเข้าทำการก่อสร้าง จำเลยกลับไม่ยอมให้โจทก์เข้าไปทำการก่อสร้าง ดังนี้ สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะบังคับตามสัญญาเริ่มตั้งแต่วันทำสัญญาเป็นต้นไป โจทก์ฟ้องคดีเมื่อเกินกำหนด 10 ปีนับแต่วันดังกล่าว คดีโจทก์เป็นอันขาดอายุความฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163,164และ 169

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาอันแท้จริงของสัญญาเช่า: ผู้รับโอนต้องผูกพันตามสัญญาเดิม แม้มีการขายทรัพย์สิน
ผู้เช่าได้เสียเงินกินเปล่าให้ผู้ให้เช่าจำนวน 50,000 บาท และเสียค่าเช่าในอัตราต่ำเพียงเดือนละ 70 บาท โดยจดทะเบียนการเช่ามีกำหนด 18 ปี ถึงแม้ในสัญญาเช่าจะมีข้อสัญญาว่า หากผู้ให้เช่าขายทรัพย์ที่เช่าก่อนครบกำหนดสัญญา ผู้เช่าต้องออกจากที่เช่าข้อสัญญาดังกล่าวก็เป็นการขัดกับเจตนาอันแท้จริงของคู่สัญญาผู้รับโอนทรัพย์ที่เช่าต้องรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 569 เมื่อสัญญายังไม่ครบกำหนด ผู้รับโอนจึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าโดยอาศัยข้อสัญญาที่ขัดกับเจตนาอันแท้จริงนั้น
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1361/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาแท้จริงของสัญญาเช่า: ผู้รับโอนทรัพย์ต้องผูกพันตามสัญญาเดิม แม้มีข้อตกลงให้เช่าสิ้นสุดก่อนกำหนด
ผู้เช่าได้เสียเงินกินเปล่าให้ผู้ให้เช่าจำนวน 50,000 บาท และเสียค่าเช่าในอัตราต่ำเพียงเดือนละ 70 บาท โดยจดทะเบียนการเช่ามีกำหนด 18 ปีถึงแม้ในสัญญาเช่าจะมีข้อสัญญาว่า หากผู้ให้เช่าขายทรัพย์ที่เช่าก่อนครบกำหนดสัญญา ผู้เช่าต้องออกจากที่เช่า ข้อสัญญาดังกล่าวก็เป็นการขัดกับเจตนาอันแท้จริงของคู่สัญญา ผู้รับโอนทรัพย์ที่เช่าต้องรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่า ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา569 เมื่อสัญญายังไม่ครบกำหนดผู้รับโอนจึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า โดยอาศัยข้อสัญญาที่ขัดกับเจตนาอันแท้จริงนั้น
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1361/2523)
of 227