คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หลักฐาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,327 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการชำระหนี้ใหม่นอกศาล ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวนหากไม่มีหลักฐานการชำระหนี้
เมื่อศาลได้พิพากษาคดีให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ และออกคำบังคับแล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ก็ย่อมขอให้ศาลออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยมาเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ การที่จำเลยยื่นคำร้องว่าได้มีการตกลงกับโจทก์ใหม่ และได้ชำระเงินให้แก่โจทก์ครบถ้วนตามข้อตกลงใหม่แล้ว ขอให้งดการบังคับคดี เป็นการกระทำนอกศาล โดยศาลมิได้รู้เห็นด้วย ทั้งโจทก์ก็ไม่รับรองว่าได้รับเงินครบถ้วนตามคำร้องของจำเลย ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยจะไปว่ากล่าวกับโจทก์เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก จำเลยจะยกมาเป็นเหตุให้ศาลงดการบังคับคดีหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบหลักฐานการชำระหนี้ด้วยการโอนทรัพย์สิน และข้อจำกัดในการยกประเด็นใหม่ในชั้นฎีกา
ศาลเป็นผู้พินิจพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยตามที่นำสืบมาในสำนวน การตรวจพิจารณาลายเซ็นชื่อของโจทก์ในสัญญากู้เปรียบเทียบกับลายเซ็นชื่อของโจทก์ในเอกสารต่าง ๆ ตามที่ปรากฏในสำนวนก็เป็นการพิจารณาอย่างหนึ่งที่ศาลมีอำนาจกระทำได้
จำเลยให้การโดยชัดแจ้งว่าโจทก์กู้ยืมเงินจำเลยไป 5,000 บาท ต่อมาไม่มีเงินชำระเงินต้น โจทก์จึงเอาสวนพิพาทตีราคาใช้หนี้จำเลยในราคา 3,000 บาทโดยทำสัญญายกสวนให้จำเลย ดังนี้ จำเลยย่อมนำสืบได้ ส่วนการที่ต้องทำสัญญาเป็นสัญญายกให้ก็เนื่องจากเจ้าหน้าที่ขัดข้องที่จะทำสัญญาเป็นสัญญาซื้อขาย จึงต้องทำเป็นสัญญายกให้ตามที่เจ้าหน้าที่ชี้แจง ซึ่งเป็นการนำสืบแสดงถึงเหตุที่ต้องทำเป็นสัญญายกให้เท่านั้น ถึงแม้จำเลยจะมิได้ให้การไว้โดยชัดแจ้ง จำเลยก็นำสืบได้ มิใช่จำเลยนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารและนำสืบนอกประเด็นข้อต่อสู้แต่อย่างใด
ข้อที่ว่าจำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแสดงว่าได้มีการชำระหนี้ 3,000 บาทมาแสดงต่อศาล โจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์นี้ ฎีกาโจทก์ข้อนี้จึงต้องห้าม ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 876/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบเมื่ออ้างคำอุทธรณ์แทนฎีกาชัดเจน และสัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันจำเลย
ฎีกาของจำเลยที่กล่าวเพียงว่า "จำเลยขอถือคำอุทธรณ์ของจำเลยเป็นส่วนหนึ่งของฎีกา" ไม่เป็นฎีกาที่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 แม้ต่อมาจำเลยจะได้ยื่นคำแถลงการณ์บรรยายโต้แย้งคำพยานโจทก์ว่าเบิกความแตกต่างกันก็ไม่ทำให้ฎีกาโดยย่อนั้นกลายเป็นฎีกาโดยชัดแจ้งขึ้นมา
บันทึกที่มีใจความว่า "1 โจทก์ยืนยันว่าถ้าจำเลยนำหลักฐานการซื้อขายมาแสดงได้ ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทต่อไป 2. จำเลยยืนยันว่าได้ซื้อขายมีหลักฐานเป็นหนังสือทำที่บ้านกำนันกาศ จะนำหลักฐานมาแสดง ถ้าไม่สามารถนำมาแสดงได้ยอมคืนที่ดินให้โจทก์โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น" เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรโดยมิได้จดทะเบียนสมรส: การอยู่ร่วมกันอย่างเปิดเผยและการแสดงออกซึ่งความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเป็นหลักฐานสำคัญ
พยานโจทก์เบิกความถึงพฤติการณ์ต่าง ๆ ของโจทก์จำเลยตามที่ตนเห็น ย่อมเป็นประจักษ์พยาน มิใช่พยานบอกเล่า
จำเลยมิได้ยกเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ในคำให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและไม่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์จำเลยได้แสดงโดยเปิดเผยต่อลูกจ้างเพื่อนและลูกจ้างของโจทก์ ให้เห็นความสัมพันธ์ที่โจทก์จำเลยมีต่อกันฉันชู้สาว โจทก์ได้เล่าให้มารดาและเพื่อน ๆ ฟังถึงการได้เสียและความสัมพันธ์กับจำเลยทั้งก่อนและหลังตั้งครรภ์และคลอดบุตร อันแสดงว่าไม่ใช่เป็นการอยู่ด้วยกันอย่างลักลอบปกปิด กรณีต้องด้วยมาตรา 1529(4) ที่โจทก์จะฟ้องขอให้รับรองบุตรได้ ไม่จำเป็นต้องมีพฤติการณ์ถึงขนาดอยู่กินร่วมกันฉันสามีภริยาจริง ๆ แต่มิได้จดทะเบียนเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขจำนวนเงินในหลักฐานกู้ยืม ไม่ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ แม้จะเพิ่มจำนวนเงินภายหลัง
เดิมจำเลยทำสัญญากู้เงินไว้ให้โจทก์จำนวนหนึ่งต่อมาโจทก์ลอบเติมเลข 1 ลงหน้าจำนวนเงินในเอกสารนั้นทำให้จำนวนเงินกู้มากขึ้นแล้วเอาเอกสารนั้นมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวนเดิมคือ จำนวนที่จำเลยยืมไปได้ การเติมเลข 1 ลงเพื่อเพิ่มจำนวนเงินกู้เดิมไม่ทำให้หลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือเดิมเสียไป(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้: พยานเบิกความรับรองการยอมรับของจำเลยต่อหน้าพยาน ถือเป็นหลักฐานการรับรองได้
เมื่อพยานในสัญญากู้คนหนึ่งอ่านสัญญาที่โจทก์และจำเลยนำมาให้อ่านแล้ว เห็นว่าตรงลายพิมพ์นิ้วมือยังไม่ได้เขียนระบุว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือจำเลย พยานคนนั้นจึงให้ผู้เขียนสัญญาเขียนข้อความดังกล่าวกำกับไว้ที่ลายพิมพ์นิ้วมือจำเลยต่อหน้าจำเลย พฤติการณ์ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้รับรองแล้วว่าลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญานั้นคือลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย นอกจากนี้เมื่อพยานในสัญญากู้ทั้งสองคนอ่านสัญญาแล้วได้สอบถามโจทก์จำเลยว่าได้อ่านสัญญากันดีแล้วหรือ โจทก์และจำเลยต่างรับรองว่าเข้าใจเรียบร้อยแล้ว พยานทั้งสองคนจึงลงชื่อเป็นพยาน พฤติการณ์เช่นนี้พอถือได้เช่นเดียวกันว่าจำเลยได้รับรองต่อพยานทั้งสองว่าลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือสัญญากู้เป็นลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารต้องแสดงหลักฐานการสมคบร่วมกัน การให้การรับสารภาพเพียงอย่างเดียวไม่ถือเป็นความผิด
ฟ้องที่ไม่มีข้อความอันแสดงว่าจำเลยได้สมคบหรือร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 264,265,268,83 ที่โจทก์อ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 644/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันทึกรับสภาพหนี้จากการไกล่เกลี่ยคดีอาญาใช้เป็นหลักฐานการกู้ยืมได้
บันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวนที่มีข้อความชัดแจ้งว่า จำเลยรับรองว่าได้กู้ยืมเงินของโจทก์ไปจำนวนเท่านั้นเท่านี้จริง และจำเลยได้ลงชื่อไว้ท้ายบันทึกนั้นด้วย แม้จะเป็นเรื่องพนักงานสอบสวนเรียกไปไกล่เกลี่ยในทางอาญาก็ตาม ก็ใช้บันทึกนั้นเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 644/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันทึกรับรองหนี้จากการไกล่เกลี่ยทางอาญา ใช้เป็นหลักฐานการกู้ยืมได้
บันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวนที่มีข้อความชัดแจ้งว่าจำเลยรับรองว่าได้กู้ยืมเงินของโจทก์ไปจำนวนเท่านั้นเท่านี้จริงและจำเลยได้ลงชื่อไว้ท้ายบันทึกนั้นด้วย แม้จะเป็นเรื่องพนักงานสอบสวนเรียกไปไกล่เกลี่ยในทางอาญาก็ตามก็ใช้บันทึกนั้นเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารภาพถ่ายไม่เป็นหลักฐานได้ + วินิจฉัยนอกฟ้อง
ภาพถ่ายเอกสาร(ซึ่งถ่ายจากต้นฉบับ) ไม่ใช่ต้นฉบับของเอกสาร จึงต้องห้ามมิให้รับฟัง ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 93
ฟ้องว่าเป็นหุ้นส่วนกันตามหนังสือสัญญาเข้าหุ้นส่วน เมื่อศาลไม่เชื่อว่าเป็นหุ้นส่วนกันตามหนังสือสัญญาหุ้นส่วนนั้น ศาลจะนำพฤติการณ์อื่นซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องมาวินิจฉัยว่ามีหุ้นส่วนกันมิได้เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้อง
of 133